
"เศรษฐีป้ายแดง" พูดคุยกับเจ้าของ "ไส้กรอกแม่ไก่" ธุรกิจไส้กรอกอีสาน 100 ล้าน มองโอกาสจากสิ่งที่เกิดอยู่รอบตัว "ลูกค้า" คือครูที่ดีที่สุด
วันที่ 12 มีนาคม รายการ "เศรษฐีป้ายแดง" ทางช่องไทยรัฐ 32 วันนี้ เป็นเรื่องราวของ ไส้กรอกอีสาน เมนูบ้านๆ ที่คนอีสานนิยม จนกลายมาเป็นสตรีทฟู้ด ที่เห็นได้ทั่วทุกมุมของไทย ถูกใจคนทุกภาค รสชาติถูกปาก ราคาถูกใจ สร้างรายได้ ทําให้เป็นเศรษฐีด้วยยอดขายหลายร้อยล้าน นั่นก็คือ "แม่ไก่ไส้กรอกอีสาน"
คุณกรรณิการ์ สิริทรัพย์เพิ่มโชค และ คุณธนพล โวหารบัณฑิตย์ เจ้าของ แม่ไก่ไส้กรอกอีสาน เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้น คือ เราทำเขียงหมูอยู่ ส่วนสามีทำธุรกิจหมูยอแม่ไก่ หลังแต่งงานกัน ปี 2550 อยากมีธุรกิจใหม่ร่วมกัน จึงคิดถึงไส้กรอกอีสาน เพราะเป็นสิ่งที่คนกรุงเทพฯ ชอบรับประทาน อีกทั้ง คนอีสานก็มาทำงานในกรุงเทพฯ เยอะ
เราขายหมูอยู่แล้ว ก็จะเลือกตั้งแต่ต้นทางเลยว่า ส่วนไหนดีที่สุด รวมถึงสีของเนื้อหมู กระเทียมที่ใช้จะใช้กระเทียมไทย 100% เนื่องจากให้รสชาติหอม ติดลิ้น ให้ความเปรี้ยวดี นอกจากนั้นก็จะมีตะไคร้ พริกไทย เพิ่มกลิ่นหอม ซึ่งตอนนี้มีการพัฒนาสูตร จนมีผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 12 รส รวมทั้ง ยังให้ความสำคัญกับเรื่องความสะอาด ทำให้ได้รับมาตรฐานในการผลิตอาหารระดับสากล มีโรงงาน ห้องแถว ซึ่งทำเป็นศูนย์กระจายสินค้า ส่งทั่วประเทศ กว่า 44 คูหา
คุณกรรณิการ์ เล่าว่า ในสมัยเด็กทั้งคู่ค่อนข้างลำบาก เรียนจบแค่ ม.3 อะไรที่หาเงินได้ ก็จะทำทุกอย่าง แต่เป็นคนที่ชอบเรียนรู้ด้วยตัวเอง หลังแต่งงานก็คุยกันว่า เราจะทำธุรกิจ จากสิ่งที่เรามี ซึ่งตัวเองทำเขียงหมู ก็จะเห็นแม่ค้ามาซื้อเศษหมูไปทำไส้กรอกอีสานจำนวนมาก จึงมองเห็นโอกาสในการต่อยอด ทำไส้กรอกอีสาน แต่ไม่ใช้เศษหมู ใช้เนื้อหมูที่ดีมาทำแทน
ส่วนสูตรที่ได้มา คุณกรรณิการ์ บอกว่า กวาดบ้านแล้วเจอ แม่จดสูตรไว้ แล้วอาจจะทำตกจากเซฟ พอเจอเราก็เก็บไว้ เพราะคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ กระทั่งได้มาทดลองทำหลังจากแต่งงานแล้ว ซึ่งก็เริ่มจากการทำที่แผงก่อน ตอนนั้นยังไม่มีโรงงาน และตัวเองก็กำลังท้อง ซึ่งแม้จะทำตามสูตร แต่กลับพบว่า ยังไม่ถูกใจลูกค้า ดำบ้าง กลิ่นไม่หอมบ้าง รสชาติเค็ม แต่เราก็ทำไป ปรับไป ทำมา 2 ปี ยอดสั่งซื้อ ก็เพิ่มขึ้นมาเป็น 4,000 กิโล พร้อมกับมีจุดกระจายสินค้า 1 จุด ที่ตลาดยิ่งเจริญ ยอดขายก็เติบโตขึ้นด้วย
คุณธนพล บอกว่า วันแรกที่นำไปขายที่ตลาดยิ่งเจริญ 100 กิโล ก็มีดราม่า มีคนถามว่า จะขายได้สักเท่าไร เพราะเอามาเยอะ ขายทั้งแบบย่าง และขายส่งให้ผู้ค้าที่มารับซื้อไปต่อ ซึ่งก็ขายได้ จากวันละ 100 ก็กลายมาเป็นขายได้วันละ 1 ตัน (1,000 กิโล) หมดทุกวัน และมีออเดอร์ด้วย ซึ่งก็ลบคำสบประมาทไปได้
นอกจากนี้ ทั้งคู่ยังบอกด้วยว่า กว่าจะเป็นสูตรที่อร่อยมาจนถึงทุกวันนี้ ก็มีการทำไป ปรับไป โดยมีลูกค้าเป็นครูที่ดีที่สุดสำหรับเรา ซึ่งเราก็เอามาพัฒนาให้อร่อยจนถูกใจเขา
สมัยก่อน พ่อค้าแม่ค้าที่ไม่ได้สั่งของไว้ ก็จะไม่ได้ไส้กรอก ต้องรับออเดอร์ล่วงหน้า และให้มารอรับ พอรู้ว่ามีลูกค้ามาจากหลายพื้นที่ หลายจังหวัด ทำให้เราต้องมีตัวแทน 1 เจ้า ต่อ 1 จังหวัด เนื่องจากแต่ละคนก็จะรู้พื้นที่ของจังหวัดตัวเองดีกว่าคนอื่น
ทั้งนี้ ความสำเร็จของเราคือ ความซื่อสัตย์กับตัวเอง กับลูกน้อง และจากผู้ค้า ไม่ว่าจะเป็นตัวแทนหรือลูกค้ารายย่อย นอกจากนี้ คงเป็นเรื่องของการปรับตัว อย่างช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ยอดขายหายไป 40% แต่ก็ได้ลูกน้อง ที่ออกไอเดียในการขายออนไลน์ รวมถึง เพิ่มไลน์การขายสินค้าอื่นๆ ด้วย คือ "ตลาดนัด 20 บาท" อาหารแช่แข็ง ที่นำมาแพ็กขายในราคา 20 บาท ซึ่งแม้เราจะเป็นเจ้าของธุรกิจ แต่เราก็รับฟัง.