“จุรินทร์” เคาะประกันราคารับซื้อเศษกระดาษช่วยซาเล้ง ให้โรงงานผลิตกระดาษซื้อจากโรงอัดไม่ต่ำกว่าโลละ 3.50 บาท ไม่เกินเดือนละ 3 หมื่นตัน นาน 3 เดือน แต่หลังจากนั้นจนถึงสิ้นปีให้ซื้อไม่ต่ำกว่าโลละ 3.30 บาท ส่งผลให้ซาเล้งขายเศษกระดาษได้ที่โลละไม่ต่ำกว่า 1.80–2 บาทจนถึงสิ้นปี
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยหลังการหารือแนวทางแก้ปัญหาราคาเศษกระดาษตกต่ำร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง 4 ฝ่าย ได้แก่ ซาเล้ง ร้านรับซื้อของเก่า โรงงานอัดกระดาษ โรงงานผลิตกระดาษ ว่า ที่ประชุมมีมติให้ 4 ฝ่ายดำเนินการรับซื้อให้เป็นไปตามกลไกราคาตลาด และราคาตลาดโลก โดยเมื่อราคาตลาดสูงขึ้น โรงงานผลิตกระดาษไล่ลงมาถึงโรงงานอัดกระดาษ ร้านรับซื้อของเก่า ต้องรับซื้อในราคาที่สูงขึ้นตามไปด้วย เพื่อให้ซาเล้งมีรายได้จากการขายเศษกระดาษในราคาดีขึ้น
ทั้งนี้ ได้มีการกำหนดราคารับซื้อไว้ด้วยกรณีที่ราคาตลาดโลกต่ำ โดยใน 3 เดือนนับตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ.นี้เป็นต้นไป โรงงานผลิตกระดาษ ต้องรับซื้อกระดาษจากโรงอัดกระดาษ ซึ่งเป็นผู้ค้าในขั้นที่ 2 ในราคากิโลกรัม (กก.) ละไม่ต่ำกว่า 3.50 บาท ณ หน้าโรงงาน รวมปริมาณไม่เกิน 30,000 ตันต่อเดือน ส่วนที่เกินกว่า 30,000 ตันไป รับซื้อไม่ต่ำกว่า กก.ละ 3.30 บาท ณ หน้าโรงงานจนถึงสิ้นปีนี้ ราคาดังกล่าวส่งผลให้ซาเล้งนำเศษกระดาษไปขายให้ร้านรับซื้อของเก่าได้ราคา กก.ละ 2 บาท ปริมาณไม่เกิน 30,000 ตัน ณ ราคาที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล ส่วนที่เกินกว่า 30,000 ตัน กำหนดไว้ที่ กก.ละ 1.80 บาท ณ ราคากรุงเทพฯ ปริมณฑล ส่วนต่างจังหวัด ราคาเป็นไปตามกลไกของแต่ละพื้นที่
“กระทรวงพาณิชย์ได้ช่วยคลี่คลายปัญหาให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้ง 4 ฝ่าย โดยเฉพาะซาเล้ง ที่ถือว่าจนที่สุดที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิตกระดาษ ให้ได้รับความเป็นธรรม เพราะอย่างน้อยผลที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นหลักประกันให้กับซาเล้งที่จะขายเศษกระดาษได้ไม่ต่ำกว่า กก.ละ 1.80-2.00 บาท หากมีปัญหาราคาเศษกระดาษตกต่ำเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ที่ราคาเคยตกลงไปถึง กก.ละ 0.5-1.00 บาท และช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมในการจัดการเรื่องขยะเศษกระดาษด้วย”
ขณะที่หากฝ่ายใดไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว เช่น หากกดราคาต่ำกว่าราคาขั้นต่ำที่ตกลงกัน กรม การค้าต่างประเทศจะใช้มาตรการเข้าไปจัดการ เช่น กำหนดการนำเข้าเศษกระดาษจากต่างประเทศ แต่มั่นใจว่าทั้ง 4 ฝ่ายจะปฏิบัติตาม
ล่าสุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบให้เศษกระดาษเป็นสินค้าควบคุมแล้ว และคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ได้ออกประกาศ 2 ฉบับ โดยฉบับแรก กำหนดให้เศษกระดาษเป็นสินค้าควบคุม และฉบับที่ 2 กำหนดให้ปิดและแจ้งราคารับซื้อเศษกระดาษ โดยรถ 4 ล้อ ที่รับซื้อเศษกระดาษตามบ้านเรือน ไม่รวมซาเล้ง ต้องติดราคารับซื้อข้างรถ ส่วนร้านขายของเก่า โรงงานอัดกระดาษ โรงงานผลิตกระดาษ ต้องติดป้ายเช่นกัน และต้องแจ้งราคารับซื้อของวันศุกร์ภายในวันจันทร์ ของสัปดาห์ถัดไปต่อกรมการค้าภายใน โดยเศษกระดาษที่ต้องแจ้งราคารับซื้อ ได้แก่ กระดาษลัง กระดาษขาว-ดำ และกระดาษรวม (จับจั๊ว)
“ตัวแทนโรงงานผลิตกระดาษได้กล่าวในที่ประชุมว่า ปัจจุบันราคารับซื้อกระดาษปรับขึ้น จากช่วงก่อนหน้าแล้ว โดยโรงงานซื้อจากโรงอัดกระดาษที่ กก.ละมากกว่า 3.50 บาท ซาเล้งขายได้ที่ กก.ละกว่า 2 บาท ส่วนปริมาณที่กำหนดราคาขั้นต่ำไม่เกิน 30,000 ตันต่อเดือน เป็นปริมาณที่พอเหมาะ จากแต่ละเดือนโรงงานจะรับซื้อ 200,000 ตัน”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การที่กระทรวงพาณิชย์ต้องแก้ปัญหาราคาตกต่ำในครั้งนี้มีสาเหตุมาจาก ปีที่ผ่านมามีการนำเข้าเศษกระดาษจากต่างประเทศราคาถูกจำนวนมาก ส่งผลให้ราคาเศษกระดาษในประเทศตกต่ำ และซาเล้งเดือดร้อน โดยขายเศษกระดาษให้ร้านรับซื้อของเก่าได้เพียง กก.ละ 0.50-1.00 บาท จากปี 2561 ที่ขายได้ กก.ละกว่า 3 บาท จึงเรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์ช่วยเหลือ โดยนายจุรินทร์ ได้สั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศ ประชุมร่วมกัน 4 ฝ่าย และนำมาซึ่งข้อสรุปร่วมกันในครั้งนี้
ขณะเดียวกัน ภายหลังจากประชุมและแถลงข่าวเสร็จ นายจุรินทร์ได้ลงพบปะกับพี่น้องซาเล้งจากทั่วประเทศที่เดินทางมาให้กำลังใจ ณ โถงด้านหน้ากระทรวงพาณิชย์ โดยซาเล้งได้ปรบมือต้อนรับ และตะโกนขอบคุณนายจุรินทร์ว่า “จุรินทร์สู้ๆ” และมีการมอบซาเล้งจำลองที่ทำจากไม้กับข้อความ “จากใจซาเล้ง” ให้กับนายจุรินทร์.