
บ้านคือวิมานของเรา...เรื่องบ้านๆ ของรัฐบาลแต่ละยุค รัฐบาลลุงตู่ชู “บ้านล้านหลัง” ย้อนไปรัฐบาล “เจ๊ปู” ก็ชู “บ้านหลังแรก” แต่นโยบายบ้านๆ ของทั้งสองยุค จะแตกต่างกันอย่างไร ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ไล่เรียงมาให้ดู
ไม่ว่าใครก็อยากมีบ้านไว้สำหรับคุ้มฟ้าคุ้มฝนและอยู่อาศัย จึงแห่แหนกันไปจับจองสิทธิอย่างมากมายเป็นประวัติการณ์ ซึ่งรัฐบาลประยุทธ์ชุดนี้เน้นการช่วยเหลือให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง มุ่งเน้นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย กลุ่มคนวัยทำงาน หรือผู้ที่กำลังเริ่มต้นสร้างครอบครัว รวมถึงกลุ่มผู้สูงอายุ
จุดเด่นของ “บ้านล้านหลัง”
- ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 40 ปี
- ผ่อนน้อย ดอกเบี้ยถูก
- ฟรีแลนซ์ หาบเร่ แผงรอย ผู้ที่มีรายได้ไม่แน่นอน หรืออาชีพอิสระ ที่ไม่มีหลักฐานแสดงรายได้ มีโอกาสกู้สินเชื่อผ่าน และสามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง
- เพิ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยตรง
รายละเอียดในการกู้สินเชื่อ “บ้านล้านหลัง”
- กู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 1,000,000 บาท
- กรณีรายได้ไม่เกิน 25,000 บาท/คน/เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5 ปีแรก 3.00% ต่อปี ผ่อนชำระเพียง 3,800 บาท/เดือน พ่วงค่าธรรมเนียม 4 ฟรี ได้แก่ 1.ฟรีค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ (0.1% ของวงเงินทำนิติกรรม) 2.ฟรีค่าประเมินราคาหลักประกันทุกวงเงินกู้ (1,900-2,300 บาท) 3.ฟรีค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม (1,000 บาท) และ 4.ฟรีค่าจดทะเบียนนิติกรรมจำนอง 1% ของวงเงินจำนอง
- กรณีรายได้เกิน 25,000 บาท/คน/เดือน อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-3 คงที่ 3.00% ต่อปี ส่วนปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญาเงินกู้ กรณีสวัสดิการ MRR–1% ต่อปี กรณีรายย่อย MRR–0.50% กรณีซื้ออุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวก อัตราดอกเบี้ย MRR ตั้งแต่ปีที่ 1 จนถึงตลอดอายุสัญญากู้เงิน กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระ 3 ปีแรกเริ่มต้นเพียง 3,800 บาทเช่นกัน
- สำหรับผู้ประกอบอาชีพประจำ หรืออาชีพอิสระ ที่มีรายได้ไม่เกิน 25,000 บาท หากเอกสารแสดงรายได้เพื่อคำนวณความสามารถในการกู้ไม่เพียงพอต่อเงินงวดผ่อนชำระรายเดือน ให้สามารถนำหลักฐานการชำระค่าเช่า หรือผ่อนชำระเงินดาวน์ไม่น้อยกว่า 12 เดือนมาประกอบการพิจารณาเพื่อคำนวณรายได้เพิ่มเติมได้
- หากไม่สามารถแสดงหลักฐานที่มาของรายได้ ต้องลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ธอส. โรงเรียนการเงิน โดยทำการออมอย่างสม่ำเสมอไม่น้อยกว่าเงินงวดผ่อนชำระเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 9 เดือน ซึ่งสามารถออมลดลงได้โดยการนำค่าเช่าหรือวงเงินที่ผ่อนชำระเงินดาวน์ที่อยู่อาศัยมาหักยอดเงินออมลง
จุดด้อย “บ้านล้านหลัง”
- คนยากจนจริงๆ ที่เป็นหนี้ ติดแบล็กลิสต์ มีโอกาสสูงที่จะกู้ไม่ผ่าน
- เงื่อนไขการปล่อยสินเช่ือยาวนานถึง 40 ปี ซึ่งจุดนี้อาจเป็นการเพิ่มภาระให้ประชาชน สร้างรายได้ให้ธนาคาร
ตามมาด้วยโครงการบ้านหลังแรกของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่มีวัตถุประสงค์สำคัญก็คือ “เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ไม่เคยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองให้สามารถซื้อบ้านเป็นของตนเองได้อย่างทั่วถึง”
จุดเด่นของ “บ้านหลังแรก”
- ผู้กู้ยังไม่เคยมีกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของบ้านมาก่อน ซึ่งจะช่วยให้คนจนได้มีบ้านหลังแรกเป็นของตนเองได้ง่ายขึ้น
- ผู้กู้ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เป็นจำนวนไม่เกิน 10% ของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ แต่ไม่เกิน 500,000 บาท
- ผู้มีเงินได้มีสิทธิยกเว้นภาษีเป็นจำนวนเท่าๆ กันในแต่ละปีเป็นเวลา 5 ปีภาษีต่อเนื่องกัน
รายละเอียดในการกู้สินเชื่อ “บ้านหลังแรก”
- ต้องกู้เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคาร ห้องชุด เพื่อปลูกสร้างอาคาร หรือเพื่อซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร
- กู้ได้ไม่เกินรายละ 1 ล้านบาท หรือไม่เกิน 10% ของราคาประเมิน
- ระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 30 ปี และอายุผู้กู้หลักที่ใช้สิทธิรวมกับจำนวนปีที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 65 ปี
จุดด้อย “บ้านหลังแรก”
- ผู้ที่ต้องการบ้านหลังแรกจริง คือผู้ที่เพิ่งเริ่มทำงานหรือกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ซึ่งส่วนใหญ่มีรายได้ต่ำกว่า 2 หมื่นบาทต่อเดือน จึงไม่เข้าเกณฑ์เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
- ส่วนผู้กู้ซื้อบ้านที่มีรายได้ต่อเดือนอยู่ที่ 2-3 หมื่นบาท เมื่อคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะพบว่า ไม่ต้องเสียภาษีอยู่แล้ว ดังนั้นก็เท่ากับว่าไม่ได้รับสิทธิประโยชน์จากมาตรการของรัฐเลย
- ผู้ที่จะได้ประโยชน์สูงสุดจากโครงการนี้ คือ คนที่มีรายได้มากกว่า 4 ล้านบาทต่อปี ถึงจะได้สิทธิลดหย่อนภาษีจากโครงการบ้านหลังแรกสูงสุด 1.85 แสนบาทใน 5 ปี หรือ 3.7 หมื่นบาทต่อปี
- ผู้ได้ประโยชน์คือ คนรวยและเอื้อประโยชน์บริษัทอสังหาริมทรัพย์
- ผู้มีรายได้สูงก็มีจำนวนน้อยที่ยังไม่มีบ้านหลังแรก
ท้ายที่สุดแล้ว
ไม่ว่าบ้านของรัฐบาลไหนจะแจ๋วกว่ากัน
แต่สิ่งสำคัญ คือ คนเข้าโครงการต้องเผชิญความยากลำบาก
ในการหาเงินผ่อนส่งนานนับสิบปี...