นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้หารือกับนายไต้ เจิ้งอู๋ รองประธานบริหารบริษัท ฟ็อกซ์คอนน์ เทคโนโลยี กรุ๊ป ซึ่งเป็น บริษัทรับจ้างผลิต (โออีเอ็ม) ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเฉพาะการรับจ้างผลิตสมาร์ทโฟน และยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทชาร์ป ซึ่งบริษัทฟ็อกซ์คอนน์ไม่มีแบรนด์เป็นของตัวเอง และจะไปตั้งโรงงานผลิตตามบริษัทชั้นนำเพื่อผลิตสินค้าป้อนบริษัทเหล่านั้น โดยได้เชิญชวนให้บริษัทฟ็อกซ์คอนน์มาลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยบริษัทจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆและพร้อมจะช่วยอำนวยความสะดวกในการลงทุน และหากไทยสามารถชักชวนบริษัทแบรนด์ยักษ์ใหญ่มาลงทุนในประเทศไทยได้ ก็มีความเป็นไปได้สูงที่บริษัทฟ็อกซ์คอนน์จะมาลงทุนในประเทศไทยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม จากการหารือพบว่า บริษัทดังกล่าวมีความสนใจที่จะลงทุนในประเทศไทย โดยเห็นว่าไทยมีศักยภาพด้านเศรษฐกิจ และมีโอกาสทางการลงทุนอีกมาก อย่างไรก็ตาม ยังขาดข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนในไทย จึงได้มอบหมายให้นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ช่วยดูแลอำนวยความสะดวกและให้ข้อมูล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทฟ็อกซ์คอนน์สามารถขอรับการส่งเสริมการลงทุนในประเภทกิจการผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคม จะได้รับสิทธิประโยชน์ทั้งการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุด 8 ปี, ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร, ยกเว้นอากรขาเข้าวัตถุดิบสำหรับใช้ผลิตเพื่อส่งออก, อนุญาตให้นำช่างฝีมือและผู้ชำนาญการต่างชาติเข้ามาทำงานในกิจการที่ได้รับส่งเสริมได้, การอนุญาตให้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินเพื่อใช้ในกิจการที่ได้รับส่งเสริม, ต่างชาติสามารถถือหุ้นได้ทั้งหมด.