เรื่อง “ทอง” ต้อง “ทำใจ”

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

เรื่อง “ทอง” ต้อง “ทำใจ”

Date Time: 23 ต.ค. 2561 05:01 น.

Summary

ช่วงนี้หลายคนคงแปลกใจว่าทำไม? ราคาทองในบ้านเราจึงตกเอาๆ จนหลุดมาเหลือบาทละ 18,000 กว่าๆ แถมบางครั้งราคาทองยังหวุดหวิดๆ หลุดต่ำกว่าบาทละ 18,000 บาทด้วย

Latest

ทำไมการปล่อยให้ไทยเป็น “ฐานฟอกเงินโลก” กระทบชีวิตและการเงินคนไทย

ช่วงนี้หลายคนคงแปลกใจว่าทำไม? ราคาทองในบ้านเราจึงตกเอาๆ จนหลุดมาเหลือบาทละ 18,000 กว่าๆ แถมบางครั้งราคาทองยังหวุดหวิดๆ หลุดต่ำกว่าบาทละ 18,000 บาทด้วย ทั้งที่เมื่อต้นปี 2561 ราคาทองคำในบ้านเรายังสูงถึงบาทละ 20,000 กว่าๆ และรักษาระดับราคาอยู่ที่เฉลี่ยประมาณบาทละ 19,500 บาทมาจนถึงเดือน ก.ค.

แต่พอถึงเดือน ส.ค.ราคาทองคำเริ่มหลุดต่ำกว่าบาทละ 19,000 บาท มาอยู่ที่บาทละ 18,000 กว่าบาท ทำให้หลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมจู่ๆราคาทองคำถึงได้ไหลรูดลงมาจนน่าใจหายตลอดช่วง 3 เดือนที่ผ่านมานี้

การที่ราคาทองคำไหลรูดมีความเกี่ยวข้องกับสงครามการค้าระหว่าง 2 ประเทศมหาอำนาจ คือ สหรัฐอเมริกากับจีน ที่ปะทุหนักขึ้นในช่วงดังกล่าวนี้หรือไม่?!

ขณะที่ในส่วนของค่าเงินที่ผันผวน โดยเฉพาะค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯและค่าเงินบาทจะมีความผันแปรกับราคาทองมากน้อยเพียงไร?

และการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด จะขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ขึ้นนั้น ทำไม? จึงมีผลกับราคาทองคำในตลาดโลก ที่สำคัญที่ทำให้คนไทยสงสัยกันหนักเข้าไปอีกคือ บ่อยครั้งที่ราคาทองคำในประเทศปรับเปลี่ยนราคาที่สวนทางกับทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก โดยบางครั้งราคาทองคำในตลาดโลกเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ราคาทองในประเทศกลับปรับขึ้นเล็กน้อยหรือไม่ปรับขึ้นเลย ขณะที่บางครั้งราคาทองคำโลกปรับลดลงเล็กน้อยหรือไม่ปรับเลย แต่ราคาทองคำในประเทศกลับปรับลดลงพรวดๆจนน่าตกใจ

ความข้องใจสงสัยทั้งหมดทั้งมวลนี้ เรามาฟังจากปากของ “กูรู” ด้านทองคำของบ้านเรากันดีกว่า เพราะน่าจะช่วยไขปริศนาคาใจนี้ได้เบ็ดเสร็จ

ทั้งนี้ ถ้าเป็นเรื่อง “ทอง” ต้องคนนี้เลย...เสี่ยจิตติ ตั้งสิทธิภักดี เพราะผูกขาดตำแหน่ง “นายกสมาคมค้าทองคำ” มาต่อเนื่องยาวนานหลายเพลา

เสี่ยจิตติ เปิดเผยถึงความผันผวนของราคาทองคำในช่วงนี้ ว่ามาจากปัจจัยเดียว คือ ข่าวผลพวงดอกเบี้ยแบงก์ชาติสหรัฐฯ หรือเฟด ขาขึ้นข้ามปี ทำให้ช่วง 2–3 เดือนก่อนหน้าราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวลดลง กดดันให้บรรดานักลงทุนยังคงเดินหน้าเทขายทองคำอย่างต่อเนื่อง

แต่หลังจากเฟดมองว่าอัตราเงินเฟ้อน้อยมาก ไม่จำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยเร็ว ค่อยๆปรับขึ้นก็ได้ บวกกับนายโดนัลด์
ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาพูดตอกย้ำเข้าไปอีก จึงทำให้ราคาทองคำในตลาดปรับขึ้นทันที

ดังนั้นเราจึงเห็นความผันผวนของราคาทองคำที่มีมากแบบลงสุดๆ และสวิงขึ้นสุดๆ

“แต่ผลพวงจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อน เงินบาทแข็งค่า ได้ทำให้ราคาทองคำในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้นไม่มากอย่างที่คิด เพราะหากค่าเงินบาทอ่อนค่าลง ราคาทองคำจะปรับเพิ่มขึ้นเยอะกว่านี้”

นายกสมาคมค้าทองคำกล่าวต่อหลังจิบน้ำเก๊กฮวยว่า ช่วงนี้ราคาทองคำอยู่ระหว่างการปรับฐาน หลังจากที่ปรับขึ้นมาเยอะแล้ว แต่เชื่อว่าราคาทองมีแนวโน้มปรับขึ้นอีกแต่ไม่มาก โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา ราคาทองคำในตลาดโลกยืนอยู่ที่ระดับกว่า 1,220 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ คิดว่าน่าจะปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1,235 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ได้ และหากขยับขึ้นมาได้ก็น่าจะถึง 1,250 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์แน่นอน

หากราคาทองในตลาดโลกขึ้นมาแตะในระดับดังกล่าว ราคาทองคำในประเทศไทยก็จะทะลุบาทละ 19,000 บาทนิดหน่อย คงไม่ปรับขึ้นมากไปกว่านี้ เพราะมีหลายๆปัจจัยมาฉุด ทั้งเศรษฐกิจโลกชะลอตัว สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน “ขีดเส้นใต้ไว้ตรงนี้เลยว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ–จีน ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวยาวที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากทำใจ”

เสี่ยจิตติ กล่าวอีกว่า หากพูดถึงกำลังซื้อทองคำในบ้านเราช่วงนี้ แม้ราคาทองจะเริ่มปรับขึ้นมาบ้าง และมีประชาชนรวมถึงนักลงทุนรายย่อยเริ่มนำทองคำออกมาขายเพื่อทำกำไรระยะสั้น แต่ตลาดการซื้อขายทองแหล่งใหญ่ในประเทศอย่าง “ย่านเยาวราช” ก็ยังไม่คึกคักหนาตาเหมือนยุคเฟื่องฟู “นั่นเพราะเศรษฐกิจในบ้านเรายังไม่ดีจริง กำลังซื้อไม่ดีและไม่มี เป็นผลจากหลายๆปัจจัยที่เราต่างก็รู้กัน ทั้งค่าเงินบาท ส่งออก ราคาสินค้าพืชผลทางการเกษตร ที่ยังไม่ดีจริง”

เสี่ยจิตติย้ำอีกครั้งว่า ช่วงนี้ผู้ค้าทองคำทั่วประเทศรู้ถึงวิกฤติ แต่ทำอะไรไม่ได้นอกจาก “ทำใจ” เพราะเศรษฐกิจโลกไม่ดีที่เกิดจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ซึ่งเป็นมหาอำนาจทั้งคู่ และส่อแววยืดเยื้อยาวนานไม่จบลงง่ายๆ กระทบเป็นโดมิโนไปทั่วโลก

“เราทำอะไรไม่ได้จริงๆ ได้แต่ทำใจ” ว่าแล้วก็จิบน้ำเก๊กฮวยแก้เก๊กซิมจนหมดถ้วย!!!

พนารัตน์ ธงไชยฤทธิ์


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ