เปิดสัมผัส iPad mini และ iPad Air อุปกรณ์มัลติทาสก์ทรงพลัง!

นับเป็นข่าวดีของแฟนๆ iPad mini เมื่อ “แอปเปิล” ได้ทำการอัปเกรดครั้งใหญ่ด้วยการเปิดตัวรุ่นที่ 5 สำหรับแฟนๆ ที่ชื่นชอบดีไซน์อันกะทัดรัดและพกพาสะดวกกับหน้าจอเล็กที่สุดในตระกูลนี้แต่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีล่าสุด

หลังจากที่ไม่ได้ทำตลาดมานานตั้งแต่ปี 2558 จนคิดกันว่าคงไม่ได้ทำต่อ ทางแอปเปิลเลยจัดหนักให้เป็นอุปกรณ์มัลติทาสก์ที่ทรงพลัง กับชิป A12 Bionic มีประสิทธิภาพสูงขึ้นถึง 3 เท่าและกราฟิกเร็วขึ้นถึง 9 เท่า เมื่อเทียบกับ iPad mini รุ่นก่อนหน้า

รวมทั้ง iPad Air ใหม่ รุ่น 10.5 นิ้ว กับการออกแบบใหม่บางเฉียบ กับประสิทธิภาพที่เร็วกว่ารุ่นเดิมถึง 70% กราฟิกเร็วขึ้น 2 เท่า กับชิป A12 Bionic เช่นเดียวกัน หนัก 456 กรัม บางเพียง 6.1 มม. ราคาเริ่มต้น 17,900 บาท ส่วน iPad mini หนัก 300 กรัม บาง 6.1 มม. ราคาเริ่มต้น 13,900 บาท รองรับความปลอดภัย Touch ID มี 3 สีคือ สีเงิน สีเทาสเปซเกรย์ และสีทอง

มาพร้อมกับ Neural Engine ที่เรียนรู้ของระบบ และ Core Machine Learning ในทุกด้าน ทำให้การใช้งานด้านต่างๆ เช่น ความจริงเสริม หรือ Augmented Reality (AR) ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง การเล่นเกมหรือการถ่ายภาพทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และจัดการรายการต่างๆ ได้สูงสุดถึง 5 ล้านล้านรายการต่อวินาที นับเป็นครั้งแรกที่ iPad 2 รุ่นนี้รองรับ ทาง แอปเปิล มองว่า แอปพลิเคชันในอนาคตจะมีการ Machine Learning กันมาก และแอปทางด้าน AR ไม่ว่าจะเป็นเกมหรือแอปสำหรับสายงานอาชีพเช่นด้านสถาปัตยกรรม การตกแต่งออกมารองรับมากมาย

อาทิ แอปเกม Angry Birds AR: Isle of Pigs ที่เปิดให้พรีออเดอร์ล่วงหน้าก่อนเปิดสำหรับแพลตฟอร์ม iOS ในสิ้นเดือน เม.ย.นี้ พบกับความสนุกสนานกับเกม Animation สามารถเห็นตัวละครที่เหมือนจริงอย่างไม่น่าเชื่อรวมถึงเกมทั้งเกมวางซ้อนกับสภาพแวดล้อมจริงทำให้ Angry Birds มีชีวิตชีวาอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

หรือแอป iScape iScape ใช้เทคโนโลยี AR ช่วยให้การออกแบบแลนด์สเคปเป็นไปอย่างง่ายดาย ใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติ ARKit เพื่อสร้างประสบการณ์การออก-แบบที่สมจริงและสมจริง iScape กำลังเชื่อมต่อโลกทางกายภาพและดิจิทัลเพื่อให้เจ้าของบ้านผู้สร้างและผู้รับเหมาสามารถเห็นภาพโครงการก่อน

นอกจากนี้ยังรองรับ Apple Pencil รุ่นที่ 1 มอบประสบการณ์ใหม่ให้ iPad mini ตัวใหม่เป็นอุปกรณ์พกพาติดตามตัวไปทุกที่ ใช้จดบันทึกไอเดีย สเกตช์ภาพขณะเดินทางได้ มีแอปที่น่าสนใจสำหรับการใช้ iPad mini และ iPad Air ใหม่ และใช้ Apple Pencil ให้เต็มประสิทธิภาพ เช่น Moleskine, Pages, Numbers, Keynote, MyScript Nebo, GoodNotes 5, Notability, MyScript Calculator, Pixelmator Photo, Procreate , Linea Sketch, Morpholio Trace หรือ แอปสำหรับการเรียนรู้สิ่งใหม่ Visit Singapore Travel Guide, Swift Playgrounds, Math Ninja AR, GeoGebra Augmented Reality, Rosetta Stone, Bookful, Wonderscope, Plantale, Froggipedia, WWF Free Rivers และแอปเกม เช่น NBA2K และ The Elder Scrolls : Blades เป็นต้น

ขณะเดียวกันได้เอาคุณสมบัติหลายด้านของ iPad Pro มาใส่ไว้ในรุ่นนี้ด้วย เช่นจอแสดงผลแบบ True Tone โดย iPad mini ใช้จอภาพ Retina สว่างขึ้นอีก 25% มีพิกเซลหนาแน่นที่สุดในบรรดา iPad ด้วยกัน iPad Air ใช้จอภาพ Retina ใหญ่ขึ้นเกือบ 20% จำนวนพิกเซลมากกว่า 5 แสนพิกเซลเมื่อเทียบกับรุ่น 9.7 นิ้วตัวล่าสุด แน่นอนด้วยว่าทั้ง 2 รุ่น มอบประสบการณ์รับชมในทุกสภาพแสง

บทสรุปการใช้งานมากว่าเกือบสัปดาห์ iPad mini มีขนาดกะทัดรัด เบาและบาง ใช้มือเดียวถือใช้งานได้สบายๆ พกพาสะดวกมาก แต่ประสิทธิภาพสูงใช้ชิปเดียวกับ iPhone ตัวล่าสุด ลองนึกภาพดูว่าทั้ง 2 รุ่น การใช้งานเหมือน iPhone ที่มีความเร็วสูง การใช้งานออนไลน์ ใช้แอปพลิเคชัน ตอบสนองได้รวดเร็ว ไหลลื่นดี รวมถึงการเล่นเกม แต่บางเกมที่ทดสอบเล่นเช่นบาสเกตบอล NBA2K เล่นไปสัก 10 นาที ด้านหลังจอเริ่มร้อนเหมือนกัน

การใช้ในที่ร่มและกลางแจ้ง นับได้ว่าการแสดงผลแบบ True Tone ที่นำมาจาก iPad Pro นับว่าทำได้ดี ทำให้ภาพดูเป็นธรรมชาติ นำไปเล่นเกมและท่องเว็บข้างสระน้ำช่วงกลางวันแสงแดดจ้าได้สบายมาก เห็นจอคมชัด จอจะปรับไวท์บาลานซ์ให้เหมาะกับสภาพแสงอัตโนมัติ ทางด้านแบตเตอรี่ใช้ได้นานเกือบ 10 ชั่วโมง

ทั้งสองรุ่นนับได้ว่าเป็น iPad ราคาย่อมเยา เหมือนกับซื้อ iPad รุ่นใหม่ได้ประสิทธิภาพเทียบเท่า iPhone รุ่นใหม่ แถมรองรับ Apple Pencil มีสมาร์ทคีย์บอร์ดและสมาร์ทเคสรองรับ

นับเป็นผู้นำในตลาดแท็บเล็ตทั้งด้านการดีไซน์ที่มีความสวยงาม บางและเบาแต่มีประสิทธิภาพ สูงที่คู่แข่งยังตามหลายช่วงตัว!!