“กกร.” ผวาบาทแข็งค่าฉุดส่งออกเกาะติดหากหลุด 31 บาทต่อเหรียญฯ แต่เพื่อนบ้านไม่แข็งตาม เตรียมตบเท้าหารือ ธปท.เพื่อให้หามาตรการดูแลทันที คาดปี 2562 เศรษฐกิจประเทศไทยจะโตได้ 4-4.3% ส่งออก 5-7% “ส.อ.ท.” ลุ้นดอกเบี้ยจะไม่ขึ้นตลอดปีนี้ป้องบาทแข็งต่อ ด้าน รมว.คลังจี้ ธปท.แจงข้อเท็จจริงและตัดสินใจให้ดีระวังวิกฤติเศรษฐกิจกลับมาหลอน
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยในฐานะทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ที่ประกอบด้วย ส.อ.ท., สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย ว่า กกร.ได้ประเมินทิศทางเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ว่าจะขยายตัวได้ในกรอบประมาณการเดิมที่ 4-4.3% จากปีที่แล้วที่คาดว่าจะเติบโต 4.1% ขณะที่ส่งออกขยายตัว 5-7% จากปีที่ผ่านมา ที่ขยายตัว 6.7% ซึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจโลก ชะลอตัวจากปัจจัยสงครามการค้า
“ขณะนี้ ภาคเอกชนเห็นตรงกันว่า สิ่งที่น่ากังวล คืออัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท เมื่อเทียบกับเหรียญสหรัฐฯ ที่เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องหากเคลื่อนไหวหลุดไปจากระดับ 31 บาทต่อเหรียญฯ แต่กลับพบว่าประเทศคู่แข่งทางการค้าในภูมิภาคอาเซียนยังอยู่ระดับเดิม กกร.จึงจะขอไปหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อหามาตรการดูแลเรื่องนี้เป็นการเร่งด่วน”
ทั้งนี้ กกร.ได้หารือร่วมกันในกลุ่มสมาชิกในเรื่องบาทแข็งค่า และเห็นว่าหาก 6 เดือนแรกของปีนี้ หากเงินบาทยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการส่งออกของไทยในปีนี้ และหากนับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-1 ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่า เงินบาทแข็งค่าขึ้น 3.4% ถือว่าเป็นอัตราที่แข็งค่ามากสุดเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคอาเซียน เป็นรองเพียงค่าเงินรูเปียห์ของอินโดนีเซียที่แข็งค่าขึ้น 3.7% ในช่วงเวลาเดียวกัน
สำหรับความเห็นของ ส.อ.ท. เห็นว่า อีกปัจจัยที่ทำให้เงินบาทแข็งค่า คือคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ควรชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายตลอดทั้งปีนี้ เพราะธนาคารกลางโลก (เฟด) ของสหรัฐฯได้ส่งสัญญาณที่ชะลอการขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว ซึ่งหากประเทศไทยขึ้นดอกเบี้ยอีก จะยิ่งกระทบกับภาคการผลิตมากขึ้น ทำให้เกิดการไหลเข้ามาของเงินทุนต่างชาติและจะส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในเดือนมี.ค.นี้ ส.อ.ท.คาดหวังว่าจะได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลเพราะขณะนี้ประเทศไทยมีปัญหาการคอร์รัปชันมาตลอดทั้งอดีตและปัจจุบัน จึงอยากให้รัฐบาลมีมาตรการแก้ปัญหานี้ให้ได้ หากรัฐบาลสามารถแก้ไขได้ ก็จะเป็นประโยชน์ภาพรวม แม้ว่าทุกพรรคการเมือง ก็มีนโยบายที่ดีหมด ก็ขอแค่ทำตามนโยบายให้ได้โดยเฉพาะลดความเหลื่อมล้ำของประชาชน
ส่วนนายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า สถาบันการเงินได้ร่วมมือกับรัฐบาล ดำเนินมาตรการทางความรู้ที่จะให้คูปอง สนับสนุนเอสเอ็มอีที่ทำธุรกิจนำเข้า-ส่งออกไปดำเนินการทำประกันความเสี่ยงค่าเงิน (เฮจจิ้ง) ซึ่งเห็นว่าเป็นแนวทางที่ช่วยแก้ไขปัญหารับมือค่าเงินบาทที่ผันผวนได้ ส่วนของเงินบาทที่แข็งค่า เป็นผลจากค่าเงินเหรียญสหรัฐฯ อ่อนค่าเพราะขาดแรงหนุนจากที่เฟดส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยที่ลดทอนลง เชื่อว่าขณะนี้รัฐบาลก็ดูแลอยู่ระดับหนึ่ง
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวว่า ค่าเงินบาทที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้นนั้น เป็นหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่จะต้องชี้แจงและติดตามสถานการณ์ค่าเงินบาทให้สอดคล้องกับ ปัจจุบันด้วย ส่วนการตัดสินใจทำนโยบายการเงินอะไร ต้องคำนึงถึงว่า ทำไปแล้วจะต้องไม่เป็นปัญหา เพราะที่ผ่านมาวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 เกิดขึ้นเพราะนโยบายการเงิน ดังนั้นจะต้องดูเรื่องดังกล่าวให้ดี.