"แพทย์หญิงพิศศรี กิจนิรันดร์สิน" หมอแม่แห่ง "drmomdiary" ยอมเป็นอินฟลูเอนเซอร์วัย 50+ เพราะลูกยุ

Business & Marketing

Marketing & Trends

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

"แพทย์หญิงพิศศรี กิจนิรันดร์สิน" หมอแม่แห่ง "drmomdiary" ยอมเป็นอินฟลูเอนเซอร์วัย 50+ เพราะลูกยุ

Date Time: 22 พ.ย. 2568 04:00 น.

Summary

"แพทย์หญิงพิศศรี กิจนิรันดร์สิน" หมอแม่แห่ง "drmomdiary" "คุณหมอโรคตา" ยอมเป็นอินฟลูเอนเซอร์วัย 50+ เพราะลูกยุ

Latest

“MELAND” สยามพารากอน สวนสนุกในร่มแห่งแรกนอกจีน แลนด์มาร์กใหม่ งบลงทุน 400 ล้าน ค่าเข้าหลักพันบาท

ท่ามกลางความร้อนแรงของการถามหาความรับผิดชอบ ความเป็นมืออาชีพ และศักดิ์ศรีของอินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งกำลังเป็นอาชีพทำเงินยอดนิยมสำหรับคนรุ่นใหม่

ในประกายเล็กๆของความเจิดจรัสแห่งวิชาชีพนี้ มีอินฟลูเอนเซอร์แพทย์หญิงวัย 56 ปี ผู้หนึ่ง ถูกทำให้เชื่อโดยบุตรชายคนเดียวของเธอ ว่าเธอสามารถทำสิ่งนี้ได้ นำประสบการณ์ที่ตกผลึกจากวัยและระยะเวลาในการทำงาน มาสะท้อนความคิดเห็นเชิงบวกด้านการใช้ชีวิต ให้คำแนะนำดุจดั่งแม่ที่มอบความหวังดีให้กับลูก รวมทั้งให้ความรู้ด้านสุขภาพในฐานะแพทย์ ผ่านการสื่อสารที่ตรงไปตรงมา มีเหตุผล ย่อยง่ายสไตล์คนที่เข้าใจการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์

นอกจากมีลูกๆ หลานๆ ติดตามผ่านโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์มเป็นจำนวนไม่น้อย แพทย์หญิงพิศศรี กิจนิรันดร์สิน แห่ง drmomdiary ยังเพิ่งได้รับรางวัล Education Creator of the Year ประจำปี 2568 บนเวที TikTok Awards Thailand จากการคัดเลือกโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในฐานะครีเอเตอร์สายสุขภาพและครอบครัว ให้ข้อมูลด้านการดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวันที่เข้าใจง่าย ผ่านเนื้อหาเป็นกันเอง

ปัจจุบัน “หมอแม่” แพทย์หญิงพิศศรี ซึ่งประกอบอาชีพแพทย์มาตลอดชีวิต เพิ่มงานใหม่ในฐานะครีเอเตอร์ อินฟลูเอนเซอร์ และผู้ประกอบการ ขายสินค้าที่เกี่ยวกับความชอบส่วนตัว ความเชี่ยวชาญด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ส่วนอาชีพหมอแบ่งเวลาทำแบบพาร์ตไทม์ ส่วนใหญ่เป็นการแทนเวรหมอคนอื่น

ย้อนกลับไปในเดือน พ.ค.2565 คุณหมอแม่ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคตาจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ทำคลิปงานรับปริญญาของบุตรชาย “ภาวินท์ กิจนิรันดร์สิน” ตามคำชวนของลูก ซึ่งจัดงานถ่ายรูปฉลองรับปริญญาของตัวเองย้อนหลังกับเพื่อนๆ หลังการระบาดของไวรัสโควิดคลี่คลาย ปรากฏคลิปนั้นไวรัล คนดูเป็นแสน

“มีคอมเมนต์เข้ามามากมาย ชื่นชมความสัมพันธ์ของเรา บอกเป็นคู่แม่ลูกที่เหมือนเป็นเพื่อน ตอนนั้นตั้งกล้องถ่ายกันเอง แม่เป็นช่างภาพให้ด้วย ส่วนภาวินท์ตัดต่อ เพราะเขาทำบริษัทโปรดักชันอยู่”

เห็นคนชอบเยอะ คุณภาวินท์จึงชวนคุณหมอแม่ทำคลิปต่อ คุณหมอบอกว่าคิดอยู่หลายเดือน “หมอมีวันนี้เพราะลูก ความสำเร็จนี้มาจากภาวินท์ เราอายุเข้า 50 แล้ว เป็นหมอมาตลอดชีวิต ไม่คิดว่าจะทำอย่างอื่นได้ ความสามารถของเราคือการเรียนหนังสือ ตั้งใจเรียน คิดว่าทำได้ดีเพียงสิ่งเดียว แต่ลูกเป็นคนที่เชื่อในตัวเรามาตลอด ภาวินท์บอกว่า แม่ก็แค่พูดแบบที่คุย สอนภาวินท์ เชื่อเถอะว่ามีคนชอบ มีคนฟัง”

จากวันนั้น ปัจจุบันคุณหมอมีช่องทางผ่านโซเชียลมีเดียหลักทุกแพลตฟอร์ม ภายใต้บริษัท ดอกเตอร์มัม จำกัด ประกอบด้วย Pawindrmom, Drmomdiary, Dr.mom official, Dr.mom club, Dr.mom house และ Dr.mom design เป็นต้น ครอบคลุมคอนเทนต์ตั้งแต่ ให้คำแนะนำในการใช้ชีวิต การรับมือกับปัญหาต่างๆ ข้อมูลสุขภาพ การออกกำลังกาย เสื้อผ้า แฟชั่น ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณหมอชอบ

“หมอก็เพิ่งรู้ตัวว่าสามารถสื่อสารได้ น่าจะเป็นทักษะที่ได้มาจากอาชีพด้วย ถ้าจะให้แนะนำ คิดว่าความจริงใจสำคัญที่สุด มาเป็นอินฟลูฯในวัยขนาดนี้ เราไม่ต้องบิดเพื่อเอาใจใครแล้ว แค่เป็นตัวเอง พูดจากใจ รับผิดชอบต่อคนฟัง อาชีพหมอได้ช่วยคน แต่เป็นการช่วยคนคนหนึ่งหรือครอบครัวของเขา พอมาทำตรงนี้ หมอได้ช่วยคนมากมายที่เขาฟังเรา เคยเจอเด็กๆเข้ามาบอก เราเป็นพื้นที่ปลอดภัยของเขา เราช่วยเขาในวันที่ย่ำแย่ เขาเลิกสูบบุหรี่เพราะเรา ฟังแล้วน้ำตาจะไหล สิ่งเหล่านี้ทำให้หมอชื่นใจ ต่างจากตอนที่เราช่วยคนไข้ในฐานะแพทย์ หมอจึงไม่อยากให้คิดว่า อาชีพใดอาชีพหนึ่งสามารถช่วยเหลือคนได้มากกว่า มีคุณค่ากว่า เพราะทุกอาชีพมีความสำคัญ มีคุณค่าไม่ต่างกัน ไม่ว่าจะอยู่ในอาชีพใด สามารถทำให้ดีที่สุดได้”

นอกจากเจตนาที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับสถาบันครอบครัวในฐานะคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว รวมทั้งอยากเป็นพื้นที่ปลอดภัย (Safe Zone) ให้กับคนต้องการที่พึ่ง คุณหมอเป็นอินฟลูฯอีกคนที่ขยับเข้าสู่แวดวงธุรกิจ แต่การขายสินค้าต้องสอดคล้องและไม่ขัดกับวัตถุประสงค์ นั่นคือการส่งเสริมสุขภาพกายและใจที่ดี

“หมอเริ่มจากขายเสื้อผ้า เพราะตัดเสื้อใส่เอง ชอบแต่งตัว แล้วขยับมาขายสินค้าเกี่ยวกับผิวพรรณ เริ่มจากเจลล้างหน้า ค่อยๆทำไป เจ๊งก็ไม่เป็นไร ปรากฏมีคนชอบ จึงขยายโปรดักส์ใหม่ๆ ตอนนี้มีประมาณ 40 สินค้า ตั้งแต่สบู่ ครีมกันแดด มอยซ์เจอไรเซอร์ กาแฟ อาหารเสริม คอลลาเจน เราไม่มีงบการตลาด จึงขายในราคาจับต้องได้”

เป็นหมอแต่มาขายอาหารเสริม คุณหมอแม่จึงพูดได้เต็มปากแบบไม่กลัวทุบหม้อข้าวตัวเองว่า อาหารเสริมไม่ได้เหมาะกับทุกคน อาหารเสริมไม่ใช่ยา ไม่สบายต้องไปรักษา อาหารเสริมต้องไม่อันตราย หากอยากสุขภาพดี ต้องกินอาหารที่ดีร่วมกับออกกำลังกาย นอกจาก 2 อย่างนี้ หากสะดวก สามารถกินอาหารเสริมร่วมได้

ปี 2568 ที่กำลังผ่านไป คุณหมอพิศศรีประเมินว่า “อาณาจักรหมอแม่” น่าจะมีรายได้แตะ 100 ล้านบาทเป็นครั้งแรก นอกจากขยายทีมงานจากเดิมทำกันแค่ 2 คน เป็น 20 คนแล้ว บริษัท ดอกเตอร์มัม จำกัด ยังลงทุนต่อเนื่อง ตั้งแต่เปิดออฟฟิศ พร้อมโชว์รูมใหม่ จัดงานแฟร์ อีเวนต์ งานเอ็กซ์โป เพื่อให้คนในคอมมูนิตี้ “หมอแม่” ได้มาพบปะกัน

นั่นเป็นเพราะวิสัยทัศน์ของซีอีโอภาวินท์ ที่มองไกลอยากให้อาณาจักร ดร.มัม ขยายสู่การเป็นศูนย์ Wellness Center เพื่อการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ สุขภาพดีทั้งกายและใจ.

เลดี้แจน

คลิกอ่านคอลัมน์ “Business on my way” เพิ่มเติม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ