The Issue : เริ่มต้นทำธุรกิจใหม่!

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

The Issue : เริ่มต้นทำธุรกิจใหม่!

Date Time: 19 พ.ค. 2563 05:01 น.

Summary

  • จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้ ศบค.ประกาศคลายล็อกครั้งที่ 2 ยอมผ่อนปรนให้ประชาชนสามารถทำกิจกรรมและเริ่มทำธุรกิจต่างๆได้มากขึ้นนั้น

Latest

ยอดผลิตรถต่ำสุดเกือบ 4 ปี คนหันมาซื้ออะไหล่ซ่อม จยย.แทนซื้อคันใหม่

จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้ ศบค.ประกาศคลายล็อกครั้งที่ 2 ยอมผ่อนปรนให้ประชาชนสามารถทำกิจกรรมและเริ่มทำธุรกิจต่างๆได้มากขึ้นนั้น ทำให้นักธุรกิจขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็กไล่ไปจนถึงธุรกิจขนาดจิ๋ว และหาบเร่แผงลอยเริ่มมีความหวังในการประกอบการธุรกิจกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง

แต่การจะกลับมาเริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ หรือ Restart (รีสตาร์ต) ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ ผู้ประกอบการหลายรายยังอยู่ในอาการหวาดกลัว ระหว่างการตัดสินใจที่จะเดินหน้าเปิดธุรกิจต่อไป หรือเลือกที่จะหยุดกิจการ อย่างไหนจะดีกว่ากัน

หลังจากรัฐบาลตัดสินใจใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ฉุกเฉิน ประกาศปิดเมือง ตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค.จนถึงวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา รวมระยะเวลาแล้วเกือบ 3 เดือนเต็ม รัฐบาลก็ได้ตัดสินใจลดระดับความเข้มข้น และผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เช่น การเปิดห้างสรรพสินค้า การอนุญาตให้ธุรกิจบางประเภทเปิดกิจการได้ใหม่ เช่น ตลาดนัด การขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์การก่อสร้าง การเล่นกีฬากลางแจ้ง

รวมถึงการปรับเวลา “เคอร์ฟิว” จากเดิม 22.00-04.00 น. เปลี่ยนเป็นเวลา 23.00-04.00 น. ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่มีความรู้สึกผ่อนคลาย และมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์มากขึ้น แม้ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดจะยังคงมีความเสี่ยง เนื่องจากยังไม่มียารักษาผู้ป่วยโควิด-19 ก็ตามแต่การปลดล็อกของรัฐบาลก็เพื่อเร่งชดเชยความเสียหายทางเศรษฐกิจที่รุนแรงมากกว่าฟองสบู่แตกเมื่อปี 2540 เพราะทำให้ประชาชนต้องตกงานมากกว่า 10 ล้านคนภายในเวลาไม่กี่เดือนเท่านั้น

ดังนั้น การกลับมาเปิดธุรกิจใหม่อีก หลังจากดับเครื่องยนต์ไปนาน จึงทำให้เจ้าของกิจการ หรือ “เถ้าแก่” ต้องสวมหัวใจสิงห์ เพื่อตัดสินใจว่าจะฟันฝ่าวิกฤติโควิดและวิกฤติเศรษฐกิจรอบใหม่ไปได้หรือไม่

เพราะการกลับมาในครั้งนี้ คงไม่มีอะไรที่เหมือนเดิมอีกแล้ว

พิษสงของไวรัสโควิด-19 ทำการใช้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปและเกิด New Normal “นิว นอร์มอล” หรือความปกติใหม่ที่นำไปสู่วิถีใหม่ภายใต้มาตรฐานที่หลายๆคนอาจไม่คุ้นเคยเช่น การโทรศัพท์สั่งอาหาร การใช้เทคโนโลยี หรือการเข้าถึงโลกออนไลน์ในเรื่องการสั่งซื้อสินค้า การโอนเงิน การจองสิทธิ์ใช้สิทธิ์ต่างๆ รวมถึงการติดต่อขอใบอนุญาต หรือใบรับรองจากหน่วยงานราชการหรือรัฐวิสาหกิจ เป็นต้น

การปรับตัวของผู้ประกอบการให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้ “เถ้าแก่” สามารถประคับประคองกิจการให้อยู่รอดต่อไปได้ โดยมีประเด็นหลักๆ ที่ฝากให้พิจารณาอย่างรอบคอบรวมทั้งหมด 5ด้าน ก่อนตัดสินใจเดินหน้าสู้กับไวรัสโควิด-19 อีกครั้ง ซึ่งประกอบด้วย

1.การปรับปรุงตัวเอง หมายถึงการปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานจากรูปแบบเดิมๆ โดยเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงหลังจากผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 ไปแล้ว ซึ่งถือเป็นสิ่งแรกที่ต้องพิจารณา และตรวจสอบให้รอบคอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อให้การก้าวเดินไปข้างหน้าไม่สะดุด หรือหากมีข้อผิดพลาดก็พร้อมที่จะปรับแผนงานใหม่ให้ทันกับเหตุการณ์ตลอดเวลา

2.การปรับเปลี่ยนวิธีการผลิต ซึ่งมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าประเด็นแรก เพราะหากเราได้ปรับเปลี่ยนตัวเองไปแล้ว แต่ไม่ยอมที่จะปรับวิธีการผลิตให้ทันต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การค้าขายภายใต้ New Normal ก็อาจสร้างความยากลำบากในการทำธุรกิจมากขึ้น เช่น การเว้นระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing จะทำให้รูปแบบการค้าและบริการต้องปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด

3.การปรับเปลี่ยนวิธีการเจรจาและการติดต่อลูกค้า เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการสั่งซื้อสินค้า การสต๊อกสินค้า การจัดส่งสินค้า (โลจิสติกส์)จะสอดคล้องกับ New Normal ได้อย่างไร

4.การพิจารณาถึงกระแสเงินสด และแนวโน้มการทำกำไรหรือขาดทุนที่จะเกิดในอนาคต ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่มีความสำคัญและหากมีความต้องการใช้เงินเร่งด่วน จะมีแหล่งเงินที่ไหนรองรับได้บ้าง

และ 5.การพิจารณาถึงความมั่นคงของ Supply chain หรือห่วงโซ่อุปทาน ซึ่ง “ห่วงโซ่” หมายถึง การเกี่ยวกัน มีการทำงานที่ส่งต่อกัน หรือมีการทำงานที่เกี่ยวเนื่องกัน เช่น การหาสินค้า หรือวัตถุดิบ จนสิ้นสุดกระบวนการส่งถึงมือลูกค้าว่า ยังมีเครดิตเหมือนเดิมอยู่หรือไม่ และหากไม่มีความมั่นใจจะยังดำเนินธุรกิจร่วมกัน หรือยกเลิกไป

ดังนั้น วันที่ 17 พ.ค.2563 คงไม่ใช่วันชี้ชะตา “เถ้าแก่” หัวใจสิงห์ว่า จะทำธุรกิจต่อไปหรือไม่

แต่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นแห่งการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น.

วรรณกิจ ตันติฉันทะวงศ์


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ