งดดึงดูดนก-จับตาขึ้นลงอากาศยาน
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยกรณีที่ตนได้ทำหนังสือถึงบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.เรื่องการตรวจสอบผลกระทบจากการก่อสร้างภายในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรณีการก่อสร้างโครงการห้างสรรสินค้าเซ็นทรัล วิลเลจ ว่า
กพท.ได้ตรวจสอบและตอบทุกข้อซักถามของ ทอท.แล้ว โดยกรณีพื้นที่อันอาจมีกิจกรรมดึงดูดนก ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่ทำให้อาจเกิดอุบัติเหตุจากอากาศยานชนนกเพิ่มขึ้นนั้น ทาง กพท.ยังไม่มีข้อกำหนดหรือข้อห้ามเกี่ยวกับการใช้พื้นที่โดยรอบสนามบิน แต่อยู่ระหว่างจัดทำกฎหมายกำหนดให้สนามบินต้องมีกระบวนการบริหารจัดการอันตรายที่เกิดจากสัตว์ โดยประสานความร่วมมือระหว่างสนามบิน และเจ้าของที่ดิน เพื่อทราบถึงแนวทางพัฒนาท้องที่ และการดำเนินกิจกรรม ซึ่งอาจมีผลก่อให้เกิดแหล่งที่อยู่อาศัยของนก ทำให้เป็นอันตรายต่อการปฏิบัติการบินของอากาศยาน
ส่วนเรื่องความเสี่ยงต่อความปลอดภัยทางการบิน กรณีที่อาจถูกแทรกแซงโดยมิชอบด้วยกฎหมายขณะอากาศยานร่อนลงสนามบินในระดับต่ำนั้น จากการฝึกอบรมของ กพท. กับ Transportation Security Administration ของสหรัฐฯ ในเดือน ส.ค.นี้ พบว่าพื้นที่โครงการเซ็นทรัล วิลเลจ มีความเสี่ยงต่อการถูกแทรกแซงโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ขณะอากาศยาน Take Off และ Landing ในระดับต่ำ กพท.จึงมีข้อแนะนำให้ ทอท.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อบรรเทาความเสี่ยงนี้ และ กพท.ได้แจ้งให้บริษัท ซีพีเอ็น วิลเลจ จำกัด จัดทำรายงานผลกระทบความปลอดภัยการเดินอากาศ เพื่อป้องกันความเสี่ยงทั้งสองเรื่องดังกล่าว ส่งให้ กพท.ให้ความเห็นชอบภายใน 60 วัน
ด้านนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะวางมาตรการรับมือตามที่ได้รับคำแนะนำแต่ต้องยอมรับว่าเรื่องที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะส่งผลกระทบความปลอดภัยทางการบิน เช่น การทิ้งขยะก็อาจก่อให้เกิดแหล่งที่อยู่ของนก ซึ่งเรื่องนี้ทางเอกชนต้องวางแผนให้รอบคอบ ส่วนกรณีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยทางการบิน ถือเป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือการควบคุมที่ไม่อาจรู้ได้ว่าจะเกิดขึ้นอย่างไร ทุกฝ่ายจึงต้องมีการวางแผนรับมือให้รอบด้าน.