
นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนาออนไลน์ในหัวข้อ “เปิดเมือง ปลอดภัย ร่วมฝ่าวิกฤติโควิด-19 ด้วยวิถีธุรกิจแบบใหม่ (New Normal)" ว่าสัปดาห์หน้าหอการค้าเตรียมเปิดตัวแอปพลิเคชันแก้ปัญหาการว่างงานในภาคธุรกิจ โดยดึงบริษัทต่างๆ ที่เป็นสมาชิกหอการค้าไทย ให้เข้ามาอยู่ในแอป และจะจับคู่ระหว่างบริษัทเอกชนด้วยกัน หากบริษัทใดต้องการลดคนงาน เพราะไม่สามารถรับภาระค่าใช้จ่ายได้ ก็จะให้อีกบริษัทหนึ่ง ที่ขาดแคลนแรงงาน ให้รับพนักงานที่ถูกปลดเข้ามาทำงานทันที ซึ่งขณะนี้ มีข้อมูลแรงงานและศักยภาพของแรงงานที่ถูกเลิกจ้างแล้ว
สำหรับการคลายล็อคธุรกิจเฟสที่ 1-2 นั้น พบว่าการปฏิบัติตัวของธุรกิจและประชาชนน่าพอใจมาก และส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือตามคู่มือเป็นอย่างดี ส่วนการเปิดธุรกิจในเฟส 3 คาดว่า เร็วๆ นี้รัฐบาลจะเชิญหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน มาหารือเพื่อจากการคลายล็อกเฟสแรกพบว่า ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมามีเงินสะพัดนับหมื่นล้านบาท
นายกลินท์กล่าวอีกว่า ธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือเอดีบี ประเมินว่า โควิด-19 อาจทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ 5.8-8.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 6.4-9.7% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมทางเศรษฐกิจโลก ขณะที่ไทย คาดว่า ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา จะมีคนตกงานประมาณ 7 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการรองรับการเปลี่ยนแปลงชีวิตวิถีใหม่ ทั้งรูปแบบการใช้ชีวิตของคนในสังคม ตลอดจนโมเดลธุรกิจ และการทำงานในรูปแบบใหม่ๆ หอการค้าไทย จึงได้ร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน รวมถึงหน่วยงานด้านสาธารณสุข พัฒนาแพลตฟอร์ม "ไทยดอทแคร์" (Thai.care) เพื่อช่วยในการสื่อสารและสร้างความเข้าใจระหว่างผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการ โดยพัฒนามาจากแนวคิด ”คนไทยร่วมกันแคร์“ เป็นการประสานพลัง 3 แคร์ ได้แก่ ร้านค้าแคร์ โดยจะสร้างเครือข่ายของร้านค้าที่มีความห่วงใย ใส่ใจในบริการที่ปลอดภัย, ลูกค้าแคร์ จะเปิดช่องทางการสื่อสาร และรับฟังความคิดเห็นจากลูกค้า เพื่อนำมาปรับปรุงร้านค้าและบริการได้อย่างรวดเร็ว และ สังคมแคร์ คือสังคมที่มีความสุขและมีความเอื้ออาทรต่อกัน.