
กรมการค้าต่างประเทศ เผย ส่งออกข้าวไตรมาสสุดท้ายปี 61 ยังสดใส เหตุออเดอร์ยังทะลัก ทั้งจีทูจี และเอกชน มั่นใจทั้งปีเข้าเป้า 11 ล้านตัน หลังยอดส่งออกเกือบ 10 เดือนทำได้แล้ว 8.932 ล้านตัน...
เมื่อวันที่ 24 ต.ค.2561 นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงแนวโน้มการส่งออกข้าวไทยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 61 ว่า จะยังขยายตัวได้ดี โดยมีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เป้าหมายการส่งออกข้าวทั้งปี 61 ที่ประเมินไว้ที่ 11 ล้านตันทำได้แน่นอน เพราะการส่งออกตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-19 ต.ค.61 ทำได้แล้ว 8.932 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 2.71% คิดเป็นมูลค่า 4,606 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 21.20% คิดเป็นเงินบาท 147,346 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.56% ขณะที่อินเดียยังเป็นผู้ส่งออกปริมาณมากที่สุดของโลก โดยวันที่ 1 ม.ค.-2 ต.ค.61 ส่งออกได้แล้ว 9.21 ล้านตัน
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวต่อว่า สำหรับปัจจัยที่จะทำให้การส่งออกข้าวเป็นไปตามเป้าหมาย มาจากไทยยังค้างการส่งมอบภายใต้สัญญารัฐต่อรัฐ (จีทูจี) กับจีนในงวดที่ 6 ภายใต้สัญญา 1 ล้านตัน เป็นข้าวขาว 5% ปริมาณ 100,000 ตัน มูลค่า 1,400 ล้านบาท คาดว่าจะส่งมอบได้เสร็จกลางเดือนพ.ย.61 และยังได้มีหนังสือถึงจีน เพื่อเร่งรัดให้เจรจาเรื่องราคาและการส่งมอบข้าวอีก 100,000 ตันในงวดที่ 7 ด้วย หากตกลงกันได้ จะช่วยกระตุ้นการส่งออกได้
นายอดุลย์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มว่าไทยจะชนะการประมูลขายข้าวให้กับฟิลิปปินส์ โดยปีนี้ฟิลิปปินส์ตั้งเป้าหมายเปิดประมูล 3 ครั้งๆ ละ 250,000 ตัน รวม 750,000 ตัน โดยเปิดประมูลครั้งแรกวันที่ 18 ต.ค.61 กำหนดส่งมอบเดือนพ.ย.61 ซึ่งไทยชนะประมูล 18,000 ตัน เวียดนาม 28,000 ตัน ส่วน 2 ครั้งหลัง กำหนดส่งมอบเดือนมี.ค.62 คาดจะเปิดประมูลวันที่ 8 พ.ย. และวันที่ 22 พ.ย.นี้ และยังขายข้าวให้กับญี่ปุ่นที่เปิดประมูลตั้งแต่เดือนก.ค.-ต.ค.61 ได้กว่า 87,000 ตัน
“นอกจากการส่งมอบข้าวภายใต้สัญญาจีทูจี และแนวโน้มที่ไทยจะชนะประมูลขายข้าวให้กับฟิลิปปินส์แล้ว ยังมีคำสั่งซื้อจากตลาดต่างๆ เข้ามายังภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง เป็นผลดีต่อราคาข้าวเปลือกของไทยที่กำลังออกสู่ตลาด ที่ราคาจะสูงขึ้น ล่าสุดราคาข้าวเปลือกเจ้าอยู่ที่ตันละ 7,600-7,700 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลิตันละ 14,000-17,000 บาท ขณะที่ราคาส่งออกแบบเอฟโอบี (ณ ท่าเรือ) ข้าวขาวตันละ 413 เหรียญฯ และข้าวหอมมะลิตันละ 1,114 เหรียญฯ” อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าว
นายอดุลย์ กล่าวต่อถึงการสร้างความเชื่อมั่นและขยายตลาดข้าวไทยว่า กรมฯ มีแผนจะจัดประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในตลาดต่างๆ โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิ ข้าวคุณลักษณะพิเศษ เช่น ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวสังข์หยด และข้าว กข43 และผลิตภัณฑ์ข้าว โดยจะจัดคณะผู้แทนการค้าข้าวไปเจรจากับผู้นำเข้าฮ่องกง และเชิญผู้นำเข้าข้าวฮ่องกงมาเจรจาซื้อขายข้าวกับผู้ส่งออกไทย, จัดคณะผู้แทนการค้าไปเจรจาขยายตลาดข้าวไทยที่สิงคโปร์ ฝรั่งเศส อังกฤษ สหรัฐฯ แคนาดา แอฟริกา และโอเชียเนีย, การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหารต่างๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เป็นต้น
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีข้าวอังกอร์ของกัมพูชาและข้าวหอมเวียดนาม ได้ลำดับที่ 1 และ 2 ในการประกวดข้าวดีเด่นของโลกปี 61 และข้าวหอมมะลิไทยได้อันดับ 3 นั้น การตัดสินขึ้นอยู่กับรสนิยมของกรรมการเป็นหลัก ที่ใช้เกณฑ์ตัดสิน ได้แก่ กลิ่น รสชาติ ความเหนียวนุ่ม และรูปร่าง แต่ไม่ได้สะท้อนคุณภาพที่แท้จริงของข้าว โดยข้าวหอมมะลิไทยยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดโลก และยังคงส่งออกได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง.