
เศรษฐีป้ายแดง คุยกับ "เยจิน คิม" เจ้าของร้านกิมจิคุณคิม หรือ กิมจิโอ่ง กิมจิสายพันธุ์ไทย ทำยอดขายหลักล้านต่อเดือน
วันที่ 29 เมษายน 2564 รายการ "เศรษฐีป้ายแดง" ทางช่องไทยรัฐทีวี 32 พาไปพูดคุยกับ "เยจิน คิม" เจ้าของร้านกิมจิคุณคิม หรือ กิมจิโอ่ง กิมจิสายพันธุ์ไทย ทำยอดขายหลักล้านต่อเดือน
คุณคิม เปิดเผยว่า ไอเดีย กิมจิโอ่ง มาจากเมืองไทยอากาศร้อนมาก และในสมัยก่อนคนเกาหลีจะหมักกิมจิในโอ่ง ซึ่งจะได้กิมจิที่อร่อย เราจึงทำกิมจิโอ่งมาให้คนไทยได้รับประทาน ซึ่งเราจะทำกิมจิแบบวันเว้นวัน ลูกค้าที่ซื้อไปจึงจะได้กิมจิที่สดใหม่ มีทั้งกิมจิผักกาดขาว กิมจิต้นหอม กิมจิแตงกวา กิมจิเห็ด กิมจิหัวไชเท้า
ที่สำคัญคือ กิมจิที่ส่งให้ลูกค้าจะไม่เปรี้ยว เพราะเราจะนำกิมจิโอ่งแช่ในตู้เย็นก่อน เมื่อใส่ลังไปให้ลูกค้าโอ่งจะทำหน้าที่เก็บความเย็น เวลาส่งให้ลูกค้าแล้วจึงไม่เปรี้ยว จุดเด่นของกิมจิเราคือ ผักกรอบ ซอสอร่อย เราใช้ผักที่ไม่ใส่สารกันบูด แต่ผักสามารถอยู่ได้เป็นเดือน
คุณคิมเล่าว่า จุดเริ่มต้นของ "กิมจิคุณคิม" เกิดจากช่วงโควิด-19 ปี 2563 ก่อนหน้านี้ทำธุรกิจเกี่ยวกับนำเข้าเกี่ยวกับเครื่องยนต์ อะไหล่ยนต์ และทำรถบัสขาย แต่เจอโควิด-19 แล้วไปไม่รอด เราก็นั่งถามตัวเองว่าจะทำอย่างไรต่อดี จนวันหนึ่งได้ไปเดินห้างกับลูกชายแล้วลูกบอกว่าอยากกินกิมจิ และขอให้เราเป็นคนทำเพราะทำอร่อย หลังจากทำกิมจิก็ให้ลูกเอาไปฝากเพื่อนๆ ผู้ปกครองคนอื่นๆ ได้ชิมก็บอกว่า รสชาติดีให้ทำขาย
ลูกน้องจากธุรกิจเดิมประมาณกว่า 20 คน ก็ช่วยทำด้วยแต่ปรับเปลี่ยนหน้าที่กันได้ เช่น นายช่าง มาเป็นคนหั่นผัก ฝ่ายบุคคล มาช่วยแพ็กสินค้า แผนกบัญชีมาเช็กออเดอร์ ทุกคนยังอยู่ด้วยกันหมด จนมาถึงเดือนสิงหาคม เรามีปัญหาเรื่องการตลาด ได้มานั่งคิดวิธีแก้ปัญหาจนมาเจอเพจรีวิวอาหาร ส่งผลให้ยอดขาย 14 วัน ได้ 2 ล้าน 5 หมื่นบาท และตั้งแต่วันนั้นมายอดขายเราก็เป็นหลักล้านมาโดยตลอด
สำหรับกลยุทธ์ที่ทำให้คนไทยเลือกซื้อกิมจิของเรา คือ อย่างแรกคือเชื่อในสิ่งที่เราทำก่อน มั่นใจว่าสินค้าเราคือ กิมจิพันธุ์ไทยที่ถูกจริตคนไทยที่สุด และเสน่ห์ที่มัดใจลูกค้าคือ เรารับประกันสินค้า คือ รับประกันรสชาติ ไม่พอใจเคลมได้ 100%
2. ดูแลและเข้าถึงลูกค้า หากมีปัญหาจะไดเรกได้โดยตรง และ 3. ใส่ใจดูแลลูกค้าด้วยหัวใจ
นอกจากนี้ยังได้ต่อยอดธุรกิจ เปิดหน้าร้านเป็น โอมากาเสะเกาหลี สไตล์กินข้าวบ้านเพื่อน ซึ่งในตอนแรกเราเปิดวันละ 1 โต๊ะ รับลูกค้าได้เต็มที่ไม่เกิน 12 ท่าน ซึ่งการบริการเราจะมาต้อนรับทุกคน แนะนำทีละเมนู แต่ด้วยความที่มีลูกค้ารอเยอะ ตอนนี้จึงเปิดเป็นวันละ 2 รอบ แต่ต้องจองคิวล่วงหน้า
อย่างไรก็ตาม คุณคิม ได้ฝากถึงคนที่หมดกำลังใจว่า เราต้องให้กำลังใจตัวเอง ต้องคุยกับตัวเองให้จบว่า ถ้าวันนี้ยอมแพ้เราก็จะล้มเหลว แต่เราบอกตัวเองว่าไม่แพ้ เราก็ยังไม่แพ้ อย่าคิดเยอะ อะไรจะเกิด และเร่ิมต้นใหม่ ทำทุกวันให้ดีที่สุด ขอแค่อย่าท้อ.