ลดเป้าจีดีพีปีนี้เหลือโต 2% แต่ต้องหยุดโควิดรอบใหม่ให้ได้ใน มิ.ย.นี้

จีดีพีไตรมาส 1/64 ติดลบ 2.6% สภาพัฒน์ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้ใหม่ เป็นขยายตัว 2% หรือระหว่าง 1.5-2.5% ลดลง 1% จากเดิมเล็งขยายตัวได้ 3% หรือ 2.5-3.5% บนสมมติฐานคุมโควิด-19 รอบใหม่ได้ภายในเดือน มิ.ย.นี้ เผยปีนี้นักเที่ยว ต่างชาติมาไทยแค่ 5 แสนคน ทำรายได้ 1.7 แสนล้านบาท

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ว่า ไตรมาสแรกปี 64 จีดีพีลดลง 2.6% ดีขึ้นเมื่อเทียบกับการลดลง 4.2% ในไตรมาสก่อนหน้า และเมื่อปรับผลของฤดูกาลออกแล้ว เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกปี 64 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.2% จากไตรมาส 4 ปี 63 ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจไทยตลอดปี 64 จากการประเมินครั้งล่าสุดคาดลดลง 1% โดยคาดขยายตัว 1.5-2.5% มีค่ากลางที่ 2% จากเดิมที่คาดขยายตัว 2.5-3.5% หรือมีค่ากลางที่ 3% ภายใต้สมมติฐานการระบาดของโควิดระลอกเดือน เม.ย.64 จะควบคุมได้ภายในเดือน มิ.ย.64

“ไตรมาส 1/64 ด้านการใช้จ่ายมีแรงสนับสนุนจากการขยายตัวของการส่งออกและการลงทุนเอกชน รวมทั้งการขยายตัวของการใช้จ่ายรัฐบาลและการลงทุนภาครัฐ ขณะที่การบริโภคเอกชนลดลง 0.5% ภาคบริการลดลง 63.5% ส่วนลงทุนรวมขยายตัว 7.3% โดยการลงทุนเอกชน กลับมาขยายตัว 3% ครั้งแรกในรอบ 5 ไตรมาส การลงทุนภาครัฐขยายตัวสูงถึง 19.6% ส่วนการส่งออกมูลค่า 64,004 ล้านเหรียญสหรัฐฯ บวกครั้งแรก รอบ 4 ไตรมาส”

ส่วนด้านการผลิต สินค้าอุตสาหกรรมและสาขาก่อสร้างกลับมาขยายตัว แต่สาขาที่พักแรมและบริการด้านอาหาร การขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า และสาขาการขายส่งการขายปลีก ลดลงต่อเนื่อง ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราว่างงานอยู่ที่ 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ว่างงาน 1% เงินเฟ้อทั่วไปลดลง 0.5% ขาดดุลบัญชีเดินสะพัด 1.9% ของจีดีพี เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ 246,000 ล้านเหรียญฯ และหนี้สาธารณะสิ้นเดือน มี.ค.64 อยู่ที่ 8,472,187 ล้านบาท คิดเป็น 53.3% ของจีดีพี

นายดนุชา กล่าวต่อว่า เศรษฐกิจไทยปี 64 ที่คาดขยายตัว 1.5-2.5% มีปัจจัยจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการค้าโลก แรงขับเคลื่อนจากการใช้จ่ายภาครัฐ และการปรับตัวตามฐานการขยายตัวที่ต่ำผิดปกติในปี 63 คาดว่ามูลค่าส่งออกจะขยายตัว 10.3% การอุปโภคบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนขยายตัว 1.6% และ 4.3% ตามลำดับ ส่วนลงทุนภาครัฐขยายตัว 9.3% เงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 1-2% และเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 0.7% ของจีดีพี

อย่างไรก็ตาม ปี 64 มีปัจจัยเสี่ยงจากการระบาดของโควิด-19 ที่ยังมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลกในระดับสูง และความล่าช้าของการกระจายวัคซีน ความไม่แน่นอนด้านประสิทธิภาพของวัคซีน และการท่องเที่ยวไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวช้าจากการระบาดระลอกใหม่ สศช.จึงปรับลดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาไทยในปี 64 จาก 3.2 ล้านคน เป็น 500,000 คน ลดลง 92.5% จากปี 63 ที่มี 6.7 ล้านคน และปี 62 ที่ 39.9 ล้านคน โดยในปี 64 จะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 170,000 ล้านบาท ลดลงจากปี 63 ที่มีรายได้ 440,000 ล้านบาท และปี 62 ที่ 1.85 ล้านล้านบาท

“ในช่วงที่เหลือของปี 64 รัฐควรคุมการแพร่ระบาด เร่งรัดจัดหาและกระจายวัคซีน และขอความร่วมมือธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารพาณิชย์ เร่งปล่อยสินเชื่อ และใช้มาตรการพักทรัพย์ พักหนี้ให้กับภาคธุรกิจ กระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังการแพร่ระบาดคลี่คลาย รวมทั้งเร่งขับเคลื่อนการส่งออก ส่งเสริมการลงทุนเอกชน เร่งรัดเบิกจ่ายงบปี 64 รักษาบรรยากาศทางการเมืองในประเทศ เพื่อไม่ให้ซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจ”.