รอบรั้วการตลาด : ททท.ชวนสัมผัส สีสันศิลป์ถิ่นลำพูน ช่วยหนุนเศรษฐกิจชุมชน

Business & Marketing

Marketing & Trends

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

รอบรั้วการตลาด : ททท.ชวนสัมผัส สีสันศิลป์ถิ่นลำพูน ช่วยหนุนเศรษฐกิจชุมชน

Date Time: 24 ธ.ค. 2568 05:00 น.

Video

Sony ทำได้ยังไง ? หาเงินจากทุกสิ่ง แบบไม่ต้องวิ่งแข่งกับใคร | Digital Frontiers EP.51

Summary

ททท. ชวนสัมผัสสีสันศิลป์ถิ่นลำพูน ชูเสน่ห์ไทยเมืองสามไต สู่ 5 Must Do in Thailand กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน 30 ล้าน

Latest


นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท.กล่าวว่า การจัดงานสีสันศิลป์ถิ่นลำพูน(Lamphun Light & Craft) ถือเป็นต่อยอดการจัดงานเทศกาลฤดูหนาวประจำปี สู่กิจกรรมสุดสร้างสรรค์ โดยมุ่งเน้นให้เกิดการกระจายตัวการเดินทางท่องเที่ยวจากเมืองหลักสู่เมืองน่าเที่ยวจังหวัดลำพูน โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-28 ธันวาคม 2568 ณ ศาลากลาง (หลังเก่า) และถนนวังซ้าย จังหวัดลำพูน โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานไม่น้อยกว่า 30,000 คน ก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาท

ทั้งนี้ ตามที่รัฐบาลกำหนดให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในกลไกหลักที่สำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทย ททท. ได้ดำเนินการส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยใช้เสน่ห์ไทย ซึ่งเป็นจุดแข็งและจุดขายของประเทศ ภายใต้แนวคิด 5 Must Do in Thailand 

โดยมีเป้าหมายการกระจายรายได้จากการท่องเที่ยว  สู่เมืองน่าเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยได้ผลักดันการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของชุมชน ให้สอดรับกับแนวโน้มตลาดงานคราฟต์ ที่กําลังเติบโตและได้รับความสนใจจากผู้บริโภคที่ให้ความสําคัญกับความยั่งยืน เรื่องราวและการมีส่วนร่วม 

เนื่องจากการท่องเที่ยวได้มีการปรับเปลี่ยนจากการเดินทางไปเที่ยวชม (เชิงรับ) ไปสู่การมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ (Creative Tourism) ซึ่งเน้นการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรง การทําเวิร์กช็อป และการแลกเปลี่ยนกับชุมชน/ท้องถิ่น 


จากเหตุผลดังกล่าว ททท. จึงได้ศึกษาและคัดเลือกชุมชนบ้านธิ จังหวัดลำพูน เป็นชุมชนต้นแบบโดยมีความโดดเด่นด้านทุนทางวัฒนธรรมอัตลักษณ์ชาติพันธุ์ และได้รับการยกย่องว่าเป็น เมืองสามไต อันประกอบด้วยกลุ่มชาติพันธุ์คือ ไตลื้อ ไตยอง และไตยวน ซึ่งยังคงรักษาภาษา การแต่งกาย และประเพณีสําคัญ 

เช่น การเลี้ยงผีขุนนํ้า ประเพณีสืบฮีตสานฮอย เป็นต้น เมืองที่สะท้อนศรัทธา และรากเหง้าวัฒนธรรมดั้งเดิม สิ่งเหล่านี้ถือเป็นทุนทางสังคมและวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าและสามารถต่อยอดสู่การพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะอย่างยิ่งที่จะพัฒนาเป็นพื้นที่ต้นแบบด้านการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่ยั่งยืน 

สำหรับงานสีสันศิลป์ถิ่นลำพูน นั้นททท. จึงได้นำผลิตภัณฑ์ชุมชนบ้านธิที่ได้สร้างแบรนด์และภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์ชุมชนที่มีความโดดเด่นด้วยการบอกเล่าเรื่องราว  การออกแบบบรรจุภัณฑ์ การใช้สื่อดิจิทัล ประยุกต์กับการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น AR/VR และแพลตฟอร์ม e-commerce เพื่อขยายตลาดให้กับชุมชน พร้อมนี้ยังมีการนำชุมชนท่องเที่ยวที่เข้มแข็งพร้อมขาย อาทิ ชุมชนแม่ทา และชุมชนพระบาทห้วยต้ม มาร่วมในงานนี้ด้วย

นอกจากนี้การจัดงานยังได้ใช้ Event Marketing ผนวกเข้ากับเอกลักษณ์ของชุมชน ตอกย้ำภาพลักษณ์ของลำพูนในฐานะเมืองเก่าที่ Smart เข้ากับงาน Night Market และ Art & Craft Market เพื่อเป็นการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้ชุมชนได้นำเสนอสินค้าและเพิ่มมูลค่าให้กับ Soft Power ของจังหวัด ซึ่งจะช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์ลำพูนในฐานะเมืองแห่งวัฒนธรรมที่มีความสร้างสรรค์อย่างชัดเจนเป็นแรงจูงใจให้เกิดความถี่ในการเดินทางซ้ำ และทำให้ลำพูนไม่ใช่แค่ทางผ่าน 

แต่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวแสวงหาความสุขร่วมกับชุมชนท้องถิ่นอย่างเท่าเทียม โดยเฉพาะในช่วงปลายปีที่เป็นไฮซีซั่น จึงมุ่งเน้นการนำเสนอลำพูนยามค่ำคืน ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของแสง สี และศิลปะ (Light & Craft) เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพให้เดินทางมาพักค้าง และกระตุ้นการใช้จ่ายในพื้นที่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดลำพูนอย่างยั่งยืน

นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวว่า ลำพูนเป็นจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ตั้งแต่สมัยนครหริภุญชัย สะท้อนความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นทุนสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จังหวัดได้เร่งยกระดับความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานและการบริการทุกด้าน เพื่อให้ลำพูนเป็นจุดหมายปลายทางของภูมิภาค 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปลายปี ซึ่งเป็นไฮซีซั่น ทางจังหวัด ได้ต่อยอดงานประจำปีให้มีความยิ่งใหญ่และมีกิจกรรมหลากหลายมากขึ้น และในปีนี้ถือเป็นปีแรกของการยกระดับ เทศกาลท่องเที่ยวฤดูหนาวเมืองลำพูน  ด้วยการผนึกกำลังกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) 


สำหรับสีสันศิลป์ถิ่นลำพูน (Lamphun Light & Craft) ที่มุ่งหวังจะมอบความประทับใจอันมิอาจลืมเลือน และสร้างแรงบันดาลใจผ่านกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางกลับมาเยือนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะนำไปสู่การ กระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้แก่ผู้ประกอบการและชุมชน และวางรากฐานการพัฒนาที่ยั่งยืนของจังหวัดต่อไป 

นายประภัสร์  ภู่เจริญ นายกเทศมนตรีเมืองลำพูน กล่าวว่า การจัดงาน สีสันศิลป์ถิ่นลำพูน (Lamphun Light & Craft) เป็นการประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างเทศบาลเมืองลำพูน ททท. และภาคประชาชน เพื่อจุดประกายความรุ่งโรจน์ของเมืองที่มีประวัติศาสตร์กว่า 1,300 ปี ฉายแสงไปสู่อนาคตที่สดใส 

โดยการเนรมิตพื้นที่อันทรงคุณค่า ทั้งศาลากลางหลังเก่าและถนนวังซ้าย ซึ่งเป็นถนนสายวัฒนธรรมและข่วงพันปี ให้เต็มไปด้วยการแสดงแสง สี และศิลปะอันตระการตา เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างความภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมของชาวลำพูน โดยรวบรวมเรื่องราวบอกเล่าวิถีชีวิตผู้คน วัฒนธรรม และสถานที่ จากอดีตถึงปัจจุบัน โดยเนรมิตถนนวังซ้ายย่านเมืองลำพูน ด้วยเทคนิค Art Installation, Light-up, Projection Mapping และสื่อผสมที่ทันสมัยที่จะมาเติมเต็มประสบการณ์การท่องเที่ยวยามค่ำคืนอันน่าอัศจรรย์ 

โดยเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวร่วมชมงานในลักษณะ Walking Tour ใน 10 จุด ได้แก่ 1.ศิลป์ลำพูน แสงจาก Gobo Projector ฉายลวดลายดอกไม้ โคมล้านนา สีสันสดใสลงบนพื้นถนน 2. สายรุ้งแห่งศิลป์ Light-up หลากสีชุบชีวิตอาคารบ้านเรือนเก่าในย่านชุมเปรียบดั่งสายรุ้งที่พาดผ่านอดีตและปัจจุบัน 3. ร้อยเรียงแสงโคม แสงจากโคมถูกร้อยเรียงดั่งเรื่องเล่าทางวัฒนธรรม สะท้อนอัตลักษณ์ของลำพูน

4. แสงร่มเมืองร่มล้านนานำมาผสมผสานเทคนิคแสงถ่ายทอดความเป็นลำพูนที่ยังคงเปล่งประกายอยู่ท่ามกลางกาลเวลา 5.เรือนลำพูนแสงศิลป์ ปลุกพิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูนให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ผ่านเทคนิค Projection Mapping 6.โคมส่องแสง แสงแห่งศรัทธาผสมผสานความงดงามของโคมล้านนา และร่มหลากสีสัน 

7. น้องลิงก์ลิงก์ มาสคอตประจำลำพูน แรงบันดาลใจจากโคมล้านนา ผู้เป็นสัญลักษณ์ของการเชื่อมโยงอดีตกับอนาคต 8.ซุ้มประตูแห่งแสง ซุ้มประตูถูกตกแต่งด้วย แสงสีที่พาดผ่านเปรียบดังคำเชื้อเชิญให้ผู้มาเยือนได้ก้าวเข้าสู่ดินแดนแห่งวัฒนธรรม 9. I LOVE LAMPHUN แลนด์มาร์ก Neon Flex ที่ผสมผสานกับลวดลายล้านนาและสัญลักษณ์ความศรัทธาในท้องถิ่น 

10. กำแพงศิลป์ Interactive Light Wall ด้วยการติดตั้ง LED Tube ที่สามารถปรับแสงสีไปตามจังหวะดนตรี รวมทั้งยังมีกิจกรรมอื่นๆ อาทิ การโชว์บอลลูน การแสดงทางวัฒนธรรม การสาธิตวิถีชุมชน อาทิ ชุมชนบ้านธิ ชุมชนแม่ทา และชุมชนพระบาทห้วยต้ม การแสดงดนตรีจากศิลปินที่มีชื่อเสียงและวงดนตรีท้องถิ่นของจังหวัดลำพูน การออกร้านสินค้าชุมชน อาหารท้องถิ่น Food Truck เป็นต้น



ส่งต่อความอบอุ่น : บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ มูลนิธิเมืองไทยยิ้ม กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว พร้อมด้วยสโมสรฟุตบอลศรีสะเกษ ยูไนเต็ด จัดกิจกรรมเพื่อสังคมในโครงการ เมืองไทยประกันชีวิตส่งต่อความอบอุ่น สู่หัวใจคนศรีสะเกษ มอบ ผ้าห่มกันหนาว และ กล่อง Pink Box เพื่อส่งต่อความห่วงใยและกำลังใจให้แก่พ่อแม่พี่น้องประชาชนใน อำเภอกันทรลักษ์  จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา


ส่งฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย : วัน แบงค็อก ส่งต่อความช่วยเหลือแก่ทหารไทย เจ้าหน้าที่ และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดน โดย นางสาว ทัตยากรณ์ เบญจภัทรเศรษฐ์  ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายอาคารสำนักงาน โครงการ วัน แบงค็อก และ นางสาว กนกพรรณ ศรีวนาภิรมณ์  ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายทรัพยากรบุคคลและวัฒนธรรมองค์กร โครงการ วัน แบงค็อก ร่วมเชิญชวนพนักงานบริษัทภายในโครงการ และประชาชนทั่วไป บริจาคสิ่งของอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ผ่านไปรษณีย์ไทย สาขา วัน แบงค็อก โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการส่ง ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568



Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ