นายสมชาย หาญหิรัญ รมช.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ในเดือน ต.ค.นี้ กระทรวงอุตสาหกรรมจะเสนอมาตรการบริหารจัดการพลาสติกทั้งระบบให้คณะอนุกรรมการเพื่อบูรณาการการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์และเศษพลาสติกที่นำเข้าจากต่างประเทศอย่างเป็นระบบ ที่มี พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานพิจารณา โดยเป็นการดำเนินการที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง เพื่อรองรับนโยบายห้ามนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์และเศษพลาสติกทุกชนิดภายใน 2 ปี และทำให้เกิดกระบวนการใช้พลาสติกที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน (เซอร์คูลาร์อีโคโนมี)
“ผมมั่นใจว่า ผลที่จะเกิดขึ้นจากมาตรการทั้งหมดครั้งนี้ที่จะประกาศออกมา จะทำให้ผู้ประกอบการคัดแยกรวบรวมขยะมากขึ้น ได้ขยะพลาสติกที่มีคุณภาพนำกลับมารีไซเคิล ซึ่งล่าสุดกระทรวงอุตสาหกรรมได้หารือร่วมกับทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการใช้พลาสติก เช่น ตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงปลายน้ำพบว่าปัญหาใหญ่ในปัจจุบันไทยมีขยะในกลุ่มพลาสติกปีละประมาณ 2 ล้านตัน สามารถนำกลับมารีไซเคิลเพื่อใช้ใหม่ประมาณ 500,000 ตัน ในจำนวนนี้เป็นขวดน้ำพลาสติกใส หรือขวดเพชร นำกลับมาใช้ใหม่ 80% ส่วนที่เหลือ เช่น ถุงพลาสติก นำกลับมาใช้ใหม่ได้เพียง 3% เนื่องจากถุงพลาสติกที่เป็นขยะ เป็นถุงที่บางมาก ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง ผู้จัดเก็บคัดแยกขยะไม่ค่อยดึงกลับมาใช้”
สำหรับมาตรการที่จะเสนอให้พิจารณา มีอาทิ มาตรการภาษีของกระทรวงการคลัง เพื่อจูงใจให้ผู้ประกอบการหันมาผลิตถุงพลาสติกที่มีขนาดหนา และใหญ่ ที่สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ ขณะเดียวกันจะส่งเสริมให้ผู้ประกอบการร้านสะดวกซื้อ ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ ห้างสรรพสินค้าทั่วไป ร้านค้าต่างๆใช้ถุงพลาสติกที่มีขนาดหนา หรืออาจเป็นมาตรการห้ามใช้ถุงพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง จะหารือให้ได้ข้อสรุปกับผู้ประกอบการอีกครั้ง.