กรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติกดปุ่มลดค่าเอฟที

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รมว.พลังงาน เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบใน 3 ประเด็น คือ 1.ให้จัดทำแผนพลังงานชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ให้รวมแผนพลังงาน 5 ฉบับเป็นแผนเดียว โดยจะเป็นแผนที่เริ่มใช้ในปี 2565 ที่กำหนดเป้าหมายประเทศไทยสามารถเข้าสู่พลังงานสะอาด ลดปริมาณ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ในปี 2065-2070 หรือในอีก 50 ปีข้างหน้า เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางโลก ซึ่งประเทศในตะวันตกก็มีนโยบายนี้และสนับสนุนให้ประเทศทั่วโลกเข้าสู่แนวทางนี้ เพราะประเทศไทยถือเป็นผู้นำด้านนี้ได้

2.เห็นชอบให้นำเข้าก๊าซธรรมชาติ (แอลเอ็นจี) ในปี 2564-2566 ในปริมาณ 480,000 ตัน, 1.74 ล้านตัน และ 3.02 ล้านตัน ตามลำดับ โดยไม่ให้กระทบกับสัญญา Take or Pay ที่ ปตท.กับผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติดำเนินการอยู่ในอ่าวไทย โดยให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ดูแลการจัดสรรและเกณฑ์การนำเข้าต่อไป และ 3.เห็นชอบปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติ เพื่อส่งเสริมให้มีการแข่งขันมากขึ้น หลังจากโครงสร้างราคาเดิมใช้มา 10 ปีแล้วตั้งแต่ปี 2554 โดยมอบให้ กกพ.รับไปดำเนินการต่อ ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าลดลงเล็กน้อย 56 ล้านบาทต่อเดือน และนำไปลดค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) ให้กับประชาชนได้ 39 สตางค์ต่อหน่วย โดยจะมีผลใน 1 ปีนับจากนี้.