ปัญหาผีน้อยคนไทยใช้ช่องว่างการฟรีวีซ่าแล้วหลบลักลอบทำงาน ไม่ได้มีแค่ในไต้หวัน เกาหลีใต้ ล่าสุด ที่ญี่ปุ่นพบตัวเลขเป็นทางการสูงถึง 12,268 คน กรุงโตเกียวมากที่สุด ตามมาด้วยโอซากา...
เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชาตรี อรรจนานันท์ อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ นำคณะกรมการกงสุลสัญจรติดตามปัญหาคนไทยในประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งการบริการคนไทยด้านต่างๆ ระหว่างวันที่ 5-11 ก.ย. ณ กรุงโตเกียว จ.นากาโนะ จ.มิเอะ และนครโอซากา โดยร่วมกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว และสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา นำหน่วยเคลื่อนที่ไปบริการรับแจ้งการเกิด การเสียชีวิต กาจดทะเบียนสมรส การหย่า การเปลี่ยนชื่อนามสกุล การทำบัตรประจำตัวประชาชน ทำหนังสือเดินทาง รวมทั้งเชิญแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวชไปบริการตรวจสุขภาพ และให้คำปรึกษาด้านจิตเวชแก่คนไทยที่อาศัยอยู่ตามเมืองต่างๆ ที่มารับบริการ
นายชาตรี กล่าวว่า การมาดูปัญหาคนไทยในญี่ปุ่นครั้งนี้ เพื่อให้บริการแก่คนไทยที่มีปัญหา โดยเฉพาะด้านทะเบียนราษฎร เพื่อเตรียมการเลือกตั้งที่จะมาถึงด้วย ในการประชุมหารือเกี่ยวกับปัญหาคนไทยในญี่ปุ่น สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว เปิดเผยให้ทราบว่า คนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นมีประมาณ 70,000 คน จากการที่ได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่น ทราบว่าในเขตรับผิดชอบของสถานเอกอัครราชทูตฯ ล่าสุด มีคนไทยใช้วีซ่าท่องเที่ยวและไม่กลับ หนีไปทำงาน จำนวน 6,768 คน ส่วนสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา ซึ่งรับผิดชอบเขตคันไซ 7 จังหวัด ได้รับแจ้งคนไทยหนีวีซ่า จำนวน 5,500 คน เฉพาะที่นครโอซากา จำนวน 2,200 คน คนไทยที่ใช้วีซ่าท่องเที่ยวและหนีไปทำงาน มีทั้งไปทำงานตามที่ติดต่อกันล่วงหน้า บางคนถูกหลอกมาค้าประเวณีบ้าง ทำงานนวดบ้าง บางรายถูกเจ้าของร้านอาหารหลอกจ้างมาทำงาน แต่ทำงานได้ 2 เดือนก็ลอยแพ ต้องไปหางานทำใหม่
"คนไทยที่หนีวีซ่า หลายคนที่ประสบปัญหาอยู่ไม่ได้จะไปรายงานกับตำรวจและส่ง ตม.บางรายไม่แจ้งสถานทูตและสถานกงสุล ใช้สิทธิไม่ให้ ตม.ญี่ปุ่นเปิดเผยชื่อในการส่งกลับ บางรายกลับไปก็เปลี่ยนชื่อนามสกุลแล้วกลับมาใหม่ ทางตำรวจญี่ปุ่นได้ขอความร่วมมือจากสถานทูตและสถานกงสุลไว้ กรณีที่ถูกนายหน้าหลอกลวงกักขัง บังคับค้าประเวณีว่า หากคนเหล่านี้มาขอความช่วยเหลือ ขอให้แจ้งข้อมูลเท่าที่จะเปิดเผยได้ เพื่อขยายผลจับนายจ้างคนหนีวีซ่า และนายหน้าต่อไป" นายชาตรี กล่าว
ทั้งนี้ เตือนคนไทยที่หนีวีซ่าในญี่ปุ่นว่า จะอยู่ลำบากเนื่องจากตำรวจญี่ปุ่นตรวจตราอย่างเข้มงวด และส่วนใหญ่มีปัญหาเวลาเจ็บป่วยไม่สามารถดูแลตัวเองได้ เพราะค่าใช้จ่ายที่นี่แพง และไม่มีประกันสังคม อีกทั้งโรงพยาบาลมีค่าใช้จ่ายสูง ทำให้เกิดปัญหาเครียดตามมา และคนที่อยู่อย่างผิดกฎหมาย เมื่อจะกลับประเทศไทยยังต้องพบกับ ตม.ญี่ปุ่น ต้องสอบสวนถ้าพบว่ากระทำความผิด จะจัดให้อยู่ในกลุ่มที่ต้องตรวจสอบหรือแบล็กลิสต์ รวมทั้งถูกปรับ จะไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้อีกภายใน 3 หรือ 5 ปี ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่จะพิจารณา จึงขอเตือนคนไทยอย่าใช้วีซ่าไปเที่ยวแล้วหนีทำงาน.
ข่าวเกี่ยวข้อง