เหรียญ "ร.10" บรมราชาภิเษก เตรียมเปิดจอง ทำ 3 แบบ 7 ชนิด แพลทินัม 1 ล้าน

กรมธนารักษ์เตรียมเปิดจองเหรียญพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 10 รวม 3 ประเภท ได้แก่ เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 3 ชนิด เหรียญที่ระลึก 3 ชนิดและเหรียญที่ระลึกประดับแพรแถบ 1 ชนิด รวม 7 ชนิดราคา โดยเหรียญที่ระลึกแพลทินัมราคาแพงสุด เหรียญละ 1 ล้านบาทสำหรับนักสะสม เปิด จองผ่านธนาคารกรุงไทย-เคาน์เตอร์เซอร์วิส-ศูนย์รับแลกเหรียญของกรมธนารักษ์ทั่วประเทศ เพื่อลดปัญหาการเข้าคิวต่อแถวยาวเหยียดของประชาชน คาดจะเปิดแถลงรายละเอียดและราคาของเหรียญทั้งหมดได้ภายในเดือนนี้

ตามที่สำนักพระราชวังออกประกาศสำนักพระราชวัง เมื่อวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา เรื่อง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตั้งการพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษกขึ้น ในวันที่ 4-6 พ.ค.2562 ต่อมาเมื่อวันที่ 14 ม.ค.ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายอำนวย ปรีมนวงศ์ อธิบดีกรมธนารักษ์ ว่าล่าสุดกรมธนารักษ์ได้รับพระบรมราชา-นุญาตอย่างเป็นทางการแล้ว ในการผลิตเหรียญพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 10 โดยคาดว่า กรมธนารักษ์จะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือน ม.ค.หรือปลายเดือน ก.พ. เพื่อเปิดให้ประชาชนจองเหรียญในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษกรัชกาลที่ 10 อย่างเป็นทางการ โดยกรมธนารักษ์จะผลิตเหรียญทั้งหมด 3 ประเภท ประกอบด้วย

1.เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก มี 3 ชนิด ทองคำ เงิน และคิวโปรนิกเกิล

2.เหรียญที่ระลึกอีก 3 ชนิด คือ แพลทินัม เงิน และทองแดง

และ 3.ประเภทเหรียญที่ระลึกประดับแพรแถบ 1 ชนิด

“รายละเอียดทั้งหมด จะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นการทางพร้อมกัน ทั้งชนิดราคา รูปแบบเหรียญ การจองเหรียญและวิธีการจ่ายแลกเหรียญ รวมถึง ปริมาณการผลิตสูงสุดและการรับจองต่อคน ภายในเดือนนี้ก่อนเปิดให้ประชาชนทั่วไปที่สนใจจองอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะดำเนินการให้เสร็จก่อนวันงานพระราช พิธีบรมราชาภิเษก โดยการผลิตจะเน้นผลิตตามจำนวนการสั่งจอง สำหรับแนวทางการเปิดจองเตรียมให้ประชาชนจองผ่านธนาคารกรุงไทยทุกสาขาทั่วประเทศ รวมถึงเคาน์เตอร์เซอร์วิสที่มีนับหมื่นสาขา และจองผ่านศูนย์รับแลกเหรียญของกรมธนารักษ์ทั่วประเทศ เพื่อลดปัญหาการเข้าคิวต่อแถวยาวเหยียดของประชาชน สำหรับเหรียญที่มีราคาแพงที่สุดคือ เหรียญที่ระลึกแพลทินัมนั้น จำหน่ายราคาเหรียญละ 1 ล้านบาท” อธิบดีกรมธนารักษ์กล่าว

พร้อมกันนี้ กรมธนารักษ์ยังแถลงข่าวการเปิดให้บริการรับแลกคืนเหรียญกษาปณ์เคลื่อนที่ หรือ Mobile Coin Unit โดยกรมธนารักษ์ได้ปล่อยรถบรรทุกขนาดใหญ่ 2 คัน ซึ่งเป็นรถ Mobile Coin Unit ออกให้บริการประชาชนในพื้นที่ปริมณฑล และจังหวัดใกล้เคียง ที่ไม่มีศูนย์บริหารจัดการเหรียญกษาปณ์ รวม 14 จังหวัด ซึ่งครั้งแรกจะให้บริการในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีและจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระหว่างเดือน ม.ค.-ก.พ.นี้ หลังจากนั้นจะขยายพื้นที่ให้บริการไปในจังหวัดอื่นๆต่อไป

ทั้งนี้ ปัจจุบันกรมธนารักษ์ได้ผลิตเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนทุกชนิดราคา รวมกันปีละ 3,000 ล้านเหรียญ จากยอดเหรียญกษาปณ์ที่หมุนเวียนทั้งระบบมากกว่า 32,000 ล้านเหรียญ หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 50,000 ล้านบาท โดยคาดว่ารถ Mobile Coin Unit จะทำให้ประชาชนนำเหรียญมาแลกเป็นธนบัตรกับกรมธนารักษ์มากขึ้น ซึ่งจะทำให้การผลิตเหรียญใหม่ลดลงได้ โดยคาดว่าจะประหยัดต้นทุนการผลิตเหรียญกษาปณ์ได้ประมาณปีละ 86 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากมีประชาชนสนใจนำเหรียญกษาปณ์มาแลกมากขึ้น กรมธนารักษ์จะซื้อรถ Mobile Coin Unit เพิ่ม โดยตั้งเป้าจะซื้อรถเพิ่มอีก 5 คัน เนื่องจากแนวโน้มความต้องการใช้เหรียญกษาปณ์ยังคงมีมากขึ้น แม้ว่ากระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้นก็ตาม