รอบรั้วการตลาด : อินโนบิก กลุ่มธุรกิจใหม่ในเครือ ปตท.ตั้งเป้าการเป็นผู้นำ Life Science

Business & Marketing

Marketing & Trends

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

รอบรั้วการตลาด : อินโนบิก กลุ่มธุรกิจใหม่ในเครือ ปตท.ตั้งเป้าการเป็นผู้นำ Life Science

Date Time: 3 ธ.ค. 2568 05:00 น.

Video

จาก "รวยเงิน จนเวลา" สู่เกษียณ 35! ของพอล ภัทรพล? l Money Secret EP.13

Summary

อินโนบิก กลุ่มธุรกิจใหม่ ในเครือ ปตท.ตั้งเป้ามุ่งสู่การเป็นผู้นำ Life Science ในภูมิภาคอาเซียน โดยเน้นการเติบโตร่วมกับพันธมิตร

Latest


ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และความยั่งยืน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าววา เมื่อปี 2563 อินโนบิก ก่อตั้งขึ้นในฐานะ New S-Curve ของ ปตท. โดยเล็งเห็นว่า ธุรกิจ Life Science เป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ของโลก และ New S-curve ที่สำคัญสำหรับประเทศไทยที่จะสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี 

และสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ บนฐานของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ที่ผ่านมา บริษัทมุ่งสร้าง Ecosystem ของชีววิทยาศาสตร์ ตั้งแต่การวิจัย พัฒนาธุรกิจ และการจัดจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ รองรับการเข้าสู่สังคมสูงวัย และสร้างความมมั่นคงทางด้านสาธารณสุขจนประสบความสำเร็จ

ทั้งนี้ อินโนบิก เราวางจุดยืนของตัวเองที่แตกต่างจากผู้เล่นระดับภูมิภาครายอื่น คือเราให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและความร่วมมือกับผู้ผลิต, โรงพยาบาล, และองค์กรวิจัยต่างๆ เพื่อสร้างข้อได้เปรียบเชิงธุรกิจและความแตกต่างจากคู่แข่ง 


เราเน้นในเรื่องของความรวดเร็วและขนาดของธุรกิจที่แข่งขันได้ นำความรู้ความเชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาสู่ประเทศไทย ผ่านการลงทุนใน บริษัท โลตัส ฟาร์มาซูติคอล จำกัด (Lotus Pharmaceutical Co., Ltd.) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัย พัฒนา ผลิต และจำหน่ายยาของไต้หวัน ที่มีตลาดครอบคลุมในทุกภูมิภาคของโลก จากเงินลงทุนเริ่มต้น 

ปัจจุบันมูลค่าตลาดได้เติบโตถึง 3 เท่า สะท้อนผลตอบแทนการลงทุน (ROI) ที่ชัดเจน และในปีนี้ Lotus ได้เดินหน้ารุกตลาดผลิตภัณฑ์ยาเฉพาะทางในสหรัฐฯ ผ่านการเข้าซื้อหุ้นใน Alvogen US โดยใช้เงินทุนและเงินกู้ของบริษัทเอง ไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน ทำให้ขนาดของกิจการขยับเป็นบริษัทยา Branded Generics Drug 1 ใน 20 อันดับแรกของโลก  

นับเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้อินโนบิก
เข้าสู่แพลตฟอร์มยาครบวงจร เนื่องจากมีพันธมิตรที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และโครงสร้างธุรกิจที่แข็งแรงรองรับด้วย ขณะเดียวกันยังนำยาคุณภาพดีจากในประเทศและต่างประเทศมาช่วยเพิ่มคุณภาพในการรักษา

ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงเทรนด์เทคโนโลยีและสุขภาพ ทำให้เราต้องเร่งพัฒนาตนเอง เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำในอีก 5-10 ปีข้างหน้า ด้วยการสร้างนวัตกรรมที่ทันสมัย ยาที่มีคุณภาพ ในราคาที่จับต้องได้ ทั้งจากในและต่างประเทศ เพื่อทำให้คนไทยเข้าถึงได้

 เราเชื่อว่าการอยู่เคียงข้างคนไทย ไม่ได้หมายถึงแค่การเป็นผู้จำหน่ายยา หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเท่านั้น แต่คือการสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ด้าน Life Science ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคนได้อย่างยั่งยืนด้วย


 

ด้าน ดร. ณัฐ อธิวิทวัส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด ยังได้ให้มุมมองเพิ่มเติม ถึงการเร่งเครื่องปรับแบรนด์ครั้งใหญ่ โดยเล่าว่า อินโนบิกเริ่มดำเนินธุรกิจในปี 2020 มีทุนจดทะเบียน 13,564 ล้านบาท เป็นส่วนหนึ่งของ ปตท. องค์กรด้านพลังงานแห่งชาติ ที่ถือหุ้น 100%  แบ่งเป็น 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจยา, กลุ่มธุรกิจโภชนาการเพื่อสุขภาพ, กลุ่มธุรกิจการลงทุน และ กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีและนวัตกรรม 

การปรับกระบวนทัพครั้งนี้ ก็เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ที่วางไว้ในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งเราจะเน้นธุรกิจยา (Pharmaceutical) เป็นแกนหลักในการเติบโต โดยเฉพาะกลุ่มยาสำหรับโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการดำเนินชีวิต อาทิ โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน  ควบคู่กับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยต้องการผลักดันให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เราตั้งเป้าเพิ่มการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) ให้สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด

เพราะแบรนด์แข็งแรงขึ้นเท่ากับว่าการขยายตลาดและการเติบโตของธุรกิจในระยะถัดไปก็ทำได้รวดเร็วขึ้นด้วยเช่นกันจึงเป็นที่มาของการปรับแบรนด์ ที่ไม่ได้เป็นเพียงการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ภายนอก แต่เป็นการยกระดับการดำเนินงานทั้งเชิงกลยุทธ์และเชิงปฏิบัติการ เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของอินโนบิก และสะท้อนความมุ่งมั่นขององค์กรในการก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมสุขภาพของประเทศ ตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพของประชาชน 

ตั้งแต่การป้องกัน การรักษา ไปจนถึงการฟื้นฟู รองรับการเติบโตในระดับภูมิภาค และเปิดโอกาสร่วมทุนหรือร่วมพัฒนาธุรกิจกับพันธมิตรชั้นนำทั้งในและต่างประเทศด้วยจากธุรกิจพลังงาน ข้ามสายมาสู่ Life Science และการวางตำแหน่งใหม่ในเวทีระดับภูมิภาค

ดร.ณัฐ เน้นย้ำว่า อินโนบิก กำลังตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางความร่วมมือด้านสุขภาพสำหรับอาเซียนโดยเฉพาะ (Regional Commercial Platform) มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ครบวงจร จนถึงการนำสู่ตลาดเชิงพาณิชย์ ควบคู่กับการแสวงหาโอกาสร่วมลงทุนเพื่อเร่งการเติบโตตามเป้าหมาย 

และหนึ่งในจุดแข็งที่สร้างความได้เปรียบ คือความสามารถในการเชื่อมโยงพันธมิตรระดับนานาชาติ เรานำความรู้และเทคโนโลยีจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากการลงทุนในบริษัท Lotus Pharmaceutical กลับมาพัฒนาทั้งตลาดไทยและขยายไปยังภูมิภาคอาเซียน สิ่งนี้เอง คือจุดที่ทำให้เราแตกต่างและก้าวได้เร็วกว่า

สำหรับการจัดงาน Innobic Life Science Business Excellent Move Forum ครั้งนี้ นับเป็นการประกาศถึงจุดเปลี่ยนให้ อินโนบิก กลายเป็นแบรนด์ ที่ทำให้ผู้คนมีจุดเริ่มต้นสู่ชีวิตที่ดีกว่า ดังสโลแกน Access to Excellent Life โดยอินโนบิก เข้าใจปัญหา ไม่เพียงแค่ผู้ป่วย แต่รวมถึง ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ 

ทั้งคนในประเทศและในภูมิภาค เพื่อให้สามารถดูแลและรักษาสุขภาพได้ง่ายกว่า เร็วกว่า และดีกว่านิยามคำว่า นวัตกรรมของเรา จึงมีมากกว่าความทันสมัย แต่คือนวัตกรรมที่เข้าถึงได้ (Accessible) และนำไปสู่ชีวิตที่ดี (Excellent Life) โดยเราทำหน้าที่เป็นเหมือนสะพาน เชื่อมนวัตกรรมร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งไทยและต่างประเทศ เพื่อให้ผู้คนได้เข้าถึงชีวิตที่ดีกว่าอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง 


รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้ : บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) หรือ SPC ผู้จัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของไทย เป็นหนึ่งในภาคเอกชนกว่า 30 รายที่รวมพลังกับกระทรวงพาณิชย์ ในกิจกรรมรวมใจไทย ฟื้นแดนใต้ เพื่อช่วยฟื้นเมือง ฟื้นธุรกิจ และฟื้นเศรษฐกิจภาคใต้ ผ่าน 3 กิจกรรมเร่งด่วน ได้แก่ ลดค่าครองชีพประชาชน ลดภาระซ่อมแซมบ้านเรือน ลดภาระซ่อมแซมยานพาหนะ โดยกิจกรรมทั้งหมดดำเนินงานภายใต้การขับเคลื่อนของ กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นแกนกลางสำคัญในการประสานพลังความร่วมมือรัฐ–เอกชน เพื่อเร่งฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ให้เกิดผลอย่างรวดเร็วและเป็นรูปธรรมมากที่สุด 


รับมอบโบอิ้ง : สายการบินเวียตเจ็ทไทยแลนด์ เดินหน้ายกระดับฝูงบินอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดรับมอบเครื่องบินโบอิ้ง 737-8 ลำที่สอง ถือเป็นก้าวสำคัญของแผนการเติบโตระยะยาวของสายการบิน โดยสายการบินฯ จะรับมอบเครื่องบินโบอิ้ง 737-8 รวมทั้งสิ้น 9 ลำ ภายในปี 2568 และตั้งเป้าขยายฝูงบินรวม 50 ลำภายในปี 2571 เพื่อรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของเครือข่ายเส้นทางทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ 

โดยเครื่องบินลำใหม่ โบอิ้ง 737-8 จะช่วยเสริมศักยภาพด้านปฏิบัติการ มอบตัวเลือกการเดินทางที่หลากหลาย ขยายเครือข่ายเส้นทางสู่เมืองสำคัญทั่วเอเชีย พร้อมยกระดับประสบการณ์การเดินทางให้ผู้โดยสารในทุกมิติ สอดรับกับความมุ่งมั่นของเวียตเจ็ทไทยแลนด์ ในการเดินหน้าพัฒนาให้บริการ เพื่อมอบการเดินทางที่สะดวกสบาย ราบรื่น และน่าประทับใจยิ่งขึ้นแก่ผู้โดยสารทุกท่าน


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ