"การบินไทย" กลับมาบินเส้นทาง กรุงเทพ-เซนได เริ่ม 29 ต.ค.นี้

"การบินไทย" บุกภูมิภาคโทโฮคุ เปิดเส้นทาง กรุงเทพ-เซนได 29 ต.ค.นี้ หวังโกยผู้โดยสารตลาดท่องเที่ยวและภาคอุตสาหกรรม ตั้งเป้าเคบิ้นแฟกเตอร์ 80% มั่นใจ ดูดรายได้กลุ่มคอร์ปอเรทอันดับ 3 ในญี่ปุ่น 

นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในวันที่ 29 ต.ค.นี้ การบินไทยจะกลับมาทำการเปิดบินเส้นทางกรุงเทพ - เซนได หลังจากในปี 2556 - 2557 เคยทำการบินในเส้นทางนี้แล้ว แต่ประสบปัญหาทางการเมืองในประเทศ ส่งผลให้ต้องปิดจุดบินดังกล่าว โดยขณะนี้พบว่าเมืองเซนได เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวต้องการเดินทางมากขึ้น อีกทั้งยังมีกลุ่มลูกค้านักธุรกิจจำนวนมาก เพราะเป็นฐานอุตสาหกรรมสำคัญของญี่ปุ่น จึงมั่นใจว่าการกลับมาเปิดบินครั้งนี้จะได้รับการตอบรับดี มีอัตราบรรทุกผู้โดยสาร (เคบิ้นแฟกเตอร์) สูงในระดับ 80%

"เปิดเส้นทางบินใหม่ เราก็จะต้องมาบริหารฝูงบิน หรือเครื่องบินให้สอดคล้อง เพราะตอนนี้มีฝูงบินจำกัด โดยขอเวลาพิจารณาภาพรวมของเส้นทางอื่นๆ ก่อน อาจจะต้องปรับลดเที่ยวบินในเส้นทางที่ไม่ทำกำไร แต่สำหรับจุดบินเซนไดนี้ มั่นใจว่าการตอบรับจะดี เพราะไม่ใช่มองเพียงการบินเพื่อเปิดตลาด แต่เป็นเมืองที่พิเศษ เป็นเมืองที่ได้รับแรงสนับสนุนอย่างดี ทั้งจากทางโตโยต้า ทูโช ทางสนามบินเซนได เมืองเซนได ทุกคนอยากให้เราไปทำการบิน จึงเรียกว่าเป็นโอกาส" กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทย กล่าว

ด้าน นายนนท์ กลินทะ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายขาย บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เป้าหมายการตลาดของเส้นทางเซนได การบินไทยจะโปรโมทการท่องเที่ยวทั้งสองด้าน คือขาไปและขากลับ เพราะเชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวไทยและญี่ปุ่นต้องการเดินทาง คาดว่าจะมีสัดส่วนนักท่องเที่ยวไทยประมาณ 60% และญี่ปุ่น 40% อย่างไรก็ดี ยังมั่นใจว่ากรุงเทพ - เซนได จะเป็นอีกจุดบินที่ทำรายได้ในตลาดญี่ปุ่น เหมือนกับ 5 เส้นทางที่การบินไทยเปิดให้บริการในปัจจุบัน คือ นาโกย่า โอซาก้า โตเกียว ฟูกุโอกะ และซัปโปโร 

ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายขาย การบินไทย กล่าวต่อว่า จะผลักดันให้การบินไทย เพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดสายการบิน ที่บินจากไทยไปญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันการบินไทยเป็นผู้ครองตลาดอันดับ 1 มีสัดส่วนอยู่ที่ 48% คิดเป็นจำนวนลูกค้าประมาณ 1 ล้านคน มีอัตราเติบโตเฉลี่ย 5% ต่อปี เมื่อเปิดเส้นทางกรุงเทพ- เซนได คาดว่าจะทำให้ยอดผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 7 หมื่นคนต่อปี ส่งผลให้ภาพรวมตลาดญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอีก 1-2% และผลักดันให้ส่วนแบ่งตลาดญี่ปุ่นของการบินไทยเพิ่มขึ้นเป็น 50%

"เส้นทางกรุงเทพ-เซนได ไม่ได้เปิดมาเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวอย่างเดียว แต่จะรองรับกลุ่มลูกค้าคอร์ปอเรทด้วย เพราะเป็นเมืองอุตสาหกรรม มีความต้องการในการเดินทางของนักธุรกิจตลอดทั้งปีอยู่แล้ว และการบินไทยได้ลงนามร่วมกับทางโตโยต้า เพื่อให้พนักงานซื้อตั๋วการบินไทยในการเดินทางไปกลับ รวมไปถึงการขนส่งชิ้นส่วนยานยนต์ของโตโยต้า ผ่านคาร์โก้ของการบินไทยด้วย จึงมั่นใจว่าเส้นทางเซนได จะสร้างรายได้ตั๋วในกลุ่มลูกค้าคอร์ปอเรทเพิ่มอีก จากปัจจุบันนาโกย่าสร้างรายได้เป็นอันดับ 1 โตเกียวอันดับ 2 และคาดว่าเซนได จะเป็นอันดับ 3" นายนนท์ กล่าว.