
ทีมข่าวเจาะประเด็น ย้อนไทม์ไลน์ดราม่าสนั่นเมือง ยักษ์ใหญ่ลอกสูตรขนมปังรสกล้วย 3 ปีผ่านไป “เซเว่นฯ ชนะคดีดราม่า ถูกกล่าวหาก๊อบปี้โตเกียวบานาน่าไทย”...
เมื่อบทความชื่อ “โตเกียวบานาน่าไทย ที่แลกมาด้วยน้ำตา” ซึ่งเผยแพร่อยู่ในเว็บฯ บล็อกชื่อดัง ถูกแชร์ว่อนบนโลกอินเทอร์เน็ต พร้อมแคปชั่นด่าทอของผู้อ่านที่มีต่อร้านค้าปลีกยักษ์ใหญ่รายหนึ่ง
ส่วนต้นสายปลายเหตุที่ทำชาวเน็ตหัวร้อนนั้น มาจากเนื้อหาในเว็บฯบล็อกดังกล่าว ได้มีการระบุว่า เจ้าของขนม สยาม บานาน่า หรือโตเกียวบานาน่าไทยทำขนมนี้อยู่ก่อนแล้ว แต่ร้านค้าปลีกยักษ์ใหญ่แนะนำให้ลงทุนสร้างโรงงาน แลกกับวางขายในร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ แต่สุดท้ายถูกยกเลิกดีล และร้านค้าปลีกยักษ์ใหญ่ ดันผลิตขนมหน้าตาละม้ายคล้าย สยาม บานาน่า พร้อมจัดจำหน่ายเองเสียนั่น
ทว่า ไม่มีคนอ่านคนใดจะใสซื่อจนไม่รู้ว่า บริษัทยักษ์ใหญ่นั้นก็คือ ซีพี ออลล์ หรือเซเว่นอีเลฟเว่นนั่นเอง
กระทั่ง ซีพี ออลล์ ต้องออกโรงแจงแถลงข่าวปฏิเสธ ได้ใจความว่า “ซีพีไม่เคยลอก และไม่คิดจะลอก เพราะบริษัท ซีพีแรม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม ซีพี ออลล์ ที่ผลิตขนมเลอแปง มี R&D (Research and development) ถึง 200 คน มีที่ปรึกษาด้านอาหารเป็นคนญี่ปุ่น จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องลอกแบบรายเล็กรายย่อย และมองว่าช่วงนี้มีผู้ที่อยากปั่นกระแส โจมตีให้ร้ายทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงบริษัท”
พร้อมทั้งชี้แจงว่า เจ้าของสยาม บานาน่า ได้เคยติดต่อเข้ามาเพื่อขอวางขายจริง แต่อยู่ในขั้นตอนการเจรจาเท่านั้น และนับเป็นสินค้าคนละตลาดกับ “เลอ แปง บานาน่า” ที่วางขายในร้านทั่วไป โดยที่ผ่านมาพยายามติดต่อเจ้าของ สยาม บานาน่า แล้ว แต่ติดต่อไม่ได้
เมื่อข้อมูลดังกล่าวเป็นเท็จ และสร้างความเสียหายซีพี ออลล์ จึงประกาศฟ้องร้องดำเนินคดีต่อผู้เขียนบทความดังกล่าวทันที!
ระหว่างนั้น คุณพลอย เจ้าของธุรกิจขนม "สยาม บานาน่า" หรือที่เรียกว่า "โตเกียว บานาน่า เมืองไทย" ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนว่า สยาม บานาน่า อยู่ระหว่างขั้นตอนการเจรจา โดยได้รับข้อมูลว่า สินค้าดังกล่าวจะถูกวางจำหน่ายไตรมาสที่ 2 แต่กลับมีสินค้าลักษณะเดียวกันวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม จากนั้นก็ได้รับแจ้งยกเลิก ทำให้รู้สึกสับสน ยอมรับว่าหลังถูกยกเลิกรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า และฟุบไปช่วงหนึ่ง ส่วนตัวไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าทำไมสินค้าต้องมาออกในช่วงเวลาเดียวกัน
“พลอยเป็นเพียงมดตัวเล็กๆ ขออยู่เงียบๆ และเดินตามความคิดตัวเองดีกว่า” คุณพลอย แสดงท่าทีว่าจะไม่เดินหน้าชนกับยักษ์ใหญ่
กระทั่ง บริษัท ซีพี ออลล์ ได้แจ้งความดำเนินคดีอาญาแก่ผู้เขียนและเผยแพร่บทความ คือ นายชิน รติธรรมกุล (“นายชินฯ”) ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 และ 328 ซึ่งพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องและเสนอสำนวนการสอบสวนต่อพนักงานอัยการ
ต่อมา พนักงานอัยการได้เป็นโจทก์ฟ้องนายชินฯ เป็นจำเลย ข้อหาหมิ่นประมาทตามบทกฎหมายดังกล่าว ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.2843/2559
โดยนายชินฯ ได้เปิดเผยความจริงว่า นายชินฯ ได้รับข้อมูลและเนื้อหาบทความดังกล่าวมาจาก นางสาว พ. โดยที่นายชินฯ เองก็ไม่ทราบว่าเป็นความจริงหรือไม่ และได้จัดทำบทความไปโดยไม่เคยสอบถามความเป็นจริงจากบริษัทฯ ซึ่งบริษัทฯ ได้แสดงหลักฐานในการดำเนินคดีให้เห็นว่า บริษัทฯ ไม่มีการกระทำใดที่จะไปกระทำหรือเอาเปรียบผู้ประกอบการรายย่อยตามที่กล่าวหาในบทความ
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2561 ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ได้มีคำพิพากษาเป็นคดีหมายเลขแดงที่ พ.1323/2561 ว่า นายชินฯ เป็นฝ่ายผิดสัญญาฯ และให้นายชินฯ ลงประกาศบันทึกฯ ในเว็บไซต์โอเคเนชั่นภายใน 7 วัน และให้ลงต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 8 เดือน และชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัทฯ จำนวน 80,000 บาท พร้อมค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความด้วย
ภายหลังที่บริษัท ซีพีออลล์ ได้ทราบบุคคลที่เป็นตัวการที่ให้ข้อมูลและเนื้อหาที่นายชินฯ นำไปลงบทความในเว็บไซต์ดังกล่าวข้างต้น บริษัทฯ จำเป็นต้องทำความจริงให้ปรากฏด้วยการแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ เพื่อดำเนินคดีอาญาแก่บุคคลที่เป็นตัวการหรือผู้ใช้และบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 และ 328 ปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการสอบสวนของพนักงานสอบสวน.