“ศาลปกครองกลาง” เปิดไต่สวนคดีกลุ่มผู้ประกอบการหอพัก–ห้องเช่า รวมตัวร้องให้ระงับประกาศ สคบ.ควบคุมสัญญาห้องเช่า 2561 เป็นการชั่วคราว แจงประกาศก่อปัญหาทางปฏิบัติ–ไม่มีเวลาให้ปรับตัว ด้าน สคบ.พร้อมรับคำสั่งศาล ระบุจะนำ ประเด็นที่ผู้ประกอบการข้องใจไปปรับปรุงประกาศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 พ.ค. สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)ได้ประชุมชี้แจงประเด็นปัญหาจากการออกประกาศควบคุมให้ธุรกิจการให้เช่าอาคารเพื่ออยู่ อาศัย เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ.2561 มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2561 เป็นต้นมา โดยมี พล.ต.ต.ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ เลขาธิการ สคบ. พร้อมด้วย นายสำเรียง เมฆเกรียงไกร ประธานคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา และนายอุฬาร จิ๋วเจริญ ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา สคบ.เป็นผู้ชี้แจง ขณะที่มีบรรดาเจ้าของธุรกิจห้องเช่า อพาร์ตเมนต์ เข้าร่วมรับฟังพร้อมเสนอแนะประเด็นปัญหาที่ตามมาจากการออกประกาศนี้กว่า 50 ราย
อย่างไรก็ตาม ก่อนการประชุมชี้แจงดังกล่าว นายประสิทธิ์ และนายสำเรียง ได้ร่วมกันชี้แจงว่า ภายหลังจากที่ สคบ.ออกประกาศมาแล้วมีผู้ประกอบธุรกิจให้เช่าห้องพัก อพาร์ตเมนต์ ที่ไม่เห็นด้วยกับการออกประกาศนี้ และมีปัญหาในทางปฏิบัติมาร้องกับ สคบ.กว่า 2,000 ราย จึงได้จัดประชุมชี้แจงขึ้น แต่ล่าสุด สคบ.เพิ่งได้รับหมายศาลว่ามี ผู้ประกอบธุรกิจห้องเช่าไปร้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อให้คุ้มครองชั่วคราวการควบคุมสัญญาธุรกิจการให้เช่าอาคารที่ สคบ.ประกาศออกมา และเรียกให้สคบ.และคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา ไปชี้แจงในเวลา 13.30 น. จึงต้องรอคำพิพากษาของศาล แต่ ขอให้ผู้ประกอบการที่ติดใจประเด็นใดก็แล้วแต่
ได้นำเสนอปัญหาต่อ สคบ.ไว้ก่อน
ทั้งนี้ การแสดงความเห็นของผู้ประกอบธุรกิจ ห้องเช่ามีหลากหลายประเด็นที่เห็นว่าก่อให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการคิดค่าน้ำ ค่าไฟ ที่จะต้องเป็นไปตามอัตราที่การไฟฟ้าและการประปาเรียก เก็บในแต่ละเดือน รวมทั้งการกำหนดให้เก็บเงินค่ามัดจำได้ไม่เกิน 1 เดือน ทำให้เจ้าของห้องอาจมีปัญหาหากผู้เช่าย้ายออกแล้วทำห้องเช่าเสียหาย รวมทั้งการห้ามผู้ให้เช่าไม่มีสิทธิริบเงินค่าเช่าล่วงหน้าและเงินประกัน การห้าม เจ้าของห้องเช่าล็อกกุญแจห้องเมื่อผู้เช่าไม่จ่ายเงิน พร้อมมีการตั้งคำถามว่า หากต้องเจอผู้เช่าไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย แล้วผู้ให้เช่าจะแก้ปัญหาได้อย่างไร นอกจากนี้ ยังแสดงความเห็นว่าการออกประกาศของ สคบ.ไม่ให้เวลาปรับตัวก่อน และมีการประชาสัมพันธ์ไม่ทั่วถึง และข้อสงสัยว่าสัญญาที่ทำไปก่อนประกาศมีผลบังคับใช้ ยังใช้ได้หรือต้องทำสัญญาใหม่
นายสำเรียง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมว่า ถ้าศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก็หมายความว่าประกาศควบคุมธุรกิจให้เช่าที่อยู่อาศัยที่ สคบ.ประกาศออกมาไม่มีผลบังคับใช้ต่อไป แต่หากศาลไม่มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ประกาศนี้ก็จะมีผลต่อไป แต่ทางคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาจะนำประเด็นที่ผู้ประกอบธุรกิจห้องเช่าติดใจและเห็นว่ามีปัญหาในทางปฏิบัติมาพิจารณาให้ เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงประกาศได้
วันเดียวกัน เวลา 13.30 น. ที่ห้องไต่สวน 2 ศาลปกครองกลาง คณะตุลาการ องค์คณะที่ 14/1 เรียกแกนนำเครือข่ายกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจให้เช่าอาคารเพื่อ ที่อยู่อาศัย ผู้แทนจากคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา และผู้แทนจาก สคบ.มา ไต่สวนคดีที่ หจก.ธนกฤตพร เครือข่ายกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจฯยื่นคำร้อง ขอให้ ศาลพิจารณาไต่สวนเพื่อมีคำสั่งระงับการบังคับใช้ประกาศสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เรื่องให้ธุรกิจการให้เช่าอาคารเพื่ออยู่อาศัยเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ.2561 เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาจนถึงที่สุด โดยคดีดังกล่าว หจก.ธนกฤตพร เครือข่ายกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจฯได้ยื่นฟ้อง ว่าออกประกาศดังกล่าวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขอให้ศาลสั่งเพิกถอน.