อยากมีป้ายทะเบียนชื่อตัวเองอ่านตรงนี้!!!

เรียกเสียงฮือฮาลั่นกราว สำหรับผู้ที่อยากมีป้ายทะเบียนรถเป็นชื่อของตัวเอง เมื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้อนุมัติในหลักการให้เปิดใช้ “ป้ายทะเบียนพิเศษ” สำหรับรถยนต์นั่งไม่เกิน 7 คน โดยสามารถกำหนดหมวดอักษรให้เป็นชื่อเฉพาะบุคคลได้

โดยได้อนุมัติในหลักการ ร่างกฎกระทรวงกำหนดขนาดลักษณะ และสีของแผ่นป้ายทะเบียนรถและการแสดงแผ่นป้ายทะเบียนรถและเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปี (ฉบับที่ ...) พ.ศ. ...มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมลักษณะของแผ่นป้ายทะเบียนสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ให้สามารถกำหนดตัวอักษรมากกว่า 2 ตัว หรือตัวอักษรผสมสระ หรือวรรณยุกต์ หรือตัวเลข เมื่อผสมแล้วเป็นชื่อบุคคลก็ได้ หรือชื่อเฉพาะและแผ่นป้ายทะเบียนจะยังคงมีหมายเลขทะเบียนปรากฏ

ผู้ที่สนใจจะมีป้ายทะเบียนพิเศษนี้จะต้องเสนอจองซื้อกับกรมการขนส่งทางบก กำหนดอัตราขั้นต่ำไว้ที่ 1 ล้านบาท/ป้ายทะเบียน

สำหรับเงินดังกล่าวจะนำมาให้กับ “กองทุนเพื่อความปลอดภัย การใช้รถใช้ถนน” (กปถ.) ซึ่งเป็นกองทุนที่ตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นทุนสนับสนุนและส่งเสริมด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอันเกิดจากการใช้รถใช้ถนน ซึ่งมีปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธานกรรมการกองทุน และอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เป็นกรรมการและเลขานุการ

กรมการขนส่งทางบกระบุว่าแผ่นป้ายพิเศษนี้นอกจากจะช่วยสร้างรายได้เพิ่มให้แก่กองทุนเพื่อความปลอดภัย การใช้รถใช้ถนน หรือ กปถ.แล้ว ยังมีประโยชน์ในการควบคุมทางทะเบียนและการตรวจสอบทางกฎหมายอีกด้วย

สำหรับป้ายทะเบียนแบบพิเศษนี้ได้วางวิธีการไว้คร่าวๆว่า เจ้าของรถทั้งบุคคล หรือนิติบุคคล ที่ต้องการป้ายทะเบียนรถแบบพิเศษเป็นการเฉพาะ สามารถเปิดหมวดป้ายทะเบียนใหม่ได้เอง เพื่อใช้แทนหมวดอักษรเดิม ซึ่งจะใช้เป็นชื่อห้างร้าน บริษัท หรือตัวอักษรที่ชอบ เป็นชื่อเฉพาะได้ และยังสามารถเลือกหมวดตัวเลขต่อท้ายได้เองด้วยว่าต้องการเลขอะไร

โดยหลังจากที่ ครม.ได้อนุมัติในหลักการไปแล้ว ขั้นตอนต่อไปของการดำเนินการหลังจากนี้ คือต้องมีการร่างกฎกระทรวงออกมาให้มีความชัดเจน แล้วส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งเมื่อร่างกฎกระทรวงได้ผ่านการตรวจพิจารณาเสร็จแล้ว จะมีการนำเสนอกลับมาให้ ครม.ให้ความเห็นชอบอีกครั้งหนึ่ง

ถ้า ครม.เห็นชอบ ก็จะให้ รมว.คมนาคมลงนาม ซึ่งปัจจุบันก็คือ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” ที่เป็นเจ้าของไอเดียนี้ จากนั้นจึงจะมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป

คาดว่าจะเริ่มมีผลบังคับใช้จริงในกลางปี 2564 เพื่อให้ผู้ที่สนใจแผ่นป้ายทะเบียนพิเศษสามารถขึ้นทะเบียนกับ ขบ. และเปิดประมูลต่อไป

โดยหลักการในเบื้องต้นแผ่นป้ายทะเบียนรูปแบบพิเศษดังกล่าวจะต้องมีลักษณะดังนี้

1. แผ่นป้ายทะเบียนรูปแบบพิเศษ แบ่งออกเป็น 2 บรรทัด

โดยบรรทัดที่หนึ่ง ประกอบด้วยตัวอักษรประจำหมวดตัวที่หนึ่ง ตัวอักษรประจำหมวดตัวที่สอง และหมายเลขทะเบียนไม่เกิน 4 หลัก

ส่วนบรรทัดที่สอง เป็นตัวอักษรแสดงชื่อกรุงเทพฯ หรือจังหวัดที่จดทะเบียน เว้นแต่กรณีจดทะเบียนที่ อ.เบตง จ.ยะลา ให้ใช้คำว่า “เบตง” ทั้งนี้ ตัวอักษรให้ใช้ตัวอักษรไทย หมายเลขทะเบียนให้ใช้ตัวเลขอารบิก และทั้งตัวเลขและตัวอักษรให้อัดเป็นรอยดุน

2.กำหนดเพิ่มเติมให้แผ่นป้ายทะเบียนของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน โดยบรรทัดที่หนึ่ง อาจประกอบด้วยตัวอักษรมากกว่า 2 ตัว หรือตัวอักษรผสมสระ หรือวรรณยุกต์ หรือตัวเลขก็ได้ และตามด้วยหมายเลขทะเบียนไม่เกินหนึ่งหลัก ทั้งนี้ การกำหนดตัวอักษรมากกว่าสองตัว หรือตัวอักษรผสมสระหรือวรรณยุกต์ หรือตัวเลข ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่อธิบดีประกาศกำหนด

3.แผ่นป้ายทะเบียนพิเศษ ต้องไม่ซ้ำซ้อนกับหมวดอักษรที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด และต้องไม่ขัดต่อศีล-ธรรมอันดี และไม่มีเจตนาในทางทุจริต

4.การกำหนดชื่อเฉพาะดังกล่าวต้องไม่ขัดต่อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และต้องได้รับอนุญาต กรณีที่ผสมกันแล้วมีความหมายในทางลบหรือเป็นคำไม่สุภาพจะไม่อนุญาตให้ใช้เป็นตัวอักษรในแผ่นป้ายทะเบียนโดยเด็ดขาด

และ 5.แผ่นป้ายทะเบียนพิเศษที่คณะกรรมการพิจารณาแล้ว จะออกประมูลเป็นการทั่วไป จากนั้นจะนำรายได้เข้ากองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน

จากลักษณะคร่าวๆในข้อ 3 ถึงข้อ 5 ดังกล่าว จะเห็นได้ว่าทางการเองก็คุมเข้มไม่ให้มีการตั้งชื่อโลดโผนโจนทะยาน หรือชื่อพิสดารสุดจะพิลึกพิลั่น

แถมการจะได้เป็นเจ้าของชื่อตามที่ตัวเองตั้งนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะต้องมีการประมูล ถ้าเกิดมีใครเกิดมาปิ๊งชื่อที่เราอุตส่าห์นอนคิดแทบตาย ก็ต้องมีการประมูลสู้กันจนเหนื่อย

งานนี้จึงดูไม่หมูตู้อย่างที่วาดหวังไว้!!!

สุรางค์ อยู่แย้ม