หมุน “เป๋า 1” ไป “เป๋า 2”

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม เปิดเผยว่า ครม.รับทราบความคืบหน้าของโครงการชิม ช้อป โดยยอดการใช้จ่ายเงินในกระเป๋า 2 ขณะนี้มีมากกว่ากระเป๋า 1 แล้ว และมากกว่าการคาดการณ์หมายความว่า มาตรการชิมช้อปใช้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นให้มีการจับจ่ายซื้อขายสินค้าได้มากขึ้น นายกฯได้ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งจะมีการจัดถนนคนเดิน และวันที่ 22 ธ.ค. จะเปิดครบทุกจังหวัดทั่วประเทศ จากนั้นจะทำต่อไปในที่ต่างๆ เช่น สวนสาธารณะ ฟุตปาท และที่ที่เหมาะสม แต่จะไม่มีผลกระทบต่อประชาชน เพราะจะเปิดช่วงเดียว จึงฝากไปถึงประชาชนที่อาจได้รับความเดือดร้อนอยู่บ้างในการขายสินค้าที่อาจกระทบกับการจราจร

ด้านนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ที่ประชุม ครม. ยังเห็นชอบให้เปลี่ยนให้โอนเงินจากเป๋าตัง 1 ที่เหลืออยู่ 262 ล้านบาท จากที่อนุมัติไว้ 12,000 ล้านบาท ไปเป็นเงินชดเชยค่าสินค้าและบริการ กระเป๋าเงินช่อง 2 แทน เพื่อรองรับผู้ที่เติมเงินเข้าไปรับการใช้สิทธิ์ของรับการคืนเงิน (แคชแบ็ก) 15-20% เพราะเป๋าตังแรกที่รัฐใส่เงินให้คนละ 1,000 บาท แก่ผู้ใช้สิทธิ์ในมาตรการชิม ช้อป 14.6 ล้านคน ซึ่งใช้เงินไปแล้ว 11,737.9 ล้านบาท ยังมีเงินเหลืออยู่อีก 262 ล้านบาท กระทรวงการคลังจึงเสนอให้โยกงบก้อนนี้ไปไว้กระเป๋าที่ 2 ซึ่งล่าสุดมีคนใช้สิทธิ์ในวงเงินกว่า 13,000 ล้านบาท มากกว่ากระเป๋าใบที่ 1 และจะนำเงินที่เหลือ 262 ล้านบาทไปจ่ายแคชแบ็กคืนในเดือน ธ.ค.นี้” เมื่อสิ้นสุดโครงการแล้ว ให้กระทรวงการคลังประเมินผลความคุ้มค่า และผลสัมฤทธิ์ของโครงการอีกครั้ง.