หอบแผนฟื้นฟูบินไทยเข้า ครม. ธนาคารแห่งประเทศไทยซื้อหุ้นกู้ 7 หมื่นล้าน

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

หอบแผนฟื้นฟูบินไทยเข้า ครม. ธนาคารแห่งประเทศไทยซื้อหุ้นกู้ 7 หมื่นล้าน

Date Time: 5 พ.ค. 2563 08:21 น.

Summary

  • สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) กระทรวงการคลัง จะนำแผนการฟื้นฟูฐานะของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม

Latest

กรมรางฯพาเปิดโลกดูงานรถไฟข้ามทวีป เส้นทาง “สิงคโปร์-ไทย-จีน” เชื่อมยุโรป

คลังลดสัดส่วนถือหุ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันอังคารที่ 5 พ.ค.นี้ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) กระทรวงการคลัง จะนำแผนการฟื้นฟูฐานะของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม โดยแผนการตามโครงการฟื้นฟูฐานะการบินไทยดังกล่าวมีความหนา 60 หน้ากระดาษด้วยกัน

เริ่มต้นจากสาระสำคัญของการรักษาสถานภาพของการบินไทยให้คงเป็นสายการบินแห่งชาติต่อไปภายใต้การอัดฉีดสภาพคล่องให้การบินไทยสามารถดำรงการดำเนินงานต่อไป และเตรียมความพร้อม รวมทั้งจัดทำแผนในการเปิดทำการบินต่อไปในช่วงเวลาหลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยุติลง

แผนดังกล่าว กำหนดให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ภายใต้ความร่วมมือของกระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เข้าซื้อตราสารหนี้ของการบินไทย ที่ออกมาก่อนหน้านี้ มูลค่า 70,000 ล้านบาท เพื่อให้สามารถไถ่ถอนได้ตามกำหนดระยะเวลาที่ระบุไว้ นอกจากนี้ให้กระทรวงการคลังช่วยแก้ไขการขาดแคลนสภาพคล่องให้การบินไทยสามารถบริหารธุรกิจการบินของตนได้ต่อไป

ทั้งนี้ สถานภาพการบินไทยในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะทำหน้าที่เป็นบริษัทโฮลดิ้งคอมปานี โดยใช้โมเดลธุรกิจของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มาเป็นแบบอย่าง ด้วยการปรับลดสัดส่วนการถือครองหุ้นในส่วนของกระทรวงการคลังลง จากนั้นทำการเพิ่มทุน และหาพันธมิตรในการร่วมทุน (Stratigic Partner) ตามขั้นตอน และระยะเวลาที่กำหนด

ขณะเดียวกัน การบินไทยจะทำการแยกบริษัทย่อยที่มองเห็นชัดว่าสามารถเป็นหน่วยธุรกิจที่สร้างรายได้ให้กับการบินไทยได้ออกไปเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อให้สามารถทำธุรกิจได้โดยความคล่องตัว และเป็นบริษัทมหาชนที่หลุดพ้นจากการยื่นมือเข้าไปวุ่นวายของฝ่ายการเมือง โดยการเลือกสรรผู้บริหาร หรือคณะกรรมการบอร์ด ไม่จำเป็นต้องผ่านความเห็นชอบจากฝ่ายการเมือง หากแต่ต้องผ่านความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นเป็นหลัก

ทั้งนี้ หน่วยธุรกิจที่พิจารณาว่าอาจจะแยกส่วนออกจากการบินไทยโฮลดิ้งได้ตามข้อเสนอของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ก็คือ ครัวการบินไทย ซึ่งมีทุนจดทะเบียนอยู่ 100 ล้านบาท ปัจจุบันทำอาหารส่งให้แก่สายการบินหลายแห่งโดยมีกำไรปีละ 2,500 ล้านบาท ถ้าเอาเข้าตลาดหลักทรัพย์ มูลค่าของบริษัทจะอยู่ที่ 25,000 ล้านบาท ธุรกิจฝ่ายช่าง และการซ่อมเครื่องบิน ซึ่งฝ่ายช่างการบินไทยมีความเชี่ยวชาญในการซ่อมเครื่องบินให้แก่สายการบินหลายสาย ธุรกิจบริการภาคพื้นดิน และธุรกิจคลังสินค้าซึ่งระหว่างที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 ผู้บริหารการบินไทยได้ปรับเปลี่ยนเครื่องบินมาเพื่อใช้ในการขนส่ง และทำธุรกิจคาร์โกเพิ่มขึ้น โดยที่การบินไทยมีไลเซนส์เรื่องนี้อยู่ ถ้าธุรกิจคาร์โกถูกแยกมาเข้าตลาดหลักทรัพย์ ก็สามารถจะทำรายได้ให้การบินไทยอย่างมาก โดยเฉพาะหากเป็นธุรกิจที่ผูกขาดในประเทศ

สำหรับสายการบินโลว์คอสต์แอร์ไลน์ ไทยสมายล์พรีเมียมซึ่งเป็นบริษัทลูกของการบินไทยนั้น ครม.อาจต้องเลือกที่จะให้เข้าทำหน้าที่แทนการบินไทยในระยะที่ผู้โดยสารยังไม่กลับมาไปก่อน โดยฝ่ายการบินไทยเองก็ให้ความเห็นชอบด้วยว่า การบินไทยอาจต้องเลือกที่จะบินในเส้นทางบินที่มีระยะทางบินไม่เกิน 5 ชั่วโมงเพื่อประหยัด และลดต้นทุนดำเนินการ ในเวลาเดียวกัน ระหว่างการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังไม่เป็นที่ยุติ การบินไทยก็อาจจำเป็นต้องขอต่ออายุการลดเงินเดือนและค่าจ้างของพนักงาน 35,000 คนลง 30% ออกไปอีก 3 เดือน

สำหรับแผนฟื้นฟูการบินไทย กำหนดไว้ 6 กลยุทธ์ได้แก่ 1.กลยุทธ์การปรับปรุงเครือข่ายเส้นทางบิน (Network Strategy) 2.กลยุทธ์การปรับปรุงแผนฝูงบิน (Fleet Strategy) 3.กลยุทธ์ด้านการพาณิชย์ (Commercial Strategy) 4.กลยุทธ์การปรับปรุงการปฏิบัติการและต้นทุน (Operation & Cost Strategy) 5.กลยุทธ์การปรับปรุงโครงสร้างองค์กร (Organization Strategy) 6.กลยุทธ์การจัดการกลุ่มธุรกิจของบริษัท (Portfolio Strategy)

ทั้งนี้ ตามแผนฟื้นฟูการบินไทย ระบุว่า ในส่วนของการลดขนาดองค์กร (Downsizing) เพื่อบริหารประสิทธิภาพต้นทุนและการดำเนินงาน โดยจะมีการลดกำลังการผลิต โดยปรับลดขนาดฝูงบิน ลดแบบเครื่องบิน เครื่องยนต์ ปรับลดเส้นทางบิน เหลือเฉพาะที่ทำกำไร หรือที่มี demand สูง ปรับโครงสร้างองค์กรให้กระชับ การบังคับบัญชารวดเร็วมีประสิทธิภาพ ปรับลดค่าใช้จ่ายด้านพนักงาน โดยเทียบเคียงกับอุตสาหกรรมเดียวกัน

การปฏิรูปองค์กร (Transformation) กระบวนการด้านรายได้บัตรโดยสาร (ปรับโครงสร้างราคา ช่องทางการจำหน่าย รายได้ขนส่งสินค้าและรายได้สนับสนุนอื่น) จะมีการลดกำลังการผลิตโดยปรับลดขนาดฝูงบิน ลดแบบเครื่องบิน เครื่องยนต์ ปรับลดเส้นทางบิน เหลือเฉพาะที่ทำกำไรหรือที่มี demand สูง ปรับโครงสร้างองค์กรให้กระชับ การบังคับบัญชารวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ปรับลดค่าใช้จ่ายด้านพนักงานให้สอดคล้องกับกำลังการผลิต โดยเทียบเคียงกับอุตสาหกรรมเดียวกัน การปฏิรูปองค์กร ปรับกระบวนการด้านรายได้บัตรโดยสาร (ปรับโครงสร้างราคา ช่องทาง การจำหน่าย รายได้ขนส่งสินค้าและรายได้สนับสนุนอื่น)

ในการจัดกระบวนการด้านรายได้ ความ สามารถในการทำกำไร (Profitability) จะต้องมีรายได้ช่องทางการจำหน่ายบัตรโดยสารให้มีสัดส่วน Online ต่อ offline มากกว่า 50% รายได้นอกเหนือจากรายได้บัตรโดยสารเพิ่มจาก 20% เป็น 35-40% อัตราเติบโตรายได้เสริมเป็น 6.7% ของรายได้จากการดำเนินงาน ส่วนผลจากการปรับโครงสร้างและกำลังการผลิตจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพนักงานอย่างมีนัยสำคัญตามกำลังการผลิต ลดแบบเครื่องบินจาก 6 แบบ 7 ชนิดเครื่องยนต์

ภายใต้แผนฟื้นฟูการบินไทยยังมีกลยุทธ์การปรับปรุงเครือข่ายเส้นทางบิน (Network Strategy) กลยุทธ์การปรับปรุงแผนฝูงบิน (Fleet Strategy) กลยุทธ์ด้านการพาณิชย์ (Commercial Strategy) กลยุทธ์การปรับปรุงการปฏิบัติการและต้นทุน (Operations & Cost Strategy) กลยุทธ์การปรับปรุงโครงสร้างองค์กร (Organization Strategy) การจัดการกลุ่มธุรกิจ ของบริษัท (Portfolio Strategy) และกำหนดงบประมาณโครงการแผนฟื้นฟูปี 2563-2567ด้วย.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ