นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบแนวทางการดำเนินมาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากไวรัสโคโรนา (Covid-19) ของกระทรวงพลังงานประกอบ ด้วยลดค่าครองชีพของประชาชนและช่วยเหลือผู้ประกอบการ ได้แก่ลดต้นทุนค่าไฟฟ้าให้กับผู้ประกอบการภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติให้ผ่อนผันการเรียกเก็บอัตราค่าไฟฟ้าต่ำสุด จากที่กำหนดให้ผู้ใช้ไฟฟ้าต้องจ่ายในจำนวนที่ตายตัว (70% ของการใช้ไฟฟ้าสูงสุดในรอบ 12 เดือน) ไม่ว่าผู้ใช้ไฟฟ้าจะใช้ไฟฟ้าถึงจำนวนที่กำหนดหรือไม่ก็ตามเป็นผ่อนผันให้จ่ายตามการใช้ไฟฟ้าสูงสุด สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าที่ได้รับการผ่อนผันจะเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 3-7 เช่น กลุ่มเอสเอ็มอี โรงงานอุตสาหกรรม และโรงแรม ให้มีผลตั้งแต่เดือน เม.ย.-มิ.ย.63 รวม 3 เดือน ส่งผลให้ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทดังกล่าวลดค่าใช้จ่ายลงได้
ลดค่าไฟฟ้า 30% ให้กับผู้ประกอบการโรงแรมหรือหอพักที่จะปรับเปลี่ยนให้เป็นที่พักหรือโรงพยาบาลสนาม, ช่วยเหลือผู้ประกอบค้าน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งประสบปัญหาการใช้น้ำมันที่ลดลง โดยเฉพาะน้ำมันอากาศยาน, ส่งเสริมลงทุนและส่งเสริมอาชีพด้านพลังงาน ประกอบด้วยการเร่งรัดการลงทุนช่วงรอยต่อของแหล่งเอราวัณและแหล่งบงกช เบื้องต้นคาดว่า จะเกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น 2,000 อัตรา ในการสร้างแท่นผลิต และผลักดันให้เกิดกิจกรรมการรื้อถอนแท่นผลิตที่จะไม่ได้ใช้งาน โดยเฉพาะในแหล่งเอราวัณและแหล่งบงกช ที่จะมีการรื้อถอนแท่นผลิตจำนวน 53 แท่น ซึ่งจะทำให้เกิดการลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเกิดการจ้างงานที่เป็นคนไทยกว่า 1,000 อัตราต่อปี นอกจากนั้นให้มีการจัดหาแอลกอฮอล์เพื่อป้องกันโควิด-19 ให้ประชาชนทั้งประเทศผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น.