กรมทางหลวงยันไม่ได้ตัดต้นยางนา ทำทางหลวงสายยโสธร-บ้านย่อ ย้ำยกเลิกโครงการไปแล้ว ขณะที่พื้นที่เขตทางทั้งสองข้างไม่ได้อยู่ในเขตป่าสงวนแต่อย่างใด ยันรับฟังความเห็นคนในพื้นที่เสมอ
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยกรณีมีข่าวสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงกรณี นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ออกมาระบุว่า แขวงทางหลวงยโสธร สังกัดกรมทางหลวง กำลังดำเนินโครงการปรับปรุงถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 23 ตอน ยโสธร-บ้านย่อ ระหว่าง กม.182+600 ถึง กม.185+000 ซึ่งจะต้องมีการตัดโค่นต้นยางนาขนาดใหญ่ออกไปจากแนวถนนดังกล่าวหลายสิบต้น โดยได้ดำเนินการตีตราประทับเพื่อเตรียมดำเนินการตัดโค่นต้นยางนานั้น
อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม กรมทางหลวง ขอยืนยันข้อเท็จจริงว่า กรมทางหลวงได้ยกเลิกโครงการดังกล่าวไปแล้ว ซึ่งเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 แขวงทางหลวงยโสธรได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เพื่อขอยกเลิกโครงการปรับปรุงถนนดังกล่าว ส่วนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการนั้นอยู่ในทางหลวงหมายเลข 23 ตอน ยโสธร-บ้านย่อ ระหว่าง กม.182+600-กม.185+000 เป็นถนน 4 ช่องจราจร กว้าง 19 เมตร และพื้นที่เขตทางทั้งสองข้างไม่ได้อยู่ในเขตป่าสงวนแต่อย่างใด
นายสราวุธ กล่าวถึงที่มาของการเริ่มต้นโครงการนี้ว่า เกิดขึ้นมาจากคณะกรรมการศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางถนนจังหวัดยโสธร ได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 28 พ.ย.61 ถึงกรณีที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากต้นไม้ยางนาขนาดใหญ่จำนวนหลายต้น บดบังทัศนวิสัยในการขับขี่ และเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ต่อมาเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2562 แขวงทางหลวงยโสธรจึงได้เสนอแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ขึ้นมา และกลุ่มจังหวัดได้พิจารณาความจำเป็นเหมาะสมแล้ว โดยแต่ละโครงการเกิดจากความต้องการของกลุ่มจังหวัดเองมีทั้งโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านถนนเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ การยกระดับมาตรฐานทางหลวงสนับสนุนการค้า และการลงทุน
อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวอีกว่า ทั้งนี้รวมถึงการปรับปรุงถนนเพื่อแก้ไขปัญหาการเกิดอุบัติเหตุในทางหลวงหมายเลข 23 ตอน ยโสธร-บ้านย่อ ระหว่าง กม.182+600-กม. 185+000 ด้วย โดยมีข้อร้องเรียนระบุถึงตัวอย่างอุบัติเหตุ คือ แนวถนนบริเวณ กม.185+000 เป็นโค้งหักศอก คอขวด เป็นสาเหตุให้รถที่วิ่งมาด้วยความเร็วเสียหลัก ทัศนวิสัยการมองเห็นถูกบัดบังด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ ทำให้รถที่ออกจากซอย 2 ข้างทางมองไม่เห็นรถที่วิ่งมาบนถนนสายหลัก ทำให้เกิดการเฉี่ยวชนบ่อยครั้ง
"ขอย้ำว่าโครงการดังกล่าวอยู่ในขั้นการเตรียมความพร้อมโครงการเท่านั้น โดยแขวงทางหลวงยโสธร และเจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 สาขาอุบลราชธานี ได้ทำการสำรวจต้นไม้หวงห้ามที่ติดขัดงานก่อสร้างในเขตทางหลวง เพื่อจะได้ทำหนังสือขออนุญาตตามระเบียบ แต่ได้พิจารณายกเลิกโครงการไปก่อน" นายสราวุธ กล่าว
อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2563 ทางแขวงทางหลวงยโสธรได้ดำเนินการจัดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการตัดต้นไม้ในเขตทางหลวงที่ติดขัดงานก่อสร้าง โดยวิธีการสัมภาษณ์รายบุคคลและแจกแบบสอบถามประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่บริเวณที่จะมีโครงการก่อสร้าง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเครื่องยืนยันว่ากรมทางหลวงปฏิบัติถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมาย และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่เสมอ.