น.อ.อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. เปิดเผยว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อรายได้ของ 20 ชุมชนในพื้นที่พิเศษ 6 แห่ง ที่ อพท.ดูแล มีรายได้ต่อครัวเรือนลดลง โดยปี 2563 รายได้เฉลี่ยของชุมชนเหลือ 814,775.6 บาทต่อครัวเรือนต่อปีลดลง 46.54% จากปีก่อนหน้าที่มีรายได้เฉลี่ย 1,524,109 บาทต่อครัวเรือนต่อปี
ทั้งนี้ พื้นที่ใน 4 จังหวัดที่เป็นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เชิงสร้างสรรค์ ได้แก่ จังหวัดเลย สุโขทัย น่าน และสุพรรณบุรี ทั้งหมดมีรายได้ของชุมชนลดลงค่อนข้างมาก โดยทั้ง 4 จังหวัดท่องเที่ยวนี้มีรายได้ปี 2563 ประมาณ 10,592 ล้านบาท ลดลง 41.33% จากปีก่อนหน้า ผลจากการที่ไม่มีนักท่องเที่ยวในช่วงโควิดระบาด ขณะที่ชุมชนที่ อพท.ดูแลอยู่ใน จ.เลย ชุมชนกกสะทอน ปกติจะมีนักท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว แต่เมื่อมีโควิดระบาดนักท่องเที่ยวก็หายไป ช่วงฤดูหนาวเริ่มมีการเดินทางท่องเที่ยวกลับมามากขึ้น แต่มาเจอโควิดระลอกใหม่ ส่งผลให้รายได้ลดลงจากปีก่อนหน้า 69.38% ส่วนชุมชนที่ยังมีรายได้ดีไม่กระทบมาก คือ ชุมชนบ้านสลักคอก เกาะช้าง จ.ตราด ด้วยภูมิประเทศเป็นเกาะ เมื่อมีการล็อกดาวน์ยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปมาหาสู่เป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ส่วนของรายได้ที่ลดลงในภาพรวมนั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการกระจายรายได้ เพราะการกระจายรายได้ของชุมชนยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ดังนั้น ในปี 2564 อพท.ตั้งเป้าหมายพัฒนาชุมชนต่างๆให้มีรายได้ไม่ติดลบเป็นอย่างน้อย โดยมีเป้าหมายเติบโตจากปีที่ผ่านมาประมาณ 0.3%
ส่วนแผนงานในปี 2564 อพท.อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้และเตรียมประกาศให้เป็นพื้นที่พิเศษแห่งใหม่ 3 แห่ง ได้แก่ พื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา พื้นที่จังหวัดเชียงราย และพื้นที่คุ้งบางกะเจ้า ซึ่งเบื้องต้นครึ่งปีแรกจะออกมาก่อน 1 แห่งเป็นการนำร่อง รวมทั้งผลักดันให้พื้นที่ ตำบลเมืองเก่า จ.สุโขทัย ให้เป็นพื้นที่ต้นแบบเพื่อสร้างการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนตามเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก หรือติด 1 ใน 100 แหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนที่ดีที่สุดในโลกให้ได้.