“สมคิด” ชวนญี่ปุ่นร่วมลงทุนอีอีซี

ผุดรถไฟใหม่สานฝัน “ศูนย์กลางเอเชีย-ศูนย์กลางโลก”

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในโอกาสเป็นประธานพิธีลงนามยุทธศาสตร์ความร่วมมือไทย-ญี่ปุ่น ภายใต้การเชื่อมนโยบาย Thailand 4.0 towards Connected Industries” เนื่องในโอกาสครบรอบความสัมพันธ์ 130 ปี โดยมีนักลงทุนญี่ปุ่น 600 บริษัทเข้าร่วมงาน ว่า ได้ยืนยันกับนักลงทุนญี่ปุ่นว่า ประเทศไทยเป็นที่ตั้งยุทธศาสตร์หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง (วันเบลท์วันโรด : One Belt One Road) ของจีน เพราะทุกเส้นทางดังกล่าวต้องเดินผ่านประเทศไทยไปยังจุดหมายปลายทางที่เหลือ ดังนั้น หากญี่ปุ่นยอมเชื่อตน และร่วมมือกันพัฒนาเส้นทางอีสต์เวสต์ อิโคโนมิก คอร์ริดอร์ หรือการสร้างเส้นทางรถไฟสายใหม่ โดยให้เวียดนามเป็นตัวกลาง เชื่อมลาว ผ่านไทยมาต่อไปยังพม่า อินเดีย ต่อไปประเทศอื่นทั่วโลก จะทำให้ไทยมีจุดแข็งมากพอดึงดูดนักลงทุนและเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงการค้าและการลงทุนในเอเชีย

“มั่นใจว่าหากดำเนินการได้สำเร็จจะทำให้ในอีก 10-20 ปีข้างหน้า เป็นเวลาของทวีปเอเชียจะก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก จึงเป็นเหตุผลให้ญี่ปุ่นกับไทยต้องร่วมกันพัฒนาในทุกๆด้าน เราไม่ได้บอกว่าเราดีกว่าประเทศอื่น แต่เรามีสิ่งที่ประเทศอื่นไม่มี คือ โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยจากนี้ไทยจะเร่งรัดลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรมเทคโนโลยี นำระบบดิจิทัลต่างๆ มาเร่งแก้ไขปรับปรุงจุดอ่อนที่เป็นอุปสรรครองรับการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม ช่วยเพิ่มความสามารถแข่งขันไม่ให้แพ้ชาติใดในโลกในระยะยาว”

นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า การร่วมมือกับญี่ปุ่นครั้งนี้มุ่งเน้น 3 เรื่องได้แก่ 1.การขับเคลื่อนอุตสาหกรรม 4.0 ด้านที่ 2.การพัฒนาเอสเอ็มอี 3.พัฒนาอีอีซี นำไปสู่การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 ที่เป็นยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศไทยระยะ 20 ปี โดยอีอีซีถือเป็นโครงการสำคัญที่สุดโครงการหนึ่งของรัฐบาลไทย โดยระยะที่ 1 หรืออีก 5 ปีข้างหน้า คาดมีเงินลงทุน 1.5 ล้านล้านบาท เป็นการลงทุนเอกชน 80% ที่เหลือรัฐลงทุน แต่ถามว่าทัพนักลงทุนกลุ่มนี้จะมาลงทุนในอีอีซีเท่าใด คงตอบไม่ได้เพราะเขาต้องพิจารณาเป็นโครงการๆ ต้องรอการตัดสินใจของญี่ปุ่น โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นผลในปลายปีนี้.