“สมคิด” เคาะแสนล้านกระตุ้นรากหญ้า

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

“สมคิด” เคาะแสนล้านกระตุ้นรากหญ้า

Date Time: 21 ก.ย. 2562 05:10 น.

Summary

นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันนี้ (21 ก.ย.62) จะมีการประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน ประชารัฐสร้างชาติ ที่มีนายสมคิด จาตุศร

Latest

ท่องเที่ยวปลายปีคึกคักน้อย พิษน้ำท่วมใหญ่ภาคใต้-ปมขัดแย้งกัมพูชา

นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันนี้ (21 ก.ย.62) จะมีการประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน ประชารัฐสร้างชาติ ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพลังงาน ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง สภาเกษตรกรแห่งชาติ โดยจะมีการนำเสนอมาตรการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ คาดว่าใช้วงเงินงบประมาณ 100,000 ล้านบาท

“มาตรการที่จะออกมาจะช่วยให้เศรษฐกิจฐานราก ซึ่งปัจจุบันมีประชาชนอยู่ในระบบจำนวน 25-30 ล้านคน เข้มแข็งขึ้น โดยมาตรการที่ออกมานั้นจะไม่เน้นให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) เติบโตอย่างเดียว แต่ประชาชนฐานรากต้องอยู่ได้ มีความสุข แต่ละครอบครัวต้องเข้าถึงแหล่งทุน มีช่องทางทำมาหากินเพิ่ม ได้รับสวัสดิการของรัฐที่ดีขึ้น เพราะถ้าประชาชนฐานรากเข้มแข็ง ประเทศไทยก็จะมีเสถียรภาพตามไปด้วย”

นอกจากนี้ เพื่อแก้ปัญหาหนี้นอกระบบกระทรวงการคลังจะผลักดันให้กองทุนหมู่บ้าน ซึ่งได้เกรด A หรือคุณภาพดี จำนวน 20,000 แห่ง ยกระดับเป็นธนาคารชุมชน โดยในปีนี้ตั้งเป้าไว้ว่าจะยกระดับให้ได้ถึง 500 แห่ง ทั้งนี้ เพื่อลดการกู้ยืมหนี้นอกระบบจะกำหนดดอกเบี้ยธนาคารชุมชนไว้ที่ 1.25% ต่อเดือน และจะให้ ธ.ก.ส.กับธนาคารออมสินเป็นพี่เลี้ยงช่วยให้ความรู้ด้านการเงิน รวมทั้งพัฒนาด้านไอทีของธนาคารชุมชนไปสู่ระบบการทำธุรกรรมต่างๆผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (E-banking)

สำหรับมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ “ชิปช้อปใช้” นั้น เดิมกรมบัญชีกลางกำหนดเวลารับสมัครผู้ประกอบการและร้านค้า ตั้งแต่ 28 ส.ค.-20 ก.ย.62 ซึ่งคาดว่าจะมีร้านค้าสมัครเข้าร่วมถึง 80,000 ร้านค้า มากกว่าเป้าที่กำหนดไว้ 40,000 ร้านค้า อย่างไรก็ตาม คลังมองว่าอาจจะยังมีร้านค้าที่สนใจแต่ไม่ได้เข้ามาลงทะเบียน จึงจะขยายเวลารับสมัครออกไปจนถึงเดือน พ.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อรวมจำนวนผู้ประกอบการและร้านค้าที่มาสมัครใหม่กับผู้ค้ารายเดิมที่มีเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) และผู้ประกอบการที่ให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงินประชารัฐ” ประมาณ 80,000 ร้านค้า คาดว่าในโครงการนี้จะมีร้านค้าให้บริการประชาชนประมาณ 160,000 ร้านค้า ซึ่งเพียงพอต่อประชาชนจำนวน 10 ล้านคน ทั้งนี้ จะเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนรับเงิน 1,000 บาท วันที่ 23 ก.ย.-15 พ.ย.62.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ