"ธนกร" แจงยิบรัฐบาลช่วยทุกกลุ่ม ปลื้มคนลงคนละครึ่งเฟส 3 วันแรกเกิน 20 ล้าน

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

"ธนกร" แจงยิบรัฐบาลช่วยทุกกลุ่ม ปลื้มคนลงคนละครึ่งเฟส 3 วันแรกเกิน 20 ล้าน

Date Time: 15 มิ.ย. 2564 13:09 น.

Video

ธุรกิจอะไร กลายเป็นบริษัทที่ถือ Bitcoin มากสุดในโลกได้อย่างไร ? | Digital Frontiers EP.36

Summary

  • โฆษก ศบศ. ยืนยัน รัฐบาลมุ่งช่วยเหลือประชาชนผู้เดือดร้อนทุกกลุ่มกว่า 51 ล้านคน จากโควิด-19 หวังฟื้นฟูเศรษฐกิจ ปลื้มประชาชนลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 3 วันแรกทะลุ 20 ล้านคน

Latest


โฆษก ศบศ. ยืนยัน รัฐบาลมุ่งช่วยเหลือประชาชนผู้เดือดร้อนทุกกลุ่มกว่า 51 ล้านคน จากโควิด-19 หวังฟื้นฟูเศรษฐกิจ ปลื้มประชาชนลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 3 วันแรกทะลุ 20 ล้านคน


วันที่ 15 มิ.ย. 2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) กล่าวถึงการวิพากษ์วิจารณ์มาตรการเยียวยาประชาชนในทำนองคนเดือดร้อนมากหรือยากจนจะได้รับเงินจากรัฐบาลน้อยกว่าคนที่เดือดร้อนน้อยหรือคนไม่ยากจน ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มุ่งช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทุกกลุ่ม เพื่อลดภาระค่าครองชีพ และฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของโควิด-19 ซึ่งประกอบด้วย 4 โครงการ ครอบคลุมประชาชน 51 ล้านคน ได้แก่

1. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 จำนวน 13.6 ล้านคน
2. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ จำนวน 2.5 ล้านคน
3. โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 จำนวน 31 ล้านคน
4. โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ จำนวน 4 ล้านคน

โดยทั้ง 4 โครงการจะเริ่มใช้จ่ายในวันที่ 1 ก.ค. - 31 ธ.ค. 2564

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาการให้สวัสดิการผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งครอบคลุมประชากร จำนวนกว่า 13.65 ล้านคน

นายธนกร กล่าวเพิ่มเติมว่า การเยียวยาผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีการเพิ่มเติมวงเงิน (Top up) ค่าอุปโภคบริโภคอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยตลอดช่วงการระบาดของ โควิด-19 เริ่มจากปี 2563 ถึงปัจจุบัน มีการเพิ่มวงเงินสิทธิให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้แก่

1. ตั้งแต่ ต.ค. 2563 - มี.ค. 2564 โดยเพิ่มให้ 500 บาทต่อคน ระยะเวลา 6 เดือน รวมเป็นวงเงินสิทธิ 3,000 บาทต่อคน ภายใต้โครงการเพิ่มกำลังซื้อระยะที่ 1
2. ช่วง ก.พ. 2564 เป็นต้นมาเพิ่มเติมสิทธิวงเงินอีก 7,400/7,600 บาทต่อคน ภายใต้โครงการเราชนะ ซึ่งสามารถใช้จ่ายได้ถึงมิถุนายน 2564

สำหรับมาตรการลดภาระค่าครองชีพของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในโครงการเพิ่มกำลังซื้อ ระยะที่ 3 ที่กำลังจะเริ่มในเดือน ก.ค. 2564 เป็นการเพิ่มสิทธิวงเงินจำนวน 200 บาทต่อคน ระยะเวลา 6 เดือน รวม 1,200 บาทต่อคน สามารถนำไปใช้จ่ายได้ที่ร้านค้าธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นและร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 3 โดยไม่มีเงื่อนไขที่ประชาชนจะต้องใช้จ่ายเงินของตัวเองเพื่อให้ได้รับสิทธิ ดังนั้น ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะได้รับความช่วยเหลือเยียวยาเพิ่มเติมจากรัฐในช่วงการระบาดของ โควิด-19 รวมเป็นเงินกว่า 11,600/11,800 บาทต่อคน

ส่วนโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศผ่านผู้มีกำลังซื้อ ไม่เกิน 4 ล้านคน หากประชาชนที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวใช้จ่ายเต็มสิทธิ จะส่งผลให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ จำนวน 240,000 ล้านบาท และเมื่อประชาชนมีการนำ e-Voucher กลับมาใช้ ก็จะมีเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพิ่มอีก 28,000 ล้านบาท รวมเป็น 268,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าโครงการของรัฐบาลถูกออกแบบมาด้วยวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน เพื่อการบรรเทาภาระค่าครองชีพ และเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้กลุ่มเป้าหมายและวิธีการสนับสนุนมีความแตกต่างกันไปตามความเหมาะสม ซึ่งในส่วนของโครงการคนละครึ่งเฟส 3 ล่าสุดมีประชาชนมาลงทะเบียนวันแรกแล้วกว่า 20 ล้านคน คาดว่าจะครบ 31 ล้านคนในเร็วๆ นี้ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชน.

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ