เล่นงานหนักนำเข้าสินค้าห่วย

นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า หลังจาก สมอ.ได้ส่งหนังสือถึงผู้นำเข้าสินค้า รวม 5,000 ราย เพื่อสอบถามว่า การนำเข้าสินค้าแต่ละลอตได้รับใบอนุญาตนำเข้าสินค้าที่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ภาคบังคับ 112 รายการ ตาม พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ.2511 หรือไม่ ซึ่งกำหนดให้ผู้นำเข้าต้องส่งหนังสือตอบกลับมายังสมอ.ภายในวันที่ 15 พ.ค.62 นั้น ล่าสุด มีผู้นำเข้าส่งหนังสือตอบกลับมาแล้ว 1,500 ราย หรือ 30% ของจำนวนที่ส่งไปทั้งหมด เหลืออีก 70% ยังไม่ส่งกลับมา ซึ่ง สมอ.จะติดตามสาเหตุที่ยังไม่ได้ส่งหนังสือตอบกลับมา

“กลุ่มที่ยังไม่ส่งหนังสือแจ้งกลับมา ถือเป็นกลุ่มที่น่าสงสัย ซึ่งจะตรวจสอบลงลึกในรายละเอียดว่า เหตุใดถึงไม่ส่งหนังสือกลับมา เช่น อาจเลิกกิจการ หรือไม่นำเข้าสินค้ากลุ่มนั้นแล้ว หรือจงใจทำผิด ซึ่งได้ขอข้อมูลกรมศุลกากรมาตรวจสอบแล้ว”

สำหรับการส่งหนังสือไปยังผู้ประกอบการครั้งนี้ เป็นการขยายผลจากกรณีที่ สมอ.ได้ตรวจจับการปลอมแปลงใบอนุญาตนำเข้าหมวกกันน็อกของผู้ประกอบการรายหนึ่ง โดยได้ตรวจสอบย้อนหลังไปเมื่อปี 60 และล่าสุดยังตรวจพบการปลอมแปลงใบอนุญาตนำเข้ากลุ่มสุขภัณฑ์ของห้างค้าปลีกขนาดใหญ่แห่งหนึ่งด้วย ซึ่งการนำเข้าสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานมอก. อาจทำให้ผู้บริโภคได้รับอันตราย

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ยังไม่ได้ส่งหนังสือตอบกลับมา หากภายในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ ยังไม่ตอบกลับมาอีก สมอ.จะพักใช้ใบอนุญาตนำเข้าสินค้าชั่วคราวทันที และหากภายในวันที่ 15 ก.ค.นี้ ยังไม่ส่งหนังสือกลับมาอีก จะถอนใบอนุญาตนำเข้า และตรวจสอบประวัติ เพราะถือว่าผิด พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์ ที่กำหนดให้ต้องขอใบอนุญาตนำเข้าสินค้า มอก.ภาคบังคับ 112 รายการ “การปลอมแปลงข้อมูลลักลอบนำเข้า ถือว่ามีความผิด แต่เมื่อถึงชั้นศาล อาจได้รับโทษเพียงแค่ถูกปรับขั้นต่ำ และอาจได้รับการยกเว้นโทษจำคุก แต่กรณีแจ้งข้อมูลเท็จ หรือไม่แจ้งข้อมูลตามเวลาที่กำหนด อาจถูกลงโทษหนัก โดยกรณีเป็นผู้ผลิตและผู้นำเข้า มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

สำหรับสินค้าที่ต้องขอใบอนุญาตนำเข้า เป็นสินค้าที่อยู่ในกลุ่ม มอก.ภาคบังคับ ปัจจุบันมี 112 รายการ แบ่งเป็น 10 หมวด เช่น โยธาและวัสดุก่อสร้าง, อาหาร, ภาชนะพลาสติกสำหรับบรรจุผลิตภัณฑ์เภสัชปราศจากเชื้อ เป็นต้น.