“มิ่งขวัญ” เผย ต่างชาติเที่ยวสงกรานต์ผ่านบริษัทนำเที่ยวทะลุ 15,000 คนต่อวัน รายได้เข้าประเทศกว่า 500 ล้าน “แอตต้า” เตรียมแผนรองรับขยายลานจอดบัสเพิ่ม ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ
นางมิ่งขวัญ เมธเมาลี ประธานฝ่ายการตลาด สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) เปิดเผยถึงแนวทางเตรียมรับมือนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2561 นี้ ว่า ทางสมาคมประเมินสถานการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยผ่านบริษัทนำเที่ยวที่เป็นสมาชิกของสมาคม ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้พบว่าอาจมีมากกว่า 15,000 คนต่อวัน ที่สนใจอยากเข้ามาสัมผัสวัฒนธรรมและการละเล่นของไทย
อีกทั้ง เทศกาลวันปีใหม่ไทยเป็นช่วงที่ตรงกับเทศกาลอีสเตอร์ของต่างชาติในยุโรป คือระหว่างวันที่ 22 มีนาคม ถึง 25 เมษายนของทุกปี จึงคาดว่านักท่องเที่ยวจะเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงกระแสออเจ้า ที่ทำเป็นภาษาจีนมาแรงในประเทศจีน และจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวผ่านทางกรุงเทพมหานคร และบริษัทนำเที่ยวของสมาคมจะนำรายได้เข้าประเทศเฉลี่ยประมาณไม่น้อยกว่า 500 กว่าล้านบาทภายใน 5 วันของเทศกาลปีนี้ โดยไม่นับรวมจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเองผ่านสื่อออนไลน์อีกมากกว่า 60% ดังนั้น ทางสมาคมแอตต้า จึงได้จัดเตรียมขยายพื้นที่ลานจอดดังที่กล่าวมาเบื้องต้น และยังเพิ่มเจ้าหน้าที่ช่วยประสานงานอำนวยความสะดวกและช่วยเหลือด้านต่างๆ ภายในสนามบินให้แก่บริษัทนำเที่ยวที่เป็นสมาชิกของสมาคม ที่นำชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวยังเมืองไทยให้เกิดความประทับใจให้มากที่สุด
นางมิ่งขวัญ กล่าวให้ข้อมูลเสริมด้วยว่า โดยปกติสนามบินสุวรรณภูมิ ทางสมาคมสามารถจัดลานจอดรถบัสให้เข้ามารับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาเฉลี่ยวันละ 8,000-10,000 คนต่อวัน และช่วงที่นักท่องเที่ยวคึกคักมากที่สุดคือประมาณช่วงเวลา 11.00 น. และ 23.00 น. ที่เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน รัสเซีย และเกาหลีใต้ เข้ามาพร้อมกันในช่วงเวลาเดียวกันทำให้เกิดบริการที่ล่าช้าและแออัด ส่วนสนามบินดอนเมือง ปกติจะเข้ามารับเฉลี่ยวันละ 5,000-6,000 คนต่อวัน นักท่องเที่ยวจะคึกคักมากที่สุดช่วง 17.00 น. และ 22.00 น. เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นส่วนใหญ่ สมาคมจึงตั้งแผนรองรับแก้ไข เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ที่อาจสร้างความไม่ประทับใจแก่นักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ไทย (วันสงกรานต์) ที่จะมาถึงนี้
อย่างไรก็ตามเชื่อว่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติยังคงเลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่จะมาเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ซึ่งคาดว่ามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมร้อยละ 7 โดยมีปัจจัยค่าเงินบาทอ่อนค่าลง ค่าเงินยูโรแข็งตัวขึ้นและเศรษฐกิจภาพรวมมีแนวโน้มที่ดีขึ้น และจะเห็นภาพปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นได้อย่างชัดเจนอีกครั้งคือช่วงเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้
โอกาสนี้จึงมีความคาดหวังอยากเห็นคนไทยทุกคนและชุมชนทุกหมู่บ้านพร้อมเป็นเจ้าบ้านที่ดี ไม่เอาเปรียบนักท่องเที่ยว แสดงความมีน้ำใจ คอยให้ความช่วยเหลือเพื่อสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวทุกสัญชาติ เพื่อสร้างความประทับใจนักท่องเที่ยวในการเยือนทุกสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย และบอกต่อให้นักท่องเที่ยวคนอื่นได้เดินทางกลับมาเที่ยวบ้านเราอีกหลายๆ ครั้งและยั่งยืน.