ศาลารอรถริมทางทำพิษ อธิบดีกรมทางหลวง สั่งแก้ไขหลังใช้หลบแดด-ฝนไม่ได้จริง

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ศาลารอรถริมทางทำพิษ อธิบดีกรมทางหลวง สั่งแก้ไขหลังใช้หลบแดด-ฝนไม่ได้จริง

Date Time: 14 มิ.ย. 2563 12:57 น.

Video

กลาง ธ.ค.ลุ้น! ฝนถล่มภาคใต้รอบใหม่ น้ำลดรอบนี้ต้องรีบทำอะไร? | Thairath Money Night Stand EP.26

Summary

อธิบดีกรมทางหลวง สั่งแก้ไขด่วน ศาลารอรถโดยสาร ทางหลวงหมายเลข 220 ศรีสะเกษ-อ.วังหิน หลังไม่สามารถใช้หลบแดด-ฝนได้จริง

Latest


อธิบดีกรมทางหลวง สั่งแก้ไขด่วน ศาลารอรถโดยสาร ทางหลวงหมายเลข 220 ศรีสะเกษ-อ.วังหิน หลังไม่สามารถใช้หลบแดด-ฝนได้จริง

เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.63 นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า หลังมีการเผยแพร่ข้อมูลที่แชร์จากผู้ใช้ Social Media เป็นภาพงานก่อสร้างศาลาริมทาง จุดจอดรถโดยสาร (Bus Stop) ทางหลวงหมายเลข 220 ตอน ศรีสะเกษ-อ.วังหิน ที่ไม่สามารถหลบแดดหลบฝนได้ตามความเป็นจริง ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลจากสำนักก่อสร้างทางที่ 2 ทราบว่าศาลาริมทางดังกล่าวอยู่ในโครงการก่อสร้างขยายทางเป็น 4 ช่องจราจร ทางหลวงหมายเลข 220 จริง ซึ่งงานก่อสร้างเริ่มต้นสัญญาตั้งแต่ 12 ก.พ.2562 งานแล้วเสร็จ 12 มิถุนายน 2563 (เสร็จก่อนสัญญา) และได้ส่งมอบพื้นที่ให้แขวงทางหลวงศรีสะเกษที่ 1 ดูแลรักษาต่อไป

อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวต่อว่า ส่วนสาเหตุที่มีการก่อสร้างศาลาริมทางในลักษณะดังกล่าว มีการชี้แจงว่า ถนนสายดังกล่าวแบ่งรูปแบบการก่อสร้างเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงที่มีเขตทาง 30 เมตร และ 40 เมตร โดยช่วงเขตทาง 30 เมตร เมื่อก่อสร้างเป็นทางหลวง 4 ช่องจราจร เกาะกลางแบบยกกว้าง 3.00 เมตร แล้วจะเหลือพื้นที่จากไหล่ทางจนถึงเขตทางหลวงเพียง 4.00 เมตร ซึ่งไม่สามารถก่อสร้างช่องจอดรถ และศาลาทางหลวงแบบเดิมที่มีความกว้างประมาณ 6.25 เมตรได้ จึงจำเป็นต้องก่อสร้างที่พักผู้โดยสารเป็นรูปแบบตามที่ปรากฏอยู่ โดยมีความกว้างประมาณ 2.50 เมตรเท่านั้น เพื่อให้ไม่เลยออกนอกเขตทาง

ส่วนช่วงเขตทาง 40 เมตร เมื่อขยายถนนเป็น 4 ช่องจราจร เกาะกลางแบบยกกว้าง 4.20 เมตร พร้อมช่องจอดรถโดยสาร เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการจอดรับผู้โดยสารแล้วจะเหลือพื้นที่ก่อสร้างที่พักผู้โดยสาร กว้างประมาณ 4.40 ม. ซึ่งก็ไม่สามารถก่อสร้างศาลาทางหลวงแบบเดิมที่มีความกว้างประมาณ 6.25 ม. ได้เช่นกัน

"อย่างไรก็ตาม ได้สั่งแก้ไขปรับปรุงแล้ว เพื่อให้ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ โดยให้มีการทำกันสาดเพิ่มเติมทั้งด้านหน้า ด้านหลัง เพื่อกันแดดกันฝน รวมทั้งการปรับปรุงพื้นที่โดยรอบให้ดูร่มรื่นขึ้น" นายสราวุธกล่าว

ส่วนประเด็นที่มีการแชร์ภาพศาลา จุดรอรถโดยสารของหมู่บ้าน ที่มีการก่อสร้างใหม่นั้น จุดดังกล่าวเดิมมีศาลาที่ใช้งานมานานกว่า 10 ปี แต่ช่วงเดือนพฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา ศาลาหลังเดิมของชาวบ้านโดนลมพายุพัดพังลงมา ชาวบ้านจึงร่วมกันสร้างศาลาขึ้นมาใหม่แทนหลังเดิมที่พังลง.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ