
ภาพจากแฟ้มข่าว
รถไฟฟ้าบีทีเอส เกิดระบบอาณัติสัญญาณขัดข้องอีกเมื่อเย็นวันที่ 26 มิ.ย.ในสายสุขุมวิท และสายสีลม ด้านผู้บริหารแจง มีคลื่นมารบกวนการทำงาน ทำให้ระบบไม่เสถียร ขณะที่ กสทช.นัดมาคุยกับค่ายมือถือ...
เมื่อเวลา 15.50 น. วันที่ 26 มิ.ย.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถไฟฟ้าบีทีเอส แจ้งเกิดเหตุขัดข้อง ว่า เนื่องจากระบบอาณัติสัญญาณขัดข้องในสายสุขุมวิท และสายสีลม ส่งผลกระทบให้ขบวนรถบางขบวนเคลื่อนที่ได้ด้วยความเร็วต่ำ และจอดที่สถานีนานกว่าปกติ ทำให้เกิดความล่าช้า โดยปัญหาได้เกิดขึ้นยาวนานถึง 17.17 น. ส่งผลให้ปริมาณผู้โดยสารสะสมตกค้างตามชานชาลาบนสถานีต่างๆ เป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นเวลาเร่งด่วนที่คนเลิกงานเดินทางกลับบ้าน กว่าจะสามารถระบายผู้โดยสารเข้าระบบได้หมดก็ต้องรอถึง 18.50 น. ที่การเดินรถในสายสุขุมวิท และสายสีลม ให้บริการตามปกติ มีขบวนรถให้บริการต่อเนื่องต่อทุกสถานี
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ชี้แจงว่า บริษัทฯ ขออภัยผู้โดยสารกรณีเกิดเหตุขัดข้องในการเดินรถไฟฟ้าที่เกิดขึ้นในเช้าวันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน 2561 และติดต่อกันในระยะ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบต่อการเดินทางของผู้โดยสาร
ทั้งนี้ ทางบริษัทฯ ได้รับทราบถึงความเดือดร้อนของประชาชน และไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้ติดตามสาเหตุของปัญหา และพยายามดำเนินการแก้ไขอย่างเต็มที่เกี่ยวกับกรณีของรถไฟฟ้าบีทีเอสขัดข้องนั้น สืบเนื่องมาจาก บริษัทฯ อยู่ในระหว่างปรับเปลี่ยนระบบวิทยุที่ใช้กับระบบอาณัติสัญญาณในการควบคุมขบวนรถไฟฟ้า เพื่อให้มีความเสถียรมากขึ้น และเพื่อรองรับการให้บริการเส้นทางส่วนต่อขยายสายสีเขียวใต้ ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ที่จะเปิดให้บริการในช่วงปลายปี 2561 นี้ ซึ่งจะติดตั้งในทุกสถานีรวมทั้งในขบวนรถไฟฟ้าทั้ง 52 ขบวน โดยคาดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จในวันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน นี้
การเดินรถในช่วงระหว่างที่กำลังปรับเปลี่ยนระบบวิทยุนี้อาจจะทำให้การเดินรถไม่เสถียรเป็นเหตุให้เกิดรถขัดข้อง และเกิดความล่าช้าได้ แต่บริษัทฯ จะพยายามป้องกันให้เกิดขึ้นให้น้อยที่สุด และจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จตามกำหนด นอกจากนี้ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่า มีสัญญาณคลื่นวิทยุสื่อสารจากภายนอกที่มีความเข้มสัญญาณสูงเข้ามารบกวนสัญญาณการเดินรถ โดยเฉพาะบริเวณสถานีพร้อมพงษ์ สถานีอโศก และสถานีสยาม ซึ่งเป็นสถานีเชื่อมต่อระหว่างสายสีลมและสายสุขุมวิท ทำให้บริเวณดังกล่าวไม่สามารถเดินรถได้ด้วยความเร็วตามปกติ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด จึงทำให้การเดินรถมีความล่าช้ากว่าปกติ และทำให้มีผู้โดยสารสะสมมากในสถานีต่างๆ โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กล่าวว่า บริษัทฯ เร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อหาต้นตอของปัญหา เพื่อแก้ไขปัญหา ให้การเดินรถมีความเสถียร และการเดินทางของประชาชนกลับสู่ภาวะปกติ และเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข่าวสารกรณีเกิดเหตุการเดินรถขัดข้อง และสามารถวางแผนการเดินทางได้ทันท่วงที โดยบริษัทฯ ได้ประชาสัมพันธ์ข่าวสารให้ทราบผ่านช่องทางทวิตเตอร์ @BTS_SkyTrain แอปพลิเคชันไลน์ @Btsskytrain และเฟซบุ๊ก เพจรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งจะมีการแจ้งสถานการณ์ และรายงานความคืบหน้าเป็นระยะ เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับทราบเหตุขัดข้องและการแก้ไข
นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า บริษัทฯ ต้องขออภัยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอแสดงความเสียใจที่ไม่สามารถอำนวยความสะดวกในการเดินทางในช่วงเวลาดังกล่าวได้ ซึ่งบริษัทฯ ได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้น เพื่อให้รถไฟฟ้าบีทีเอสอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่ผู้โดยสารได้เป็นปกติรวดเร็วเช่นเดิม และจะพยายามป้องกันปัญหาการเกิดเหตุขัดข้องให้น้อยที่สุด และเมื่อเกิดเหตุขัดข้องแล้วจะรีบดำเนินการแก้ไขให้เร็วที่สุด โดยยังคงให้ความสำคัญสูงสุดต่อมาตรฐานความปลอดภัยในการเดินรถ
ด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ได้ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า พรุ่งนี้ (27 มิ.ย. 2561) สำนักงาน กสทช. เชิญ TOT DTAC BTS เข้าร่วมประชุมเพื่อหารือกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาระบบรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวขัดข้อง หลังได้รับผลการตรวจสอบการใช้คลื่นความถี่
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงาน กสทช. ได้ส่งรถตรวจสอบการใช้งานคลื่นความถี่วิทยุและการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ออกวิ่งตรวจสอบสัญญาณตั้งแต่เวลา 07.00 น. ของวันนี้ (26 มิ.ย. 2561) เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้รถไฟฟ้าสายสีเขียวขัดข้องนั้น ขณะนี้ได้รับผลตรวจสอบแล้วในวันพรุ่งนี้ (27 มิ.ย. 2561) เวลา 10.30 น. สำนักงาน กสทช. จึงเชิญ TOT DTAC และ BTS เข้าร่วมประชุมเพื่อรับฟังข้อเท็จจริง ผลการตรวจสอบการใช้งานคลื่นความถี่วิทยุและการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ พร้อมทั้งหารือเพื่อกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาระบบรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวขัดข้อง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนผู้ใช้บริการรถไฟ้ฟ้า BTS สายสีเขียว.