เซ็นทรัลรีเทลสู่ยุคดิจิทัล ค้าปลีกไร้จำกัด

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

เซ็นทรัลรีเทลสู่ยุคดิจิทัล ค้าปลีกไร้จำกัด

Date Time: 3 ส.ค. 2562 05:01 น.

Summary

  • กลุ่มเซ็นทรัล หนึ่งในยักษ์ใหญ่ในธุรกิจค้าปลีกของประเทศไทย ได้ใช้เวลาเตรียมตัวเพื่อรวบรวมธุรกิจค้าปลีกทั้งหมด 3 ปี มาอยู่ภายใต้การดำเนินการ

Latest

“พิชัย” ยันมีแผนอ้อนสหรัฐฯ ชะลอภาษี ธนาคารโลกชี้แจกเงินหมื่นช่วยแก้จน-เพิ่มจีดีพี

กลุ่มเซ็นทรัล หนึ่งในยักษ์ใหญ่ในธุรกิจค้าปลีกของประเทศไทย ได้ใช้เวลาเตรียมตัวเพื่อรวบรวมธุรกิจค้าปลีกทั้งหมด 3 ปี มาอยู่ภายใต้การดำเนินการและการบริหารในบริษัทเดียวคือบริษัทเซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (เซ็นทรัลรีเทล) กับยอดขายมูลค่าถึง 240,297 ล้านบาทในธุรกิจ 3 ประเทศคือ ไทย, เวียดนาม และอิตาลี

พร้อมเตรียมผลักดันจดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นธุรกิจที่ 3 ตามหลังธุรกิจในเครือคือกลุ่มโรงแรมเซ็นทารา และบริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) บริษัทผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศ

เรามาดูว่าธุรกิจค้าปลีกของเซ็นทรัลมีอะไรบ้างกับเครือข่ายสาขา 3,936 สาขา ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ในรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format) เริ่มต้นจากห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าขายสินค้าเฉพาะทาง ซุปเปอร์มาร์เกต พลาซ่า

ครอบคลุมกลุ่มแฟชั่น ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล มี 23 สาขา กับส่วนแบ่งตลาด 37% ในปีที่ผ่านมา, ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน 49 สาขา มีส่วนแบ่งตลาด 17%, โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ เป็นพลาซ่าเน้นลูกค้าในเมืองรอง, ซูเปอร์สปอร์ต ร้านจำหน่ายเครื่องกีฬาและอุปกรณ์กีฬา มีส่วนแบ่งเป็นอันดับหนึ่งที่ 35.8%, Central Marketing Group (CMG) ผู้แทนจำหน่ายสินค้าแฟชั่นและผลิตภัณฑ์เสริมความงามจากต่างประเทศผ่านเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้าและช่องทางค้าปลีกรวมกว่า 40 แบรนด์

กลุ่มฮาร์ดไลน์ ได้แก่ ไทวัสดุผู้จำหน่ายวัสดุก่อสร้างมีส่วนแบ่งเป็นอันดับสาม, บ้านแอนด์ บียอนด์ แบรนด์ค้าปลีกจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้าน ไทวัสดุและบ้านแอนด์ บียอนด์ มีสาขารวม 53 สาขา, เพาเวอร์บายจำหน่ายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์มี 105 สาขา กลุ่มอาหารได้แก่ ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ เดลี่, ท็อปส์ พลาซ่า รวมทั้งหมด 265 สาขา, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และแฟมิลี่มาร์ท 1,008 สาขา ธุรกิจในประเทศไทยทำรายได้สัดส่วน 77%

ส่วนในประเทศเวียดนาม “บิ๊กซี” เป็นไฮเปอร์มาร์เกตและพลาซ่า เป็นอันดับหนึ่งทั้งในส่วนแบ่งทางการตลาด จำนวนสาขาและพื้นที่ขายและปัจจุบันเป็นผู้ค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคอันดับสองทั้งในส่วนแบ่งตลาดและพื้นที่ขายมีจำนวน 36 สาขา ส่วน “เหงียนคิม” เป็นร้านขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เฉพาะทางรายใหญ่อันดับ 3 และ “ลานซี มาร์ท” เป็นไฮเปอร์มาร์เกตขนาดเล็กถึงกลางในพื้นที่ชานเมืองและชนบทของเวียดนามตอนเหนือ ธุรกิจในประเทศเวียดนามมีรายได้สัดส่วน 13%

ในประเทศอิตาลี “รีนาเชนเต” (Rinascente) ดำเนินธุรกิจห้างสรรพสินค้าระดับไฮเอนด์มีสินค้าเกี่ยวกับแฟชั่น เครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์ความงาม ของใช้ในครัวเรือน สินค้าออกแบบและสินค้าภายใต้แบรนด์อิตาลีและแบรนด์ระดับสากล มี 9 สาขา ในปีที่ผ่านมามีส่วนแบ่งการตลาดที่ 48.1% และจะเปิดให้บริการสาขาที่ 10 ที่เมืองตูริน ทำรายได้สัดส่วน 8.5%

นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร เซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ค้าปลีกเป็นธุรกิจเริ่มต้นของกลุ่มเซ็นทรัลเมื่อ 72 ปีที่ผ่านมา เริ่มต้นจากธุรกิจห้องแถวห้องเดียวย่านเจริญกรุง ในปี 1947 ซึ่งในขณะนี้ก็ยังอยู่ประสบความสำเร็จและขยายธุรกิจเปิดห้างเซ็นทรัล สาขาวังบูรพาสาขาแรก และในปี 1968 เปิดสาขาสีลมนับเป็นสาขาที่ทันสมัยที่สุดในภูมิภาคในขณะนั้น ในปี 1974 เปิดสาขาชิดลมทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย และปี 1980 เปิดสาขาลาดพร้าว นับเป็นสาขาใหญ่ที่เป็นศูนย์กลางการค้าที่สมบูรณ์แบบในภูมิภาค

“หลังจากนี้ได้แตกธุรกิจออกไปหลากหลายสาขา รวมทั้งการขยายห้างไปในต่างจังหวัดถึง 51 จังหวัดในปัจจุบัน และขยายธุรกิจไปต่างประเทศ วันนี้ เซ็นทรัล รีเทล พร้อมแล้วที่จะมุ่งสู่ความสำเร็จอีกระดับ ภายใต้การบริหารจัดการโดยทีมงานมืออาชีพ นับเป็นก้าวใหม่ของเซ็นทรัล รีเทล และวงการค้าปลีกของไทย ที่พร้อมสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ในตลาดค้าปลีกระดับโลก”

นายทศกล่าวด้วยว่า เมื่อก้าวเข้าสู่ยุค “New Economy” ทางเซ็นทรัล รีเทล พร้อม “New Central New Retail” ได้เริ่มนำธุรกิจดั้งเดิมที่เรียกว่า Brick and Motar หรือร้านค้าแบบดั้งเดิมเข้าสู่ Customer-Centric Omnichannel Platform เพื่อเชื่อมต่อประสบการณ์การช็อปปิ้งให้กับผู้บริโภคอย่างไร้รอยต่อกับไลฟ์สไตล์ในยุคดิจิทัลในทุกธุรกิจของเซ็นทรัล ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อ หรือเลือกชมสินค้า และไปซื้อในห้าง หรือสั่งซื้อออนไลน์ จะผสมผสานออฟไลน์หรือออนไลน์ได้ทุกรูปแบบบนแพลตฟอร์มเดียว

การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เหตุผลหลักก็คือการสร้างความมั่นใจให้กับธุรกิจและพันธมิตรที่จะร่วมดำเนินธุรกิจหรือร่วมลงทุนในการขยายธุรกิจโดยเฉพาะในต่างประเทศให้เป็นไปอย่างราบรื่น และเซ็นทรัล รีเทล ยืนยันว่าจะเป็นตัวแทนธุรกิจสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในระดับโลกได้.

วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ