จะเป็นหมันหรือได้เกิด? "เก็บภาษีหมา-แมว" ฟังคำตอบชัดๆ จากสรรพากร

ประเด็นร้อนๆ แทรกกลางสถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าระบาดในประเทศไทยหนีไม่พ้นแนวคิดการจัดเก็บภาษีสุนัขและแมว ซึ่งถูกจุดขึ้น โดยเรื่องนี้ กรมสรรพากรจะว่าอย่างไร... 

เมื่อวันที่ 20 มี.ค. นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง เปิดเผยกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ถึงแนวคิดการจัดเก็บภาษีสุนัขและแมวในประเทศไทย ว่า เรื่องดังกล่าว ไม่มีบัญญัติไว้ในกฎหมายเกี่ยวกับภาษี และส่วนตัวไม่ขอแสดงความคิดเห็น อย่างไรก็ตาม อาจต้องไปสอบถามจากองค์การบริหารส่วนตำบล หรือ อบต. และเทศบาลในแต่ละพื้นที่ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ แนวคิดเรื่องการเก็บภาษีสุนัขและแมวถูกเปิดประเด็นขึ้นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข สืบเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าในขณะนี้

ขณะที่เมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา นายอภัย สุทธิสังข์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า กรณีปลัดกระทรวงสาธารณสุขเสนอแนวคิดจัดเก็บภาษีผู้เลี้ยงสุนัขและแมวนั้น ไม่ใช่เรื่องใหม่ ประเทศทางฝั่งตะวันตกมีการดำเนินการอยู่แล้ว โดยในต่างประเทศจะเก็บภาษีผู้เลี้ยงเพื่อนำเงินไปใช้ดูแลสุนัขและแมวของผู้เสียภาษี

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าประเทศไทยมีงบประมาณไม่เพียงพอสำหรับการดูแลหรือฉีดวัคซีนหมาทุกตัว ต้องอาศัยงบประมาณจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (กสถ.) เพื่อช่วยกันดูแลในการฉีดวัคซีนสุนัขและแมว เพื่อไม่ให้เกิดโรคระบาดพิษสุนัขบ้า ซึ่งสร้างผลเสียต่อประชาชนทั่วไป

"แนวคิดเก็บภาษีคนเลี้ยงสุนัขและแมว เป็นสิ่งที่น่าจะต้องเกิดขึ้นในที่สุด แต่จะช้าหรือเร็วต้องรอให้มีการบูรณาการปัญหาร่วมกัน ทุกวันนี้งบประมาณรัฐบาลมีไม่เพียงพอ และหากมีการคิดเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง คงต้องแก้กฎหมายโดยการออกกฎกระทรวงซึ่งเป็นกฎหมายลูก ซึ่งมีกฎหมายหลักคือพระราชบัญญัติ ป้องกันการทารุณกรรม และการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 เพื่อให้สามารถเก็บภาษีจากคนเลี้ยงสุนัขและแมวได้ เพื่อหันมาจัดระเบียบสัตว์เลี้ยงอีกครั้ง" อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับความคิดเห็นของสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับประเด็นการเก็บภาษีสุนัขและแมวนั้น พบว่า ตามเว็บบอร์ดสนทนาต่างๆ มีทั้งกลุ่มที่เห็นด้วย เพราะมองว่า เป็นการคัดกรองผู้ที่อยากเลี้ยงสุนัขและแมวจริงๆ ให้มีความรับผิดชอบ ไม่ปล่อยทิ้งขว้าง ส่วนฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยมองว่า รัฐจะนำเงินที่ได้ไปทำอะไรบ้างต้องชี้แจงให้ชัดเจนก่อน และควรมีสวัสดิการกลับมายังสุนัขและแมวที่ถูกเก็บภาษีด้วย.