
CPF รุกธุรกิจสุกรครบวงจรในประเทศจีน ให้ CTI บริษัทย่อย เข้าซื้อธุรกิจสุกร 43 บริษัท โดยออกหุ้นใหม่เป็นการชำระให้ผู้ขาย พร้อมแผนขยายธุรกิจเสริมการเติบโต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ มีมติอนุมัติให้เสนอผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติให้บริษัทย่อยในประเทศจีน เข้าซื้อธุรกิจสุกรในจีนจำนวน 43 บริษัท โดยบริษัทย่อยจะออกหุ้นใหม่เป็นการชำระราคาให้แก่ผู้ขาย เพื่อควบรวมธุรกิจขึ้นเป็นหนึ่งในบริษัทสุกรชั้นนำในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดสุกรใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีมูลค่าประมาณ 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีอัตราการขยายตัวร้อยละ 8.3 ต่อปี ใน 10 ปีที่ผ่านมา ระหว่างปี 2553 ถึง 2562 (ตามข้อมูลสถิติที่เปิดเผยโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติของสาธารณรัฐประชาชนจีน)
Chia Tai Investment Co., Ltd. หรือ CTI ประกอบธุรกิจหลัก คือ การผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ในสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของซีพีเอฟ ผ่าน C.P. Pokphand Co., Ltd. หรือ CPP ที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ต้องการควบรวมธุรกิจอาหารสัตว์เข้ากับธุรกิจสุกรในสาธารณรัฐประชาชนจีนของ Chia Tai Animal Husbandry Investment (Beijing) Co., Ltd. หรือ “ผู้ขาย” ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด หรือ CPG
โดยเป็นการเข้าซื้อกิจการบริษัทจำนวน 43 บริษัท มีมูลค่ารวมประมาณ 28,140 ล้านเรนมินบิ (หรือเทียบเท่ากับประมาณ 4,109 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 131,287 ล้านบาท) โดย CTI จะออกหุ้นใหม่ให้แก่ผู้ขายเพื่อเป็นการชำระราคา ซึ่งทำให้การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ไม่มีภาระต้นทุนทางการเงินจากการเข้าซื้อเพิ่มขึ้น
การเข้าทำธุรกรรมครั้งนี้จะเป็นการสร้างโอกาสให้ CTI ขยายการประกอบธุรกิจเข้าสู่ตลาดสุกรของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโต ซึ่งจะทำให้ CTI เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจสุกรครบวงจร โดยเริ่มตั้งแต่การผลิตอาหารสัตว์ การเลี้ยงสุกร โรงชำแหละและแปรรูปสุกร ซึ่งจะทำให้สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีการประสานประโยชน์ของทั้งห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) เพื่อให้ธุรกิจของบริษัทครบวงจรอย่างเต็มรูปแบบและขยายธุรกิจออกไปได้มากขึ้น
หากการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้สำเร็จ จะทำให้ CTI มีกำไรจากการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้นจากธุรกิจสุกรที่มีผลกำไรที่ดี และจะเป็นประโยชน์ในระยะยาวต่อการขยายธุรกิจในอนาคต โดยซีพีเอฟได้กำหนดให้มีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1 ปี 2563 ขึ้นเพื่อเสนอขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นรายย่อยในวันที่ 27 ตุลาคมนี้.