
รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เผยโครงการเยียวยา "เกษตรกร" ช่วยเหลือครอบคลุมไม่ตกหล่น ย้ำรีบขึ้นทะเบียนก่อน 15 พ.ค.63
จากโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อ "โควิด-19" ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยจ่ายเงินช่วยเหลือโดยตรงผ่านบัญชี จำนวน 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2563 ซึ่งไม่ซ้ำซ้อนกับการได้รับความช่วยเหลือภายใต้โครงการเราไม่ทิ้งกัน นั้น
ล่าสุด วันที่ 13 พ.ค.63 ในรายการถามตรงๆ กับจอมขวัญ นางกุลฤดี พัฒนะอิ่ม รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า โครงการเยียวยาเกษตรกร คาดว่าจะสามารถช่วยเหลือครอบคลุมเกษตรกรทั้งหมด แทบจะไม่มีใครจะตกหล่น เนื่องจากเป็นข้อมูลที่ได้จากการขึ้นทะเบียนเกษตรกรจาก 3 หน่วยงาน ได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมปศุสัตว์ และกรมประมง
ล่าสุด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะนำเสนอเข้าสู่คณะกรรมการกลั่นกรองเพื่อนำเสนอ ครม. เพิ่มเติมหน่วยงานเพื่อให้ครอบคลุมมากขึ้น เช่น ข้อมูลจากการยางแห่งประเทศไทย ข้อมูลจากกรมสรรพสามิตในเรื่องของยาสูบ ข้อมูลจากกระทรวงอุตสาหกรรมในส่วนของอ้อย รวมไปถึงกรมหม่อนไหม เพื่อให้ครอบคลุมทุกสาขาของการเกษตร
ในส่วนของการยางแห่งประเทศไทยจะมีทั้งการขึ้นทะเบียนของเจ้าของสวนและขึ้นทะเบียนในส่วนของคนกรีดยาง ซึ่งจะมีรายชื่อครบอยู่แล้ว รวมไปถึงเกษตรกรกลุ่มอื่นๆ ที่จะขึ้นทะเบียนทุกปี ข้อมูลจึงไม่ตกหล่น เว้นแต่ เกษตรกรรายใหม่ที่ไม่เคยขึ้นทะเบียนมาก่อน ก็ขอให้รีบขึ้นทะเบียนให้เรียบร้อยก่อนวันที่ 15 พ.ค.63
นางกุลฤดี กล่าวต่อว่า ในส่วนของเกษตรกรกลุ่มที่ยังไม่ได้ทำการเพาะปลูกในปี 2563 เนื่องจากฝนยังไม่มา ซึ่งเป็นการปลูกพืชอายุสั้น เช่น ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ผักเลี้ยงสัตว์ ซึ่งต้องรอฝน และในปีนี้ฝนมาช้ากว่าทุกปี
ดังนั้นจึงมีการให้เกษตกรกลุ่มนี้แจ้งความจำนงว่าจะปลูกพืชไว้ก่อน วันที่ 15 พ.ค.63 ซึ่งจะต้องมีการเพาะปลูกภายในวันที่ 30 มิ.ย.63 โดยหลังจากมีการเพาะปลูกแล้วก็ต้องไปยืนยันว่ามีการเพาะปลูกอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้เกษตรกรกลุ่มนี้ได้รับสิทธิ์เงินเยียวยาเช่นกัน.