น.ส.กุลยา ตันติเตมิท โฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยแนวทางการเปิดรับลงทะเบียนโครงการเราชนะ สำหรับประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ทำให้ไม่สามารถใช้งานแอปพลิเคชันเป๋าตังได้ รวมถึงผู้สูงอายุ ผู้พิการทุพพลภาพ ผู้ป่วยติดเตียง ไม่สามารถ เดินทางมาลงทะเบียนด้วยตัวเองได้ โดยประชาชนกลุ่มดังกล่าว ต้องเดินทางมาลงทะเบียนด้วยตัวเองที่ธนาคารกรุงไทย จำกัดหรือจุดบริการเคลื่อนที่ที่รับลงทะเบียน วันที่ 15-25 ก.พ.นี้ และให้นำบัตรประจำตัวประชาชนอิเล็กทรอนิกส์ (สมาร์ทการ์ด) มาด้วย เพื่อยืนยันตัวตน หากคนใดไม่มีสมาร์ทการ์ดก็ไปยื่นเรื่องทำบัตรได้ ส่วนกรณีผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ กระทรวงมหาดไทย จะช่วยประสานงานให้ได้รับสิทธิ
“เมื่อตรวจคุณสมบัติแล้วเสร็จ ประชาชนกลุ่มนี้ จะได้รับเงิน และเริ่มใช้จ่ายเงินงวดแรกในวันที่ 5 มี.ค.นี้ จำนวน 4,000 บาทและทยอยได้รับเงินทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 1,000 บาท จนครบ 7,000 บาท ส่วนวิธีการใช้เงินให้นำบัตรสมาร์ทการ์ดไปใช้จ่ายได้ที่ร้านค้าที่ติดป้าย “เราชนะ” โดยร้านค้าจะมีเครื่องรูดบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) ส่วนร้านค้าใดมีแอปถุงเงินจะมีระบบสแกนบัตรประชาชน และยืนยันตัวตนเป็นผู้ถือบัตรตัวจริง”
ขณะที่กลุ่มที่ใช้แอปพลิเคชันเป๋าตัง ที่ได้ยื่นขอทบทวนการรับสิทธิวันที่ 8 ก.พ.-8 มี.ค.นี้ ต้องยื่นแบบเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลปี 2563 ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันลงทะเบียนขอทบทวนสิทธิ เพื่อระบบจะตรวจสอบฐานข้อมูล และรับสิทธิต่อไป และจากที่เปิดโครงการจนถึงปัจจุบันมีผู้ได้รับสิทธิ 28.50 ล้านคน แบ่งเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13.8 ล้านคน ผู้ใช้แอปเป๋าตัง 8.4 ล้านคน ผู้ที่ลงทะเบียนสำหรับประชาชนที่แอป เป๋าตัง 6.4 ล้านคน
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ที่เป็นวันแรกที่มีการโอนเงินโครงการเราชนะให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13.8 ล้านคนทันทีที่มีการใช้จ่ายเงิน ระบบของธนาคารกรุงไทยเกิดปัญหาขัดข้องจากการตรวจสอบพบว่า สัญญาณอินเตอร์เน็ตกระตุก ทำให้การเชื่อมต่อข้อมูลมีปัญหา โดยวันนั้นมีการใช้จ่ายเงินรวม 25,500 คน และเมื่อตรวจสอบการใช้จ่ายแล้ว พบพฤติกรรมว่ามีการใช้สิทธิแบบผิดปกติมาก ในร้าน 152 ร้านค้า ผู้ถือบัตรสวัสดิการคนจน 167 คน ใช้วงเงินเกินรวม 300,000 บาท เช่น ทานก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม มีการใช้จ่ายผ่านบัตรทุก 5 นาที เรื่องนี้กำลังตรวจสอบข้อมูล เป็นต้น หากพบว่าเป็นการทำผิดเงื่อนไข ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย.