กงสุล ไขข้อข้องใจ สาวสอง-สาวแท้ ทำพาสปอร์ต ต้อง "มัดผม" หรือ "ปล่อยผม"

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

กงสุล ไขข้อข้องใจ สาวสอง-สาวแท้ ทำพาสปอร์ต ต้อง "มัดผม" หรือ "ปล่อยผม"

Date Time: 20 มี.ค. 2562 21:37 น.

Video

กลาง ธ.ค.ลุ้น! ฝนถล่มภาคใต้รอบใหม่ น้ำลดรอบนี้ต้องรีบทำอะไร? | Thairath Money Night Stand EP.26

Summary

อธิบดีกรมการกงสุล ไขข้อข้องใจ สาวสอง-สาวแท้ ทำพาสปอร์ต ต้อง “มัดผม” หรือ “ปล่อยผม” ชี้กรมฯ ไม่มีแนวทางการเลือกปฏิบัติทางเพศ ให้ความเท่าเทียมกันกับบุคคลทุกกลุ่ม...

Latest


อธิบดีกรมการกงสุล ไขข้อข้องใจ สาวสอง-สาวแท้ ทำพาสปอร์ต ต้อง “มัดผม” หรือ “ปล่อยผม” ชี้กรมฯ ไม่มีแนวทางการเลือกปฏิบัติทางเพศ ให้ความเท่าเทียมกันกับบุคคลทุกกลุ่ม...

จากกรณีที่สาวประเภทสอง โพสต์คลิปเหตุการณ์ไปทำพาสปอร์ตที่สำนักงานหนังสือเดินทาง MRT คลองเตย แต่เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือให้สาวประเภทสองคนดังกล่าว “รวบผม” เพราะมีคำว่า “นาย” นำหน้า โดยสาวประเภทสองคน ได้มีการตั้งคำถามว่า เหตุการณ์นี้เป็นการกระทำที่เลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมกับเพศทางเลือกหรือไม่

ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ต่อสายตรงไปยัง นายชาตรี อรรจนานันท์ อธิบดีกรมการกงสุล เพื่อสอบถามถึงข้อข้องใจดังกล่าว โดยได้รับคำตอบว่า แนวปฏิบัติของการกรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศ ไม่มีแนวทางการเลือกปฏิบัติทางเพศ ไม่ว่าจะเป็น นาย, นางสาว หรือเพศทางเลือก

อธิบดีกรมการกงสุล กล่าวต่ออีกว่า ในขณะที่ การรวบผม, ใส่แว่น, ใส่คอนแทคเลนส์ มีเกณฑ์มาตรฐานสากลของกรมการบินพลเรือน ระบุชัดเจนอยู่แล้วว่า การถ่ายรูปทำหนังสือเดินทางนั้น จะต้องเห็นองค์ประกอบของใบหน้าครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น คิ้ว, ตา, จมูก หรือแม้กระทั่งคนใส่แว่นตา ก็ต้องใส่แว่นสายตาจริงๆ ไม่ใช่แว่นกันแดด เพื่อเป็นประโยชน์ในการตรวจสอบบุคคลเพื่อการเข้าเมือง

“แม้กระทั่งอธิบดีกรมการกงสุล ยังถูกให้ถอดแว่นเลย แม้ผมจะยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่า ผมใส่แว่นสายตา แต่เจ้าหน้าที่ก็ได้ชี้แจงว่า เพื่อประโยชน์ในการเดินทาง ซึ่งผมก็ยอมรับ และยึดแนวทางปฏิบัตินั้นๆ” อธิบดีกรมการกงสุล กล่าว

ส่วนกรณีสาวประเภทสองที่เกิดเหตุนั้น คำนำหน้าของเธอเป็นนาย แต่เพศสภาพเป็นหญิง ซึ่งสิ่งที่เจ้าหน้าที่แนะนำนั้น ก็คือ หากคุณไม่รวบ คุณอาจถูกปฏิเสธการเข้าเมืองในประเทศที่คุณเดินทางไป ส่วนกรณีที่คุณยืนยันว่าจะไม่รวบ นั่นก็ถือว่า เป็นความเสี่ยงของคุณเอง และคุณต้องรับสภาพความเสี่ยงนั้นๆ อีกทั้ง ยังไม่สามารถเรียกร้องสิ่งใดๆ จากกระทรวงได้ เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ได้แนะนำแนวทางที่ควรปฏิบัติแก่คุณแล้ว และได้แสดงความห่วงใยกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อคุณเดินทางไปต่างประเทศ

นายชาตรี อรรจนานันท์ อธิบดีกรมการกงสุล
นายชาตรี อรรจนานันท์ อธิบดีกรมการกงสุล

“เหตุการณ์นี้ อาจมีที่มาจากการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน ซึ่งการรวบผมนั้น เป็นแนวทางที่เจ้าหน้าที่จะต้องแนะนำให้ผู้ใช้บริการเข้าใจว่า หากคุณไม่ปฏิบัติตาม หรือไม่รวบผมนั้น คุณอาจจะเกิดความเสี่ยงในขณะที่คุณเดินทางไปต่างประเทศ แต่สุดท้าย คุณก็สามารถเลือกที่จะตัดสินใจได้ว่า คุณจะรวบผมหรือไม่รวบผม” อธิบดีกรมการกงสุล กล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ฉะนั้น สาวประเภทสองสามารถ “ปล่อยผม” เพื่อถ่ายภาพทำหนังสือเดินทางได้เช่นนั้นหรือ? อธิบดีกรมการกงสุล ตอบข้อซักถามว่า “ได้”

“แต่เขาต้องเซ็นลงนามยืนยัน(เจ้าหน้าที่จะมีเอกสารให้เซ็น ก่อนถ่ายภาพ)ว่า ข้าพเจ้าจะรับผิดชอบเอง ในกรณีที่เขาถูกปฏิเสธการเข้าเมือง เพราะระหว่างการทำหนังสือเดินทางนั้น เจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำเป็นอย่างดีแล้ว”

“หลายคนอาจมองว่า เหตุการณ์นี้เป็นการเลือกปฏิบัติทางเพศหรือไม่ คำตอบ คือ ไม่ ซึ่งอันที่จริงแล้ว เป็นเรื่องข้อแนะนำในการเดินทาง และข้อควรปฏิบัติในการเข้าเมือง เพื่อประโยชน์ของประชาชนเอง” อธิบดีกรมการกงสุล กล่าว

“การมัดผม เพื่อถ่ายภาพทำหนังสือเดินทางนั้น ไม่ใช่ระเบียบใหม่ แต่เป็นแนวทางปฏิบัติสากลที่ยึดถือกันมานานแล้ว” อธิบดีกรมการกงสุล กล่าว

ส่วนข้อซักถามที่ว่า ผู้หญิงต้องรวบผมหรือไม่นั้น อธิบดีกรมการกงสุล ตอบว่า สุภาพสตรีก็ควรจะรวบผมให้เรียบร้อย โดยให้เห็นใบหน้าทั้ง 80-90% ของใบหน้า และไม่ใช่ว่าจะเอาผมมาปิดหน้าปิดตา เพราะฉะนั้น แนวทางนี้ ไม่ได้เฉพาะเจาะจงกับเพศทางเลือกเท่านั้น สุภาพสตรีเองก็ควรเปิดเผยใบหน้าในการทำหนังสือเดินทางเข่นกัน

“กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เราคำนึงถึงมาตรฐานสากล กฎเกณฑ์และเรื่องสิทธิเสรีภาพ เราย่อมรู้และให้ความสนใจ ไม่ว่า คนพิการ เด็ก คนชรา สตรี หรือแม้กระทั่งเพศทางเลือก ซึ่งเรามีจุดประสงค์ที่จะให้ความเท่าเทียมกันกับบุคคลทุกกลุ่ม” อธิบดีกรมการกงสุล ทิ้งท้าย.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ