The Issue : เส้นทางสู่ 5G

ทันทีที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (ประชาพิจารณ์) ร่างประกาศ กสทช.เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมคลื่นความถี่สากล ย่าน 700 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) 1800 เมกะเฮิรตซ์ 2600 เมกะเฮิรตซ์ และ 26 กิกะเฮิรตซ์ (GHz) หรือการประมูล 5 จี เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา

ถือเป็นการนับหนึ่ง 5 จี อย่างเป็นทางการของประเทศไทย และนับจากวันนี้เหลือเวลาเพียง 67 วันเท่านั้น ที่จะเข้าสู่การประมูล 5 จี ในวันที่ 16 ก.พ.2563 และเปิดบริการในเดือน ก.ค.2563

จากเวทีประชาพิจารณ์ในวันนั้น ผลเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งแล้วว่า ผู้ให้บริการโทรคมนาคม หรือค่ายมือถือต่างสนใจเฉพาะคลื่น 2600 เมกะเฮิรตซ์เท่านั้น

และภายในสัปดาห์นี้ ค่ายมือถือ 3 ราย ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส บริษัท ทรูมูฟ ยูนิเวอร์แซล คอมมูนิเคชั่น จำกัด และบริษัท โทเทิ่ล แอ็กเซส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค จะทำหนังสือถึงบอร์ด กสทช. และนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เพื่อขอให้นำคลื่น 2600 เมกะเฮิรตซ์มาประมูลเพียงคลื่นเดียวเท่านั้น

นั่นเป็นเพราะว่าคลื่นดังกล่าวมีการผลิตอุปกรณ์รองรับไว้แล้ว ปัจจุบันมีการใช้งานในประเทศมหาอำนาจทางเทคโนโลยี ทั้งสหรัฐอเมริกาและจีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น

ประกอบกับ 3 ค่ายมือถือมีคลื่น 700 และ 1800 เมกะเฮิรตซ์ อยู่ในครอบครองแล้วจึงไม่จำเป็น ส่วนคลื่น 26 กิกะเฮิรตซ์ ยังไม่มีใครนำมาใช้งาน 5 จี จึงไม่น่าสนใจ

ดังนั้น คลื่น 2600 จึงถูกค่ายมือถือชำแหละในทุกประเด็นสงสัย ก่อนตัดสินใจว่าจะประมูลหรือไม่ประมูลโดยเริ่มเปิดประเด็น ว่าด้วยการกำหนดเพดานถือครองคลื่นความถี่ไม่เกิน 100 เมกะเฮิรตซ์ เนื่องจากหวั่นเกรงว่าจะมีการแข่งขันการเคาะราคากันมากเกินไป จึงขอให้ กสทช.ปรับเพดานการถือครองคลื่นใหม่, กรณีการแบ่งช่วงคลื่น 2600 (2500-2690) มีอยู่ 190 เมกะเฮิรตซ์ เป็น 19 ชุุด ชุดละ 10 เมกะเฮิรตซ์์ แต่มี 2 ชุดที่ยังมีการใช้งานโดยกองทัพ ขอให้ กสทช.เคลียร์ให้ชัดเจนก่อนการประมูล

ส่วนราคาเริ่มต้นการประมูล 1,862 ล้านบาท เคาะราคาครั้งละ 93 ล้านบาท รวมถึงหลักทรัพย์ค้ำประกัน 1,862 ล้านบาทนั้น ค่ายมือถือขอให้ปรับลดราคาลง เพื่อจะได้มีเงินไปลงทุนขยายโครงข่าย แต่ขอให้เพิ่มวงเงินหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อป้องกันผู้ที่เข้ามาประมูลเล่นๆ ไม่ได้จริงจังที่จะเปิดให้บริการ 5 จี

อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ สิทธิประโยชน์ในการชำระเงิน งวดที่ 1 ต้องชำระเท่ากันคือ 10% ของราคาชนะ ประมูล แต่หากผู้ชนะประมูลรับเงื่อนไขการขยายโครงข่าย 5 จี ในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จะได้รับสิทธิพิเศษ ชำระเงินค่าประมูล 15% สำหรับงวดที่ 2-7 ในปีที่ 5-ปีที่ 10 แต่หากไม่รับเงื่อนไขการขยายโครงข่ายในอีอีซี ก็ชำระเงิน 10% เป็นเวลา 10 งวด ตั้งแต่ปี 1-10 ซึ่งค่ายมือถือสงสัยว่าเป็นสิทธิพิเศษอย่างไร เนื่องจากไม่เห็นความแตกต่างที่ชัดเจนมากนัก เรื่องนี้ กสทช.รับไปพิจารณาและวิเคราะห์อีกครั้ง

สำหรับพื้นที่อีอีซีที่ผู้ชนะประมูลต้องลงทุนขยายโครงข่าย 5 จี ให้ครอบคลุมพื้นที่ 50% ในปีแรก ได้แก่ เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล, อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ บางปะกง, นิคมอุตสาหกรรม ทีเอฟดี 2 จังหวัดฉะเชิงเทรา, นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร, นิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก มาบตาพุด และเมืองการบินภาคตะวันออก เป็นต้น และขยายโครงข่ายให้ครอบคลุม 50% ภายใน 4 ปี สำหรับพื้นที่สมาร์ทซิตี้ ได้แก่ เชียงใหม่ ขอนแก่น นครราชสีมา นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรสาคร สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต สงขลา

นอกจากนี้ยังมีเรื่องวิธีการประมูลรูปแบบ clock auction ที่ค่ายมือถือต่างงุนงง และไม่เข้าใจวิธีการ จึงขอให้ทบทวนวิธีการประมูลใหม่ แต่ กสทช.แจ้งว่า อย่าเพิ่งกังวลจนเกินเหตุ ด้วยวิธีนี้ดีที่สุด เพราะไม่ต้องเคาะราคาข้ามวันข้ามคืน เหมือนที่ผ่านมา ซึ่งจะทำความเข้าใจและเปิดให้ทดลองวิธีการประมูลในวันที่ 14 ก.พ.63

สำหรับไทม์ไลน์ หลังสิ้นสุดการรับฟังความเห็นวันที่ 12 ธ.ค.นี้ กสทช.จะรวบรวมความคิดเห็นแล้วนำมาวิเคราะห์ทั้งหมด แล้วนำเสนอบอร์ด กสทช.พิจารณาอนุมัติในสัปดาห์ถัดไป เพื่อนำร่างประกาศไปลงในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 27 ธ.ค.นี้ และวันที่ 2 ม.ค.-3 ก.พ.2563 จะประกาศเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมประมูล วันที่ 4 ก.พ. เปิดให้ยื่นคำขอร่วมประมูล วันที่ 5-12 ก.พ. ตรวจสอบคุณสมบัติ วันที่ 12 ก.พ. ประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติ วันที่ 14 ก.พ. ทดลองวิธีการประมูล และวันที่ 16 ก.พ. เคาะราคาประมูล เมื่อได้ผู้ชนะประมูลแล้ว ภายใน 90 วันต้องนำเงินงวดแรกมาชำระ เพื่อกดปุ่มใบอนุญาตเป็นเวลา 15 ปี และค่ายมือถือสามารถนำคลื่นความถี่ไปใช้งานได้ทันที.

ดวงพร อุดมทิพย์