
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อมด้วย นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดีอีเอส นายสุพจน์ เธียรวุฒิ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (สพร.) นพ.ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค รวมทั้งทีมพัฒนาแอปพลิเคชันหมอชนะ ได้แก่ นายอนุชิต อนุชิตานุกูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) นายสมโภช อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทพลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกันแถลงข่าวการส่งมอบแอปพลิเคชันหมอชนะให้กับภาครัฐ
นายอนุชิตกล่าวว่า การส่งมอบแอปพลิเคชันหมอชนะให้กับรัฐบาลในการบริหารจัดการต่อ เป็นไปตามความเหมาะสม เป็นเจตนารมณ์ของทีมพัฒนา หลังจากที่แอปถูกใช้งานอย่างเป็นทางการจากการระบาดของโควิด-19 ในรอบที่ 2 ทำให้จำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นเป็น 7 ล้านคน เป็นเงื่อนไขที่ทำให้มีหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้น มีกฎระเบียบข้อกฎหมายที่ต้องปฏิบัติตาม จึงควรส่งมอบแอปให้หน่วยงานรัฐบริหารจัดการดูแลต่อ เพื่อให้การสื่อสารเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าทีมงานถอนตัวเพราะถูกล้วงลูก เป็นเรื่องที่ตนทราบจากข่าวเช่นกัน ยืนยันไม่ใช่การถอนตัว และทีมพัฒนายังอยู่ช่วยงานตามความเหมาะสม
นางสาวอัจฉรินทร์กล่าวว่า หลังปีใหม่ยอดโหลดแอปขยับขึ้นแตะ 5 ล้านคน ทำให้ทีมพัฒนาซึ่งทำงานแบบจิตอาสารองรับไม่ไหว แม้ดีอีเอสจะสนับสนุนงบ ด้านสาธารณูปโภคด้วยการเช่าใช้ระบบคลาวด์ในการจัดเก็บข้อมูลให้ จึงต้องโอนหน้าที่ความรับผิดชอบมาให้หน่วยงานภาครัฐที่ได้เตรียมลงทุนระบบเตรียมความพร้อมรองรับการดาวน์โหลดแอปได้ 30-40 ล้านคน
ด้าน รมว.ดีอีเอส ยืนยันว่า ทีมพัฒนายังทำงานร่วมกันอยู่ ไม่ได้มีความขัดแย้ง จึงไม่เห็นความจำเป็นในการออกมาแถลงข่าวก่อนหน้านี้ โดยการถ่ายโอนความรับผิดชอบเกิดขึ้นราว 1 เดือนที่ผ่านมาแล้ว ถึงวันนี้รัฐบาลรับช่วงต่อมา เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเก็บข้อมูลต้องใช้บุคลากรจำนวนมาก และต้องทำให้เกิดคุณภาพ เนื่องจากขนาดการใช้งานใหญ่ขึ้นให้ประชาชนทั้งประเทศได้ใช้ และต้องทำในระยะยาว จึงต้องโอนถ่ายมาให้รัฐบาลรับผิดชอบทำให้เป็นระบบ รัดกุมทางกฎหมาย และบริหารทั้งงบและบุคลากรให้สมบูรณ์มีประสิทธิภาพ.