องค์กรต้านโกงแนะ กกต.จับตา นโยบายหาเสียง-ทำไม่ได้จริง
นายวิเชียร พงศธร ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ขณะนี้ใกล้ช่วงวันเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค.62 บรรดาพรรคการเมืองต่างเพิ่มนโยบายต่างๆในการหาเสียง และบางนโยบายใช้เงินจำนวนมหาศาล ซึ่งไม่รู้ว่าจะทำได้จริงหรือไม่ จึงเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่จะต้องตรวจสอบว่าเป็นการโฆษณาที่เกินจริงหรือไม่ เพราะกังวลว่าบางนโยบายไม่สามารถทำตามได้จริง สำหรับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันคงติดตามได้เฉพาะการเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้ว และพรรคที่ได้เป็นรัฐบาลมีการใช้จ่ายงบประมาณหรือมีกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างตามโครงการต่างๆที่โปร่งใสหรือไม่ “เท่าที่ตามข่าวพบว่า การแข่งขันหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งนี้ดุเดือดมาก และแต่ละพรรคเสนอนโยบายที่หลากหลาย ที่สำคัญนโยบายต่างๆจะใช้วงเงินมหาศาลในการดำเนินการ และช่วยเหลือประชาชน ไม่ว่าจะเป็นประชานิยมหรือรัฐสวัสดิการ ซึ่งน่าเสียดายที่พรรคการเมืองส่วนใหญ่ไม่ค่อยชูประเด็นการแก้ปัญหาคอร์รัปชันมากนัก ทั้งที่เป็นปัญหาของชาติ ซึ่งหากแก้ปัญหาคอร์รัปชันได้ เชื่อว่าประเทศไทยจะเหลืองบประมาณจำนวนมากนำมาพัฒนาเศรษฐกิจ”
อย่างไรก็ตาม หลังเลือกตั้งและมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่แล้ว องค์กรมีแผนหารือกับผู้บริหารระดับสูงของรัฐบาลในการเดินหน้าสานต่อ และขับเคลื่อนการต่อต้านคอร์รัปชันร่วมกันระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาชน เพราะหากทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจกัน เชื่อว่าการแก้ปัญหาจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุดแน่นอน เนื่องจากในปัจจุบันพบว่า หลายพื้นที่และหลายหน่วยงานได้แก้ปัญหาการทุจริตบ้างแล้ว
นายวิเชียร กล่าวอีกว่า ในแต่ละปี เครือข่ายขององค์กรได้ร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตในโครงการต่างๆ โดยเฉพาะในระดับจังหวัด องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ทั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เทศกาล เป็นต้น ซึ่งบางกรณีทางเครือข่ายสามารถผลักดันให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องได้
ด้านนายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า วันที่ 13 มี.ค.นี้ หอการค้าไทยได้เชิญ 6 พรรคการเมืองใหญ่มาแสดงวิสัยทัศน์ในด้านการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ โดยหอการค้าไทยจะสอบถามรายละเอียดนโยบายต่างๆที่เป็นรูปธรรม เพราะปัจจุบัน แต่ละพรรคเสนอนโยบายที่แข่งขันกันเพื่อจูงใจให้ชาวบ้านมาเลือก ซึ่งเอกชนกังวลว่าอาจทำไม่ได้ตามที่หาเสียงไว้.