"ไพรัตน์ เอื้อชูยศ" ผู้สร้างแอร์แบรนด์ไทย "Star Aire" จากวิศวกร ป.7 สู่อาณาจักรความเย็นหมื่นล้าน

การเดินทางกว่า 40 ปี ของแอร์แบรนด์ไทย “Star Aire” ที่มีจุดเริ่มต้นจาก “ไพรัตน์ เอื้อชูยศ” เด็กหนุ่มที่จบเพียงชั้นประถม 7 จากขอนแก่น ที่ซื้อตั๋วขึ้นรถทัวร์เดินทางเข้ากรุงเทพฯเพื่อหางานทำในวัยเพียง 16 ปี มีต้นทุนชีวิตไม่มากไปกว่าแรงกายและความมุ่งมั่น เริ่มทำงานแรกที่โรงกลึง ทำทุกอย่างในโรงกลึง ทั้งลงเลื่อย ลงสี ไปถึงทำชิ้นส่วนเครื่องจักรเครื่องทำน้ำแข็ง (ลูกค้าหลักของโรงกลึง) แม้ไม่ใช่เจ้าของโรงงาน แต่ประสบการณ์ที่นี่ทำให้เขาได้เรียนรู้ทุกอย่างถึงระบบความเย็น หลังทำอยู่ 4 ปี จึงย้ายไปช่วยพี่ชาย ขายตู้เย็นสเตนเลสและแอร์รถยนต์นาน 8 ปี ด้วยความมุ่งมั่นเรียนรู้ต่อยอด ทำให้เขากลายเป็น “ช่างความเย็น” ที่เข้าใจทั้งสินค้า ระบบ และลูกค้าตัวจริงแบบลึกซึ้ง

ก่อนตัดสินใจว่าเส้นทางการเป็น “ลูกจ้าง” อาจไม่เพียงพอสำหรับการดูแลครอบครัวใหญ่ ที่มีพี่น้องต้องดูแลถึง 12 ชีวิต เขาตัดสินใจแยกออกมา เริ่มจากสิ่งที่ถนัดที่สุดขายตู้เย็นสเตนเลสและแอร์รถยนต์ แต่เพราะไปซ้อนทางกับพี่ชาย จึง “เบนเข็ม” ไปจับตลาดใหม่ที่กำลังโตและยังมีพื้นที่ให้เล่น คือเปิดร้านขายแอร์บ้านขายทุกยี่ห้อ ขายเก่งจนได้เป็นดีลเลอร์ ทำให้แบรนด์ไหนก็ขายดีขึ้นที่ 1 ในตลาด!! จากจุดนี้เองที่โลกธุรกิจเริ่มรู้จักชื่อ “ไพรัตน์” ในฐานะ “นักขาย” ไม่ใช่แค่ช่าง

จนวันหนึ่งนายทุนเจ้าของโรงงานผลิตแอร์เดินเข้ามาถามว่า “สนใจทำแบรนด์ตัวเองไหม?” เขาจะผลิตและส่งขายให้ นั่นคือวันที่ “Star Aire” ถือกำเนิดขึ้น โดยโรงงานทำ OEM ผลิตให้ แล้ว “คุณไพรัตน์” นำมาติดแบรนด์ เขาเล่าอย่างภาคภูมิใจว่าคิดเองทุกอย่างตั้งแต่ชื่อแบรนด์และโลโก้ “Star Aire” และทันทีที่เริ่มลุยขาย “Star Aire” ปรากฏว่าขายดีตั้งแต่เดือนแรก จนยอดทะลุ 60 ล้านบาทใน 3 เดือนแรก ทำให้ “Star Aire” เป็นแบรนด์ไทยที่มีชื่อติดตลาดตั้งแต่วันนั้น

ผ่านไป 3 ปี ขณะที่กำลังสนุกและประสบความสำเร็จกับการขาย “Star Aire” เจ้าของโรงงานได้แจ้งว่าจะไม่ผลิตให้ขายแล้ว แต่จะขายอะไหล่ให้ ส่วนที่เหลือให้เขาผลิตและประกอบเอง!!

คุณ “ไพรัตน์” บอกว่าตอนนั้นรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่า!! แต่เหตุการณ์ที่เหมือนจะเป็นวิกฤติ กลับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญอีกครั้งของเขา ที่ทำให้ดีลเลอร์ขายแอร์ธรรมดา กลายเป็นผู้เล่นในระดับอุตสาหกรรมเต็มตัว และกลายเป็นจุดผลักสำคัญที่สุดในชีวิตของ “คุณไพรัตน์” และ “Star Aire”

เมื่อตั้งสติได้และปรึกษากับภรรยาคู่บุญ เขาตัดสินใจนำเงินที่มีทั้งหมดไปซื้อที่ดินแถวถนนติวานนท์ 3 ไร่ เพื่อสร้างโรงงาน ต้องกู้เงินนอกระบบดอกเบี้ย 2% ต่อเดือน หรือ 24% ต่อปี ก่อนนำที่ดินพร้อมโรงงาน ไปขอสินเชื่อแบงก์ นำเงินกู้ออกมาทยอยซื้อเครื่องจักรเข้ามาติดตั้งเพิ่มขึ้นกว่า 270 ล้านบาทและต้องมีเงินทุนหมุนเวียนอีกกว่า 4-500 ล้านบาท

“เหมือนโดนบังคับให้เป็นโรงงาน” แต่การ “ถูกบังคับ” ครั้งนั้นคือจุดเริ่มต้นและรากฐานของอาณาจักร Star Aire ในปี 2528 ซึ่งวันนี้เดินทางมาครบ 40 ปีเต็ม จากเด็กหนุ่มวัย 16 ที่เข้ากรุงเทพฯมาทำงานโรงกลึง วันนี้ “ลุงขาว” หรือ “คุณไพรัตน์” ในวัย 76 ปี ที่ดูหนุ่มกว่าอายุมาก มีร่างกายที่แข็งแรง จากการออกกำลังกายวันละ 2–3 ชั่วโมง ยังคงมีไฟและมีพลังในการทำงานอย่างล้นเหลือ เดินนำหน้าพาชมโรงงานพร้อมอธิบายการทำงานของเครื่องจักรและขั้นตอนการผลิตอย่างภาคภูมิใจ บอกกับเราว่าตลอด 40 ปี เขาไม่เคยหยุดซื้อเครื่องจักร ไม่เคยหยุดขยายโรงงานเพราะมีคำสั่งซื้อเพิ่มทุกปี จากที่เริ่มผลิตแค่ Star Aire แต่ 10 ปีหลังจากนั้น ก็ได้รับการติดต่อจากแบรนด์ต่างชาติ ให้ทำ OEM ให้ ทำให้ปัจจุบันเราเป็น OEM ผลิตให้แบรนด์ใหญ่ๆที่มีชื่อเสียงของต่างชาติกว่า 20 แบรนด์ทั่วโลก ทั้งแบรนด์เกาหลี ญี่ปุ่น เวียดนาม สหรัฐฯ ยุโรป และตะวันออกกลาง ด้วยคุณภาพและศักยภาพโรงงานที่มีมาตรฐานสูงระดับโลก

ทำให้ทุกวันนี้ มีการผลิตเพื่อส่งออกไปทั่วโลกกว่า 50 ประเทศ คิดเป็นสัดส่วน 90% อีก 10% ผลิตเพื่อขายในประเทศทั้งแบรนด์ Star Aire และแบรนด์อื่นๆ มีรายได้หรือยอดขายรวมทั้งปี 67 เฉียดหลักหมื่นล้านบาท!!

เมื่อให้ “คุณไพรัตน์” พูดถึงจุดแกร่งที่ทำให้ Star Aire แอร์แบรนด์ไทย ยังคงยืนหยัดยึดพื้นที่ตลาดเครื่องทำความเย็นมาได้อย่างมั่นคงและยังคงเติบโตได้ต่อเนื่อง “คุณไพรัตน์” บอกว่า Star Aire ไม่ได้แข็งแรงแค่ในเชิงผลิต จุดยืนของ Star Aire ชัดเจนว่า “คุณภาพและบริการต้องมาก่อนเป็นอันดับ 1 ราคาเป็นอันดับ 2” ด้วยแอร์เป็นสินค้าที่ลูกค้าไม่ซื้อ

ซ้ำบ่อย ดังนั้นบริการจึงสำคัญ แบรนด์ Star Aire เรามีบริการหลังการขาย 1-2 ปี ในการตรวจเช็กและบำรุงรักษา ช่างของเราต้องมีใจในการบริการและต้องให้คำแนะนำที่ดีกับลูกค้า จึงทำให้เกิดการซื้อซ้ำและแนะนำบอกต่อ

ที่สำคัญในวันที่โลกให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและการประหยัดพลังงาน “คุณไพรัตน์” จึงได้พัฒนานวัตกรรม “แอร์โซลาร์ไฮบริด” ที่ทำให้แอร์ Star Aire ใช้ไฟจากโซลาร์เซลล์ที่ผลิตเองได้ เป็นรายแรกของประเทศไทย และได้รับการโหวตให้รางวัลด้านการประหยัดพลังงาน จากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมแอร์ โดย “แอร์โซลาร์ไฮบริด” ของ Star Aire ประหยัดค่าไฟเฉพาะส่วนแอร์ได้ 60–70% ต่อเดือน ในวันที่แดดดี

ล่าสุด “คุณไพรัตน์” ยังขยายไปสู่โซลาร์อุตสาหกรรม โดยติดตั้งโซลาร์ให้โรงงานผลิตคอมเพรสเซอร์ที่ระยอง 4.4 เมกะวัตต์ และยังลงทุนติดตั้งโซลาร์ให้โรงงานต่างๆ โดยเป็น “นายทุน” ให้คู่ค้าผ่อน 15 ปี เพื่อประหยัดค่าไฟ ยกระดับตัวเองจากผู้ผลิตสินค้าเป็น “โซลูชันด้านพลังงานและความเย็นครบวงจร”

 “คุณไพรัตน์” มีหลักคิดตลอดชีวิตการทำธุรกิจที่ชัดเจนตรงไปตรงมาคือขยันและอดทน มุ่งมั่น ตั้งใจทำจริง ที่สำคัญต้องแสวงหาความรู้ใหม่ๆ และคิดล่วงหน้าไปหลายสเต็ป เขาเล่าว่าบินไปดูงานที่ต่างประเทศเสมอ ดูว่าเขามีเทคโนโลยีและนวัตกรรมอะไรใหม่ แล้วกลับมาคิดต่อยอดว่า “เราจะวิ่งให้เร็วกว่าคนอื่นได้อย่างไร” ดังนั้นแม้จบเพียงแค่ ป.7 แต่ “วิศวกรอัจฉริยะ” คนนี้ สามารถสั่งงานวิศวกรที่จบระดับปริญญาตรีและโทได้ สะท้อนชัดว่า “วุฒิ” ไม่ใช่ข้อจำกัด ถ้ารู้จริงและทำจริงได้

คุณไพรัตน์ทิ้งท้ายว่า “ฝันทุกอย่างผมได้มาหมดแล้ว” จากคนที่ล้มลุกคลุกคลาน ผมมาไกลเกินกว่าที่เคยฝันไว้!! วันนี้มีเป้าหมายเดียวคือทำให้แบรนด์ไทยยืนระยะได้อย่างมั่นคง และอัปเกรดทุกอย่างให้ไม่ตกเทรนด์...เพราะการไม่หยุดพัฒนาทำให้ Star Aire แอร์แบรนด์ไทยไม่เคยล้าหลัง!!

เลดี้แจน

คลิกอ่านคอลัมน์ "Business On My Way" เพิ่มเติม