
งานสีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 12 จัดขึ้นระหว่าง 2 ธ.ค. 68 - 25 ม.ค. 69, ทุก ส-อา และวันหยุด
มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับพันธมิตรหลัก ได้แก่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (TCEB) พร้อมกับผู้ร่วมสนับสนุนกิจกรรมภายในงานได้แก่
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จัดเทศกาล สีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 12 ภายใต้แนวคิด The Monsters’ Journey Blooming Inspiration ผจญภัยไปกับเหล่าผู้พิทักษ์ป่าดอยตุง สานต่อแรงบันดาลใจจากฟากฟ้า ระหว่างวันที่ 2 ธันวาคม 2568 – 25 มกราคม 2569 ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.00 – 18.00 น.
โดยมิติแห่งการพัฒนาอย่างยั่งยืน กว่า 37 ปี ของการฟื้นฟูพื้นที่ดอยตุง ทำให้พื้นที่เสื่อมโทรมกลับมาอุดมสมบูรณ์ กลายเป็นแหล่งความหลากหลายทางชีวภาพที่มีคุณค่าต่อโลกดอยตุง คือเรื่องราวความสำเร็จที่เกิดจากการพัฒนาภายใต้แนวคิด คนอยู่ร่วมกับป่า สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงเล็งเห็นถึงศักยภาพของดอยตุง และทรงริเริ่มการฟื้นฟูพื้นที่จากการปลูกฝิ่นและการทำลายป่า ให้กลับมาเป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์อีกครั้ง พร้อมสร้างอาชีพและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในพื้นที่ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้
เทศกาลสีสันแห่งดอยตุง จึงไม่เพียงเป็นงานท่องเที่ยว หากยังเป็นเวทีที่สะท้อนถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการส่งเสริม ความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity) และ การอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นของชนเผ่าบนดอยตุง ให้คงอยู่คู่ผืนป่าอย่างกลมกลืน ภายในเทศกาลสีสันแห่งดอยตุงยังคงยึดมั่นในการเป็น งานปลอดคาร์บอน (Carbon Neutral Event) ด้วยการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และนำระบบ Reusable Container มาใช้ภายในงาน เพื่อร่วมกันสืบสานเจตนารมณ์แห่งการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน อย่างแท้จริง
สำหรับงานเทศกาล สีสันแห่งดอยตุง ครั้งที่ 12 มีกิจกรรมและโซนไฮไลท์มากมาย เช่น โซนงานผ้าทอมือและหัตถกรรมอัตลักษณ์ชนเผ่าบนดอยตุงหัตถกรรมชนเผ่าที่เต็มไปด้วยภูมิปัญญาที่แม่ถ่ายทอดสู่ลูกสาว เรื่องราวเชิงวัฒนธรรม และสินค้าน่ารักมากมายแต่ละร้านสร้างสรรค์งานเย็บปักด้วยมือปรับรูปแบบให้เข้ากับเทรนด์ปัจจุบัน โซนสวนดอกไม้ ณ ลานประติมากรรมความต่อเนื่องในสวนแม่ฟ้าหลวงออกแบบพิเศษด้วยแรงบันดาลใจจากลายผ้าปักมือของชนเผ่าบนดอยตุง ถ่ายทอดความงามแห่งธรรมชาติผ่านอัตลักษณ์ของชาติพันธุ์
รวมถึงกิจกรรมหลัก The Monsters’ Journey Quest เรียนรู้ธรรมชาติ ศิลปะ และวัฒนธรรม ผ่านการเล่นสนุกในเส้นทางของ โตและผองเพื่อน เหล่าผู้พิทักษ์ป่าดอยตุง เพียงถ่ายรูปเช็กอินให้ครบทุกจุด แล้วโพสต์ลงช่องทางออนไลน์ ลุ้นรับรางวัลสุดพิเศษ
นอกจากนี้ยังมีการการเปิดตัวคาแรกเตอร์หลักพี่โตจากความร่วมมือของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง สร้างสรรค์คาแรกเตอร์ที่จะพานักท่องเที่ยวมาร่วมกันผจญภัยในสวนดอกไม้ท่ามกลางภูเขา รวมถึงกิจกรรมต่างๆ อีกมากมาย
สำหรับบัตรเข้าชมสวนและกิจกรรมพิเศษในงานได้แก่ Happy Travel Package มูลค่า 734 บาท จำหน่ายในราคาเพียง 399 บาท (รวมบัตรเข้าชมสถานที่ ของที่ระลึก กิจกรรม และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ) บัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว ได้แก่ พระตำหนักดอยตุง สวนแม่ฟ้าหลวง และ สวนรุกชาติแม่ฟ้าหลวง (ดอยช้างมูบ) ผู้ใหญ่ ราคา 90 บาท/สถานที่ และบัตรรวมสามสถานที่ราคาพิเศษ 220 บาท ส่วนลดพิเศษ 50% สำหรับนักเรียน นักศึกษา ผู้สูงอายุ คนพิการ และนักบวช และเด็กความสูงต่ำกว่า 120 ซม. เข้าชมฟรี
The Magical Stars : บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้นำอันดับหนึ่งอสังหาริมทรัพย์ไทยเพื่อความยั่งยืน และผู้พัฒนาศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ จับมือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ เดอะ วอลท์ ดิสนีย์ ประเทศไทย ทุ่มงบกว่า 800 ล้านบาท สร้างปรากฏการณ์แห่งความสุขระดับโลกส่งท้ายปีในแคมเปญ The Magical Stars เนรมิต 4 อาณาจักรเทพนิยายธีมดิสนีย์ ได้แก่ ต้นคริสต์มาสอัตลักษณ์ และ มิคกี้และมินนี่ สูง 3 เมตร ในชุดผ้าไทย, Disney The Magical Stars 2026 at centralwOrld, Magic Town ธีมมิคกี้ เมาส์ และ Magic Castle ธีมปราสาทเจ้าหญิงดิสนีย์ เพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทยช่วงปลายปี ผ่านแนวคิด Festival Economy ปลุกบรรยากาศท่องเที่ยวให้คึกคัก เชื่อมโยงความสุขจากศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ
TCP ปลุกพลังคนรุ่นใหม่ : TCP Spirit โครงการอาสาภายใต้กลุ่มธุรกิจ TCP เดินหน้าปลุกพลังคนรุ่นใหม่ร่วมดูแลอากาศและสิ่งแวดล้อม ผ่านค่าย TCP Spirit อาสา อา Guard แคมป์ปิ้งฮิมดอยเชียงดาว เรียนเรื่องราวป่าชุมชน ณ ตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ เข้าใจถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เรียนรู้เรื่องการตรวจวัดคาร์บอนเครดิตจากป่าและการดูแลป่าของชุมชน เจาะลึกบริบทการทำการเกษตรของชุมชน เพื่อร่วมกันหาแนวทางในการจัดการปัญหา ร่วมกันสร้าง Guard ในการปกป้องโลกใบนี้ไปด้วยกัน สะท้อนถึงเจตนารมณ์ของกลุ่มธุรกิจ TCP ในการมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593