
จากเหล้าขาวขวดละไม่กี่สิบบาทในร้านของชำ ไปจนถึงไวน์ฝรั่งเศสราคาหลักหมื่นต่อขวด ทั้งหมดคือ “สุราพื้นบ้าน” ที่สะท้อนวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ และกลายเป็นสินค้าส่งออกที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างมหาศาล
ในประเทศไทย สุราพื้นบ้านเคยเป็นสินค้าต้องห้าม สามารถผลิตได้เฉพาะรายใหญ่ตามกฎหมายควบคุมสุรา พ.ศ.2493
แต่หลังจากช่วงปี 2565 - 2568 ที่มีการผลักดันการ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปสามารถผลิตสุราได้ โดยไม่ต้องเป็นบริษัททุนใหญ่
แม้ว่าร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ยังไม่ได้ถูกประกาศใช้ในรูปแบบของกฎหมายฉบับเต็มโดยตรง แต่เจตนารมณ์หลักของการปลดล็อกได้ถูกนำมาบังคับใช้ ผ่านพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ที่มีผลบังคับใช้ 6 มิถุนายน 2568 หรือที่เรียกว่า “พ.ร.บ.สุราชุมชน”
โดยมีสาระสำคัญในประเด็น ดังนี้
การปรับกฎหมายนี้ส่งผลให้ภูมิปัญญาไทยด้านการผลิตสุราพื้นบ้านสามารถพัฒนาเป็นสินค้าทางเศรษฐกิจได้อย่างเป็นรูปธรรมได้
จากข้อมูลศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า มูลค่าตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปี 2568 มีตัวเลขอยู่ที่ประมาณ 1.93 แสนล้านบาท แม้ว่าจะมีแนวโน้มหดตัวลง 1.8% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่ก็ยังคงเป็นแหล่งรายได้ขนาดใหญ่ของประเทศ ที่ไม่ควรมีเพียงผู้เล่นยักษ์ใหญ่อยู่ไม่กี่กลุ่ม
เช่นเดียวกับในต่างประเทศ สุราชุมชนถือเป็นอีกหนึ่งสินค้าส่งออกที่สร้างมูลค่าให้แก่เศรษฐกิจฐานราก และในหลาย ๆ ประเทศก็มีความตั้งใจผลักดันให้เป็นสินค้า Soft Power ที่สามารถส่งมอบคุณค่าทางประวัติศาสตร์และชุมชน
เหล้าขาวถือเป็น สุราพื้นบ้านของภาคอีสาน ที่มีเอกลักษณ์ โดยใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นเป็นหลัก เช่น ข้าวเหนียว ข้าวเจ้า และบางสูตรผสมสมุนไพรพื้นบ้าน ผ่านกระบวนการนึ่ง หมัก และกลั่นหลายรอบจนได้ปริมาณแอลกอฮอล์ที่เหมาะสม
เหล้าขาวจึงเป็นทั้งเครื่องดื่มและสินค้าวัฒนธรรมที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ความนิยมของเหล้าขาวเริ่มขยายออกนอกชุมชน ผ่านงานประเพณีท้องถิ่น งานบุญสงกรานต์ และกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม รวมถึงพัฒนาเป็น สินค้า OTOP และ Craft Liquor
สาเก (Sake) ผลิตจากข้าวพันธุ์พิเศษสำหรับทำสาเก น้ำสะอาด ยีสต์ และเชื้อราโคจิ (Koji) ผ่านกระบวนการหมัก โดยแป้งในข้าวถูกเปลี่ยนเป็นน้ำตาลและหมักเป็นแอลกอฮอล์ในเวลาเดียวกัน ทำให้ได้เครื่องดื่มที่มีรสชาติและกลิ่นเฉพาะตัว และมีความท้องถิ่นสูงเนื่องจากในแต่ละภูมิภาคมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ปัจจุบันสาเกไม่ได้เป็นเพียงเครื่องดื่มในพิธีกรรมหรือการเฉลิมฉลองของคนญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังได้รับความนิยมในตลาดโลก โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ยุโรป และจีน ซึ่งได้รับแรงหนุนจากกระแสอาหารญี่ปุ่นและการท่องเที่ยว
ข้อมูลจาก Businesswire ระบุว่า มูลค่าการส่งออกสาเกในปี 2567 สูงถึง 43.5 พันล้านเยน หรือประมาณ 9.19 พันล้านบาท รวมถึงส่งออกไปกว่า 80 ประเทศทั่วโลก โดยในตลาดสหรัฐฯ เป็นแหล่งที่เติบโตมากที่สุด สะท้อนศักยภาพของสาเกในฐานะสินค้าพรีเมียมจากท้องถิ่น
ไวน์ฝรั่งเศสไม่ได้เป็นเพียงเครื่องดื่มที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่ยังสะท้อนความเป็นท้องถิ่นและเอกลักษณ์ของชุมชนผู้ผลิตอย่างชัดเจน โดยไวน์แต่ละชนิดมีราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลายพันยูโร ขึ้นอยู่กับภูมิภาคและกระบวนการผลิต เช่น Bordeaux, Burgundy, Champagne และ Alsace ใช้องุ่นพันธุ์เฉพาะของแต่ละพื้นที่ ใช้น้ำและดินของท้องถิ่น
รวมถึงเทคนิคการหมักและบ่มที่ถ่ายทอดกันรุ่นต่อรุ่น ทำให้ไวน์แต่ละขวดสะท้อนความแตกต่างของ Terroir (แปลว่า ดินแดน หรือ พื้นที่ แต่ในบริบทการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม มักหมายถึง ลักษณะเฉพาะของพื้นที่ที่ส่งผลต่อรสชาติและคุณภาพของผลิตภัณฑ์)
ไวน์เหล่านี้ถือเป็นสุราท้องถิ่นที่เชื่อมโยงกับชุมชน เช่น wine tour และ harvest festival นอกจากนี้รายได้โดยตรงที่เกิดจากกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับโรงไวน์ เช่น การซื้อไวน์และการเข้าชมโรงบ่ม สร้างรายได้รวม 5.4 พันล้านยูโร หรือ 2 แสน ล้านบาทต่อปี
เหมาไถ (Moutai) เป็น สุราพื้นบ้านของจีน มีต้นกำเนิดจากเมือง ไถโจว มณฑลกุ้ยโจว ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ
เครื่องดื่มชนิดนี้เกิดจากวัฒนธรรมการกลั่นเหล้าข้าวขาวและข้าวสาลีแบบดั้งเดิม ใช้วัตถุดิบเฉพาะของท้องถิ่น ได้แก่ ข้าวขาวท้องถิ่น น้ำจากแหล่งแม่น้ำท้องถิ่น และยีสต์ธรรมชาติที่สืบทอดกันรุ่นต่อรุ่น ผ่านกระบวนการหมักหลายขั้นตอนและบ่มในถังดินเผาหรือไม้ ทำให้ได้รสชาติและกลิ่นเฉพาะตัวที่แตกต่างจากสุราอื่น ๆ
เหมาไถได้รับความนิยมในฐานะเครื่องดื่มสำหรับพิธีการและงานเฉลิมฉลองสำคัญ เช่น งานแต่งงาน งานรัฐพิธี และเทศกาลประจำปี รวมถึงเป็น สินค้า GI (สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์) ของจีนอย่างเป็นทางการ
ในเชิงเศรษฐกิจ เหมาไถไม่เพียงเป็นสินค้าเพื่อการบริโภคภายในประเทศ แต่ยังถูกผลักดันเป็นสินค้าส่งออกพรีเมียมไปยังหลายประเทศทั่วโลก
เนื่องจากมูลค่าของเหมาไถถูกกำหนดจากรูปลักษณ์ภายนอก ปีที่ผลิต ความหายาก และการรับรองความถูกต้อง โดยมูลค่าสามารถสูงถึงขวดละ 300,000 หยวน หรือราว 1.3 ล้านบาท
เรื่องราวของสุรารอบโลกสะท้อนให้เราเห็นว่า เครื่องดื่มมึนเมาเหล่านี้ล้วนเป็นหนึ่งในความบันเทิงของมนุษย์ที่สามารถสร้างเม็ดเงินมหาศาล ไม่แพ้สินค้าส่งออกอื่น ๆ การผลักดันให้กลุ่มคนตัวเล็กเข้ามาได้ลองผิดลองถูกในสนามนี้ จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยมีแรงขับเคลื่อนจากหลากหลายภาคส่วน
ที่มา : Christies, Businesswire , ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
เมรัยไทยแลนด์
งานมหกรรมสุราชุมชนและคราฟต์เบียร์ทั่วประเทศไทยงานที่เชิดชูอัตลักษณ์ของการหมักและการกลั่นแอลกอฮอล์พื้นบ้านงานที่จะยกระดับความคราฟต์ ขับเคลื่อนความเจ๋งของสุราเมรัยไทยพร้อมกิจกรรมมากมาย ที่จะทำให้คุณได้มีเรื่องเม้าเรื่องเล่ากับมิติใหม่ๆ ของสุราไทย
มาเม้าเหล้า เม้าเบียร์ เม้ามันส์ กันได้ที่เมรัยไทยแลนด์
🗓️วันที่ 26 - 30 พ.ย. 2568 จัดเต็มกว่าเดิม!📌พบกันที่ EM WONDER & SPHERE HALL , 5th Floor @EMSPHERE
ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney