ปิดตำนานครึ่งศตวรรษ ดุสิตธานี พร้อมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่โรงแรมไทย

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ปิดตำนานครึ่งศตวรรษ ดุสิตธานี พร้อมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่โรงแรมไทย

Date Time: 16 ธ.ค. 2561 05:01 น.

Summary

อีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า แลนด์มาร์กสำคัญของกรุงเทพมหานครอย่าง “ดุสิตธานี” โรงแรมระดับห้าดาวเก่าแก่ ที่อยู่คู่ถนนสีลมมายาวนานกว่า 5 ทศวรรษ..

Latest

จีดีพีเกษตรไทยปี 68 โต 3.3% รับฝนดี–น้ำเพียงพอ-เกษตรกรพร้อมปรับตัว

อีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า แลนด์มาร์กสำคัญของกรุงเทพมหานครอย่าง “ดุสิตธานี” โรงแรมระดับห้าดาวเก่าแก่ ที่อยู่คู่ถนนสีลมมายาวนานกว่า 5 ทศวรรษ กำลังจะกลายเป็นตำนาน เพราะต้องปิดตัวลงอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 5 ม.ค.2562 เพื่อสร้างโรงแรมใหม่ให้สอดคล้องกับโลกอนาคต

กว่าจะเดินมาถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญที่จะปิดตำนาน

“โรงแรมดุสิตธานี” ซึ่งปลุกปั้นขึ้นด้วยสองมือของ “ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย” หญิงแกร่งแห่งวงการธุรกิจการโรงแรมของไทย ต้องผ่านการใคร่ครวญอย่างหนักจากทายาทคนโต “คุณชนินทธ์ โทณวณิก” รองประธานกรรมการและประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) กระนั้น เพื่อความอยู่รอดของโรงแรมดุสิตธานีในอนาคต จึงต้องตัดใจทำเพื่อเปิดหน้าบันทึกใหม่ของ “โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ” ที่จะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2565

อะไรทำให้ตัดสินใจปิดตำนานโรงแรมดุสิตธานี ที่ตั้งมากว่า 50 ปี

“ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย” คุณแม่ของผมสร้างโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ เพราะเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเติบโตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในเวทีระดับโลก ซึ่งท่านคิดว่า การสนับสนุนที่ดีที่สุดคือ การสร้างโรงแรมที่โดดเด่นและดีที่สุดตามมาตรฐานสากล โดยยึดขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมไทยเป็นหลัก เพื่อให้กรุงเทพมหานครปรากฏอยู่บนแผนที่ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ด้วยเหตุนี้โรงแรมดุสิตธานีจึงเริ่มก่อสร้างขึ้นในปี 2509 แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป ในบริเวณถนนสีลมมีความเจริญมากขึ้น เราจึงต้องเร่งปรับตัวขนานใหญ่ ต้องยอมรับว่าโรงแรมดุสิตธานีเป็น
โรงแรมเก่า แบบการก่อสร้างเป็นแบบเก่า ซึ่งยากแก่การปรับปรุง ขณะเดียวกัน ความต้องการของลูกค้าปัจจุบันกับอดีตมีความแตกต่างกัน ขนาดห้องของเราสู้โรงแรมอื่นไม่ได้ เพราะห้องของเราเล็ก ห้องพักขนาด 32 ตร.ม. ในอดีตถือว่าใหญ่แล้ว แต่ปัจจุบันยังไม่พอ เราพยายามทำทุกอย่างที่ทำให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ เช่น ทำ 2 ห้อง ให้มาเป็นห้องเดียว แต่โครงสร้างของโรงแรมเก่าแก้ไขลำบาก เราเจอปัญหามาก จึงต้องมีการคุยกันในตอนจบว่า อะไรสำคัญที่สุด คำตอบคือ คุณแม่อยากให้มีโรงแรมที่สามารถแข่งขันกับโรงแรมระดับโลกได้ แต่ต้องเป็นของคนไทย โรงแรมชื่อไทย ซึ่งในยุคนี้โครงสร้างโรงแรมเก่าไม่สามารถไปถึงจุดนั้นได้ เราจึงตัดสินใจกัดฟันปิดตัวเองลงและสร้างโรงแรมดุสิตธานีโฉมใหม่ ให้เป็นโรงแรมที่คุณแม่ฝันไว้ ปลุกปั้นให้โรงแรมของเรากลับมาเป็นที่หนึ่งสู้กับโรงแรมระดับโลกให้ได้

ทำใจมากแค่ไหนกับการสั่งปิดโรงแรมดุสิตธานี

ในส่วนตัว ผมมีความผูกพันกับโรงแรมดุสิตธานี นับตั้งแต่ก่อสร้าง เพราะเดินดูการก่อสร้างกับคุณแม่ ในฐานะลูกคนโต ตั้งแต่จำความได้ ผมรู้ว่าผมต้องอยู่ที่นี่ เติบโตที่นี่ เมื่อมีข่าวจะปิดโรงแรมดุสิตธานี ผมได้รับทั้งจดหมายและอีเมลจากลูกค้าต่อว่ามากมาย รวมทั้งถูกว่าซึ่งๆหน้าก็มี ว่าทำไมจะทุบโรงแรมนี้ทิ้ง สิ่งเหล่านี้แสดงว่า เขาเห็นความสำคัญของโรงแรมดุสิตธานี เขามีความผูกพันกับเรา ก่อนปิดมีแขกผู้ใหญ่มาจองห้องพัก อยากมานอนก่อนโรงแรมปิด ทำให้เรากังวลใจ คนมีความผูกพันกับสิ่งที่ดีของดุสิตธานี โจทย์สำคัญคือต่อไปในอนาคตเราจะทำอย่างไรให้ความผูกพันนี้กลับมา ผมจึงพยายามทำให้โรงแรมดุสิตธานีแห่งใหม่มีบุคลิกและจิตวิญญาณเดิมมากที่สุด

โฉมใหม่ของโรงแรมดุสิตธานีจะว้าวขนาดไหน

มีคำถามอยู่เยอะว่า ทำไมผมไม่ทำให้เป็นโรงแรมใหม่ทันสมัยไปเลย แต่ผมถือคติว่า “สิ่งที่แท้ คือในสิ่งที่เราเป็น” จุดยืนของเราคือตรงนี้ และเราอยากจะเก็บสิ่งดีๆของโรงแรมดุสิตธานีเอาไว้ ทำอย่างไรให้โรงแรมใหม่มีบุคลิกของโรงแรมเก่าในส่วนที่ดี อะไรที่ดีเราก็เก็บไว้ เป็นความเชื่อของคุณแม่ที่อยากทำโรงแรมแบบไทย มีการออกแบบไทย และชื่อไทย ในอนาคตจะได้มีความหมาย เราต้องทำอย่างไรให้โรงแรมใหม่มีบุคลิก

มีความสำคัญเหมือนโรงแรมดุสิตธานีในตำนาน “ดุสิตธานี” จะเป็นตัวแทนประเทศ เป็นสิ่งที่คุณแม่ตั้งโจทย์ไว้ตั้งแต่แรก เราเลยมีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยศิลปากรในการอนุรักษ์เอกลักษณ์ของโรงแรมดุสิตธานี ในโครงการบันทึกการเปลี่ยนผ่านหน้าประวัติศาสตร์ของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ “Preserving Dusit Thani Bangkok’s Artistic Heritage” เพื่อรักษาตำนานของสถาปัตยกรรมเก่าแก่คู่ถนนสีลม

การอนุรักษ์เอกลักษณ์ของโรงแรมดุสิตธานีมีอะไรบ้าง

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โรงแรมดุสิตธานีได้สร้างความประทับใจให้กับแขกที่มาเยือนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ทั้งในเรื่องของการบริการและการดูแล รวมถึงการเป็นอาคารอันเป็นสัญลักษณ์แห่งยุคสมัย ด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น มีอัตลักษณ์ในแบบเฉพาะตัว การที่เราอยู่ไหนมานานทำให้ชินตา จึงพยายามให้คนข้างนอกช่วยดูว่า เราจะอนุรักษ์หรือทำอะไรได้บ้างเพื่อรักษาอัตลักษณ์ของดุสิตธานี อย่างที่ “ห้องอาหารเบญจรงค์” เป็นห้องที่ใช้เงินลงทุนมากที่สุดในสมัยนั้น เพราะคิดว่าร้านอาหารที่ดีที่สุดของเราจะต้องเป็นร้านอาหารไทย ในขณะที่โรงแรมอื่นอาจจะเน้นที่ห้องอาหารฝรั่ง แต่เราคือ “คนไทย” คุณแม่จึงอยากทำห้องอาหารไทยให้ดีที่สุด อย่างการตั้งชื่อโรงแรมว่า “ดุสิตธานี” ทุกคนบ่นว่าจำยาก ทำไมไม่หาชื่อฝรั่ง แต่คุณแม่เห็นว่าโรงแรมเราตั้งอยู่ตรงข้ามพระบรมรูปรัชกาลที่ 6 และท่านอยากใช้ชื่อไทยๆ เลยใช้ชื่อดุสิตธานี ดังนั้น เมื่อจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง ผมจึงต้องการที่จะเก็บรักษาส่วนต่างๆของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ที่มีคุณค่าทางจิตใจและทางประวัติศาสตร์ไว้ให้ได้มากที่สุด เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา เพราะผมเชื่อว่าอดีตคือแรงบันดาลใจสู่อนาคตที่ยั่งยืน

อะไรคืออัตลักษณ์ของโรงแรมดุสิตธานีที่จะอนุรักษ์ไว้เพื่อเล่าขานต่อไปถึงอนาคต

โรงแรมดุสิตธานีถือเป็นต้นแบบของอาคารสถาปัตยกรรมไทยโมเดิร์นยุคแรกๆ ที่ได้รับการพูดถึงในการเรียนการสอนของนักศึกษาสถาปัตย์ ซึ่งเป็นการผสมผสานความทันสมัยแบบตะวันตก เข้ากับศิลปะสถาปัตยกรรมของไทย ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยอดพระปรางค์วัดอรุณ เป็นการคิดนอกกรอบในการออกแบบสถาปัตยกรรมในยุคนั้น นอกจากนี้ ยังได้เห็นพัฒนาการและความก้าวหน้าของจิตรกรรมฝาผนังไทย ซึ่งปรากฏอยู่ในผลงานของ “ท่านกูฏ” (อาจารย์ไพบูลย์ สุวรรณกูฏ) ปรมาจารย์ด้านจิตรกรรมไทยร่วมสมัย ที่ได้นำสีสันใหม่ๆมาใส่ในงานจิตรกรรมไทยในห้องอาหารเบญจรงค์ มีทั้งเสาหินวาดลายจิตรกรรมไทยที่หนักถึง 3 ตัน และจิตรกรรมฝาผนัง ที่ต้องการสะท้อนความเป็นไทยแบบร่วมสมัย รวมถึงการจัดภูมิสถาปัตย์ การออกแบบสวนต่างๆที่เหมือนเป็นโอเอซิสใจกลางเมือง และเต็มไปด้วยพันธุ์ไม้น้อยใหญ่ที่แวดล้อมอาณาบริเวณโรงแรม ซึ่งสร้างบรรยากาศ ความสงบเงียบ และเป็นแหล่งผลิตโอโซนขนาดย่อมๆให้แก่ย่านสีลม

ช่วยเจาะลึกรายละเอียดของโครงการอนุรักษ์อาคารเก่า โรงแรมดุสิตธานีด้วยค่ะ

โครงการอนุรักษ์นี้ประกอบด้วยสามส่วนหลักๆ ส่วนแรกคือ “งานอนุรักษ์” ครอบคลุมการอนุรักษ์งานเครื่องไม้สักทองแกะลวดลายบนฝ้าเพดาน งานจิตรกรรมภาพวาดบนเสา และฝาผนังในห้องอาหารเบญจรงค์ รวมถึงเปลือกอาคารด้านนอก ซึ่งต้องใช้การบูรณาการของทุกองค์ความรู้ ทั้งด้านจิตรกรรม วิศวกรรม สถาปัตยกรรม และโบราณคดี ในการอนุรักษ์ผลงานอันทรงคุณค่านี้ โดยทางศิลปากรจะแกะแบบ แล้วนำไปประกอบในโรงแรมใหม่ ส่วนที่สองคือ “การศึกษาวิจัย” ประวัติศาสตร์ศิลปะ ประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรม ภูมิสถาปัตยกรรมและพืชพรรณ เพื่อถอดแบบองค์ประกอบสถาปัตยกรรม และทำโมเดลจำลองของโรงแรมดุสิตธานี ส่วนที่สามเป็น “การจัดกิจกรรมเผยแพร่คุณค่าของดุสิตธานี” ผ่านฝีแปรงจากศิลปินแห่งชาติ และศิลปินชั้นนำของไทยจำนวน 20 ท่าน เพื่อจัดแสดงนิทรรศการให้ชมกันเป็นครั้งแรกในโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ซึ่งกระบวนการทำงานวิจัยและอนุรักษ์ทุกขั้นตอน จะมีการรวบรวมข้อมูลและจัดทำเป็นหนังสือดิจิทัล เพื่อเผยแพร่ความรู้ให้เป็นสาธารณประโยชน์ต่อไป

ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของ “ดุสิตธานี” โรงแรมของคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ กำลังจะเปิดศักราชใหม่ในอีกไม่นานนี้ เพื่อสร้างชื่อเสียงและความภูมิใจให้ประเทศ.

ทีมข่าวหน้าสตรี


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ