คณะที่ปรึกษาเอกชนขอสารพัด ขอรัฐจ่ายเงินเดือนลูกจ้าง-ลดส่งเงินสมทบ

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

คณะที่ปรึกษาเอกชนขอสารพัด ขอรัฐจ่ายเงินเดือนลูกจ้าง-ลดส่งเงินสมทบ

Date Time: 14 เม.ย. 2563 08:40 น.

Summary

“สศช.” ระดมความเห็นคณะที่ปรึกษาเอกชนของ ศบค. เจอภาคเอกชนช่างขอ จนต้องจัดกลุ่มให้ไปสรุปมาตรการเป็น 5 ด้านก่อนชง ครม.ทั้งขอให้รัฐจ่ายเงินเดือนให้ลูกจ้าง 50% ขอลดค่าไฟ ของดจ่ายภาษีของเอสเอ็มอี

Latest

“มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2025”ปิดฉากสวยงาม ยอดจองทะลัก เงินสะพัด 7 หมื่นล้าน

“สศช.” ระดมความเห็นคณะที่ปรึกษาเอกชนของ ศบค. เจอภาคเอกชนช่างขอ จนต้องจัดกลุ่มให้ไปสรุปมาตรการเป็น 5 ด้านก่อนชง ครม.ทั้งขอให้รัฐจ่ายเงินเดือนให้ลูกจ้าง 50% ขอลดค่าไฟ ของดจ่ายภาษีของเอสเอ็มอี ขอลดนำส่งประกันสังคม ด้าน “กลินท์” ชงขอเปิดบางธุรกิจที่รัฐสั่งปิด เช่น ห้าง ร้านตัดผม

นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะที่ปรึกษาด้านธุรกิจภาคเอกชนในศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.นัดแรก ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งแต่งตั้งว่า ภาคเอกชนมีข้อเสนอมาตรการรับมือกับสถานการณ์ช่วงนี้ มีการประเมินมาตรการระยะที่ 1-3 ที่รัฐบาลประกาศออกมาแล้ว รวมถึงการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดคลี่คลาย พร้อมกันนี้ได้แบ่งการทำงานเป็น 5 กลุ่มเพื่อรวบรวมข้อเสนอมากลั่นกรอง และประชุมอีกครั้งวันที่ 20 เม.ย.63 ก่อนเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)

สำหรับ 5 กลุ่มประกอบด้วย

1.กลุ่มมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ มีนายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย เป็นผู้ดูแล

2.กลุ่มมาตรการเพื่อการกลับมาเปิดธุรกิจใหม่ มีนายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เป็นผู้ดูแล

3.กลุ่มมาตรการเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) มีนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เป็นผู้ดูแล

4.กลุ่มมาตรการเพื่อการแก้ไขปัญหาด้วยดิจิทัล มีนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นผู้ดูแล

และ 5.กลุ่มมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร มีนายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เป็นผู้ดูแล

ด้านนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า ได้เสนอให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกันสินเชื่อสัดส่วน 80% เพื่อให้ธนาคารเชื่อมั่นปล่อยสินเชื่อให้เอสเอ็มอี, ลดค่าไฟฟ้า 5% และลดค่าไฟผันแปร (เอฟที), ลดเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมในส่วนของนายจ้างให้เหลือ 1% จากปกติ 5% แต่รัฐลดให้แล้วเหลือ 4%, ช่วยเหลือแรงงานที่เงินเดือนไม่เกิน 15,000 บาท โดยขอให้รัฐจ่ายให้ 50% และบริษัทจ่าย 25% ของค่าจ้าง และนำค่าจ้างที่จ่ายมาหักค่าใช้จ่ายคำนวณภาษีได้ 3 เท่า, งดเก็บภาษีเงินได้ของเอสเอ็มอี 2 ปี และขอเลื่อนการส่งมอบงานออกไป 4 เดือนในโครงการที่ทำสัญญากับรัฐแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะโควิด-19 เป็นต้น

ส่วนนายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยกล่าวว่า สัปดาห์นี้จะรวบรวมธุรกิจที่จะขอให้เปิดดำเนินการได้ก่อนที่จะนำมาเสนอในที่ประชุมวันที่ 20 เม.ย.นี้ โดยเน้นธุรกิจที่จำเป็นกับชีวิตประจำวัน เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านตัดผม แต่ถ้าหากเปิดจะต้องมีวิธีการให้ปลอดภัย ส่วนจำนวนคนตกงานขณะนี้ที่มี 7 ล้านคน หากยืดเยื้อไปอีก 2-3 เดือนจะมีคนตกงานถึง 10 ล้านคน นอกจากนี้ ขอให้เอกชนนำค่าใช้จ่ายสำหรับป้องกันโควิด-19 มาหักค่าใช้จ่ายได้ 3 เท่า รวมถึงขอขยายการลดหย่อนภาษีจากเงินบริจาคการกุศลสำหรับปีนี้เป็นไม่มีเพดาน เป็นต้น

ขณะที่นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า จะจัดทำโครงร่างปัญหาที่เอสเอ็มอีเข้าถึงสินเชื่อผ่อนปรน (ซอฟต์โลน) ไม่ได้ไปพลางก่อน เพื่อรอให้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อนำไปปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษ (ซอฟต์โลน) วงเงิน 500,000 ล้านบาทให้แก่ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ มีผลบังคับใช้ เพื่อให้เห็นภาพชัดว่าธนาคารจะผ่อนปรนเงื่อนไขเรื่องหลักประกันได้แค่ไหน เป็นต้น.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ